สรุปเข้าใจง่ายใช้ "Hop card" แตะจ่าย เริ่มต้น 15 บาท รถเมล์แบบไหนใช้ได้บ้าง

ตั้งแต่ปลายปี 2565 คนที่ใช้รถเมล์เป็นประจำคงได้เห็น รถเมล์ไฟฟ้า คันสีน้ำเงินเข้มๆ วิ่งให้บริการกันบ้างแล้ว เรียกได้ว่าการเปลี่ยนรถเมล์ในรอบหลายปีของประเทศไทยเป็นการพลิกโฉมการเดินทางจากคาดไม่ถึง เพราะรถเมล์แบบเดิม ๆ ที่เราทนใช้บริการกันมานั้นถูกเปลี่ยนเป็น รถเมล์ไฟฟ้า แอร์เย็นฉ่ำกันไปแล้วหลายเส้นทาง 

 

 

แต่ไม่ได้เปลี่ยนแค่รถเมล์เท่านั้น รูปแบบการจ่ายเงินค่ารถเมล์ในพ.ศ.นี้ก็เปลี่ยนไปด้วย โดยบางคันมีการทดลองใช้ให้ประชาชนใช้ บัตรฮ็อปการ์ด  "Hop card"  แตะจ่ายเงินที่ประตูได้เลย โดย  โดยสารอิเล็กทรอนิกส์แบบเติมเงิน สำหรับใช้ชำระค่ารถโดยสารไฟฟ้าไทยสมายล์บัส นำร่องสาย 4-34 วงกลมเคหะธนบุรี-พระประแดง, สาย 4-1 (สาย 6 เดิม)

ท่าเรือพระประแดง-บางลำพู และสาย 4-3 (สาย 17 เดิม) พระประแดง-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ บนรถที่มีการให้บริการเครื่องแตะบัตร  "Hop card" โดยผู้โดยสารสามารถติดต่อขอซื้อบัตร  "Hop card" ได้ที่บัสโฮสเตสหรือพนักงานเก็บค่าโดยสาร  ทั้งนี้บัตรยังไม่สามารถใช้ได้กัลรถเมล์ทุกสายซึ่งใช้ได้เฉพาะรถเมล์ไฟฟ้าคันสีน้ำเงินเข้ม ๆ เท่านั้น

 

• วิธีใช้บัตร  "Hop card" แตะตรงไหนจ่ายเท่าไหร่รู้ก่อนขึ้นรถเมล์

  

เราสามารถนำ  "Hop card"  แตะได้ตั้งแต่ทางขึ้น โดยจะมีเครื่องแตะบัตรเพื่อตัดเงินอัตโนมัติ 2 จุด ได้แก่ ประตูหน้า 1 จุด และประตูกลาง 1 จุด ผู้โดยสารจะต้องแตะบัตรที่เครื่องประตูหน้าก่อน 1 ครั้ง โดยจะจัดเก็บค่าโดยสานจะเริ่มต้นที่15 บาท สูงสุดที่ 25 หรือ 27 บาท แล้วแต่เส้นทาง หลังจากนั้นเมื่อถึงปลายทางก็แตะบัตรที่เครื่องประตูกลางอีก 1 ครั้ง เพื่อจ่ายค่าโดยสาร ก่อนจะลงจากรถ

 

บัตรฮ็อป "Hop card" สามารถซื้อได้กับบัสโฮสเตส (พนักงานเก็บค่าโดยสาร) ใบละ 100 บาท มีวงเงินในบัตร 100 บาท การออกบัตรไม่มีค่าธรรมเนียม  

 

• วิธีเติมเงิน "Hop card" สามารถที่เครื่อง ATM แอป Krungthai NEXT หรือ Mobile Banking ไม่มีค่าธรรมเนียม

 

ขั้นตอนการเติมเงินผ่าน QR code หลังบัตร
เปิดแอปฯ Krungthai NEXT เลือกสแกน เพื่อสแกน QRCode หลังบัตร  
ระบุจำนวนเงินที่ต้องการ เติมได้ครั้งละไม่เกิน 1,000 บาท 
ตรวจสอบรายการและยืนยัน ทำรายการเติมเงินเสร็จ 

 

ขั้นตอนเติมเงินผ่านเครื่อง ATM กรุงไทย

เสียบบัตรATM  >> ใส่ระหัสผ่าน >> เลือกเมนูจ่ายเงิน  >> เลือกเมนูระบุบริษัท/Biller ID  >> เลือกเมนูระบุรหัสบริษัท  >> เลือกบัญชีที่ต้องการผูกกับบัตรทำรายการ  >> ระบุรหัสบริษัท 7570  >>  ใส่จำนวนเงินที่ต้องการ ไม่เกิน 1,000 บาท  >> ระบุรหัส 16 ตัวที่อยู่ด้านหลัง Hop card  >> ตรวจสอบความถูกต้องกดปุ่มตกลงเพื่อยืนยัน   >> เติมเงินเสร็จ 

 

• "Hop card" จ่ายค่ารถเมล์แบบใหม่ แบบสะดวก ลดรายจ่ายค่าเดินทาง 

 

อย่างไรก็ตามมีการจัดทำรูปแบบการชำระค่าโดยสารราคาพิเศษผ่าน "Hop card" เพื่อช่วยลดรายจ่ายในการเดินทาง โดยผู้โดยสารที่เดินทางเฉพาะทางรถโดยสารจะคิดค่าโดยสารตามจริงแต่ไม่เกินวันละ 40 บาท แบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยว และสำหรับผู้โดยสารที่เดินทาง ในรูปแบบรถต่อเรือจะคิดค่าโดยสารตามจริงแต่ไม่เกินวันละ 50 บาท แบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยวอีกด้วย

 

 

• พลิกโฉมขนส่งสาธารณะ ตั้งเป้าใช้รถเมล์ไฟฟ้า ในกรุงเทพฯ 100% 

นอกจากการเพิ่มความสะดวก และทันสมัยในการจ่ายเงินด้วย "Hop card"  แล้ว รัฐบาลยังได้วางแผนในการหันมาใช้รถเมล์ไฟฟ้าแทนรถเมล์เครื่อยนต์ในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อลดอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์  ในปี 2566 นี้ กระทรวงคมนาคมได้ตั้งเป้าหมายจะสามารถผลักดันให้มีรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าให้บริการพี่น้องประชาชนเพิ่มขึ้นอีก 1,850 คัน เพื่อขยายผลการบริการรถโดยสารสาธารณะที่มีคุณภาพ โดยภาคเอกชนมีการพัฒนาคุณภาพบริการ เดินหน้าปรับเปลี่ยนรถโดยสารเอกชนจากรถที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลไปเป็นรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ในอีก 45 เส้นทาง และเส้นทางที่ประชาชนนิยมใช้บริการ ทำให้ภายในปี 2566 จะมีรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าให้บริการถึง 3,100 คัน 

 

 

ทั้งนี้การ ใช้รถเมล์ไฟฟ้า EV เพื่อให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ลดภาระของประชาชนในการพึ่งพิงน้ำมัน และเป็นการปรับตัวเพื่อเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำที่หวังว่าจะเกิดขึ้นในไทยได้ในอนาคตใกล้ด้วย  นอกจากจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ยังช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการขนส่งสาธารณะที่ราคาประหยัด ลดภาระค่าครองชีพ