ข่าว

ปรีดา จุลละมณฑล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ปรีดา จุลละมณฑล" สำหรับคนไทยสมัยนี้คงเป็นเพียงแค่อดีตนักกีฬาจักรยานสมัครเล่นทีมชาติไทย แต่คนที่มีวัยใกล้เคียงกับผมคืออายุห้าสิบกว่าปีขึ้นไป เขาคือราชาเหรียญทองที่สร้างชื่อให้แก่ประเทศไทยมากมาย ถ้ายุคสมัยของเขามีการให้เงินอัดฉีดนักกีฬามากเท่ากับสมัยนี้ ป

 แต่ ปรีดา จุลละมณฑล ในมุมของผม เป็นเพื่อนรุ่นพี่หัวหกก้นขวิดกันมา เป็นเจ้านายที่ให้โอกาสลูกน้องมากที่สุด  เป็นครูที่สอนเรื่องราวทุกอย่างให้ผม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคนิคการขับรถแข่งหลากหลายวิธี ทั้งวิธีการขับรถยนต์และวิธีการขี่รถมอเตอร์ไซค์ มีหลายรายการที่ลงแข่งโดยเขาเป็นผู้ขับและมีผมเป็นผู้นำทาง ไม่เว้นแม้แต่รายการยามาฮ่าแรลลี่ ครั้งที่ 1 ที่ ปรีดา จุลละมณฑล ควบยามมาฮ่า เอ็กซ์ดี 750 ซีซี มีผมซ้อนท้ายทำหน้าที่เนวิเกเตอร์

 ปรีดา จุลละมณฑล เป็นคนแรกในประเทศไทย ที่ทำรายการโทรทัศน์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับรถยนต์ตลอดทั้งรายการ ในชื่อว่า รายการมอเตอร์วีค ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 เมื่อครั้งเปิดใหม่ มีผมเป็นผู้ช่วยกำกับทางด้านเทคนิค ในขณะที่ผมไม่รู้จักเรื่องราวที่เกี่ยวกับโทรทัศน์เลยแม้แต่น้อย

 ปรีดา จุลละมณฑล ยังเป็นคนชุดแรกๆ ที่ตั้งโรงงานผลิตเสาอากาศวิทยุรับส่งออกจำหน่ายภายใต้ชื่อ แฮมช็อพ มีผมรับหน้าที่ฝ่ายผลิต, ฝ่ายจัดซื้อ และฝ่ายขายเบ็ดเสร็จ

 ปรีดา จุลละมณฑล เป็นคนที่ผลิตนิตยสารเกี่ยวกับการแข่งขันรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ โดยเฉพาะฉบับแรกของประเทศไทยชื่อ มอเตอร์สปอร์ต มีผมเป็นบรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณาและบรรณาธิการบริหารคนแรก   

 ยุคที่การแข่งขันโกคาร์ทกลับมาเฟื่องฟูจัดแข่งกันทุกเดือนที่สวนสามพราน สมัยนั้นเครื่องยนต์โกคาร์ทยี่ห้อโคเมทจากต่างประเทศโด่งดังมาก และกติกากำหนดให้เป็นเครื่องยนต์ที่ไม่มีเกียร์ถ่ายทอดกำลัง เฟรมก็ต้องนำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด ปรีดา จุลละมณฑล ดัดแปลงแท่นจิ๊กสำหรับผลิตรถจักรยานมาสร้างเฟรมโกคาร์ทเอง เอาเครื่องรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นดีที ขนาด 100 ซีซี มาตัดเกียร์ออกไป โดยมีผมเป็นคู่คิดหาวิธีการแผลงๆ และให้ "เฮียเข่ง" วันชัย วัฒนะกะ ช่างใหญ่ของสยามยามาฮ่าเป็นผู้ลงมือโดยผมไปเป็นลูกมืออีกทอดหนึ่ง เมื่อ ปรีดา ลงแข่งขันผมก็ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงเข็นสตาร์ทรถให้ติด ฮีทการแข่งขันไหนที่ว่างหรือ ปรีดา เหนื่อย  ผมก็คว้าหมวกกันน็อกลงทำหน้าที่คนขับแข่งเองบ้าง

 ประมาณปี พ.ศ.2530 ผมแยกย้ายกับ ปรีดา จุลละมณฑล ไปทำมาหากินด้วยการขับรถสิบล้อบรรทุกพืชไร่วิ่งร่อนทั่วประเทศ  ก็ได้ข่าวว่า ปรีดา บาดเจ็บจากการขี่มอเตอร์ไซค์แข่งรายการพันทรี เอ็นดูโร่ และพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสยาม ซอยโชคชัย 4 ผมจึงแวบเข้ามาเกาะขอบเตียงเยี่ยมเยียน

 วันนั้น ปรีดา จุลละมณฑล บอกกับผมว่า "นายเข้ามากรุงเทพฯ เถอะ มาช่วยกันทำรายการโทรทัศน์เกี่ยวกับรถ แล้วจะได้ช่วยกันคิดเกมแข่งให้คนมาแข่งกันเอามันอีก"  หลังจากนั้นอีกไม่เกินสองปี ผมจึงกลายเป็นเลขาธิการสนามรายการเอสโซ่ เอ็นดูโร่ การแข่งขันมอเตอร์ไซค์ประเภทเอ็นดูโร่ ที่ประยุกต์ให้คนไทยได้แข่งกัน  ซึ่ง ปรีดา จุลละมณฑล บอกกับผมว่า “นายมีหน้าที่อธิบายวิธีการแข่งให้นักแข่งรู้เรื่อง เพราะเป็นของใหม่สำหรับทุกคน มีนายคนเดียวที่พูดกับคนอื่นรู้เรื่องว่ะ” ปรีดา จุลละมณฑล เป็นคนแรกที่เรียกผมว่า “น้าเดช” จนทำให้ทุกคนในวงการเรียกผมมาจนทุกวันนี้

 วันนี้ ปรีดา จุลละมณฑล ทิ้งความยิ่งใหญ่ในอดีตและสรรพสิ่งที่สร้างไว้กับวงการยานยนต์เมืองไทย เขาจากไปในขณะที่ผมยังต้องเวียนว่ายอยู่ และรำลึกเสมอว่า ปรีดา จุลละมณฑล คือครูคนหนึ่งของผม พี่จิ๋ว คือพี่ชายที่มีพรสวรรค์ด้านกีฬาทุกชนิด หวังว่าพี่และครูของผมคนนี้ คงไปพักผ่อนอยู่ในที่อันแสนสบายและมีความสุขตลอดไปนะครับ

พัฒนเดช  อาสาสรรพกิจ

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ