เปิดอาณาจักร สหฟาร์ม ก้าวต่อไปที่มั่นคง และเส้นทางขึ้นสู่เบอร์ 1ส่งออกไก่

นึกถึงไก่สด หลายคนคงนึกถึงสหฟาร์มบริษัทเอกชนผู้เลี้ยงไก่ ขายส่งชิ้นส่วนไก่รายใหญ่ของประเทศ และยังเป็นผู้บุกเบิกตลาดไก่ไทยในต่างประเทศเป็นเจ้าแรก ๆ แม้จะเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ เติบโต แข็งแกร่ง มีอาณาจักรเลี้ยงไก่ในพื้นที่หลายร้อยไร่ แต่ที่ผ่านมา "สหฟาร์ม" ก็หนีไม่พ้นมรสุมลูกใหญ่ จากการเคยประสบปัญหาขาดสภาพคล่องอย่างหนักเมื่อกลางปี 2555 หลังจากศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งให้เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ ในปี 2557

 

 

 

นานกว่า 7 ปีที่ต้องตกอยู่ในสภาวะฟื้นฟูกิจการ แต่ปี 2565 "สหฟาร์ม" ได้กลับคืนสู่ ตระกูลโชติเทวัญ อีกครั้ง หลังที่ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ เพราะธุรกิจส่งออกได้กำไรอย่างมหาศาล ทำให้มีเงินมากพอสำหรับชำระหนี้ หลังจากฝ่าพายุลูกใหญ่ไปได้แล้วก้าวต่อไปของ "สหฟาร์ม" นับว่าเป็นก้าวที่น่าสนใจ และต้องจับตามองอย่างมาก เพราะการ กลับมาครั้งนี้เป้าหมายของ "สหฟาร์ม" ยิ่งใหญ่และมั่นคงมากขึ้นกว่าเดิมภายใต้การบริหารงานของลูก ๆ ดร.ปัญญา โชติเทวัญ   

หนึ่งในฟันเฟืองสำคัญสำหรับการขับเคลื่อนธุรกิจในเครือ "สหฟาร์ม" คือ คุณน้ำผึ้ง หรือ นางสาว จารุวรรณ โชติเทวัญ ประธานสายการตลาดต่างประเทศ บริษัท สหฟาร์ม จำกัด  ผู้ที่เข้ามาสานต่อการดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมเลี้ยงไก่ และส่งออกไก่รายใหญ่  

 

นางสาวจารุวรรณ เล่าถึง แนวคิดการขับเคลื่อนสหฟาร์มนับจากวันที่ก้าวออกมาจากแผนฟื้นฟูกิจการ ว่า  ปัจจุบันสหฟาร์มบริหารจัดการธุรกิจไก่ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ เริ่มจากการเลี้ยงไก่ ชำแหละชิ้นส่วนไก่ ไก่แปรรูป เพื่อการส่งออก รวมทั้งอาหารสัตว์  ซึ่งแนวทางการทำธุรกิจนั้นเป็นการสานต่อมาจากคุณพ่อ หรือ ดร.ปัญญา โชติเทวัญ ที่ฟูมฟักสหฟาร์มมานานนับหลายปี จนทำให้บริษัทกลายเป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ เพราะในอดีตการที่จะทำให้ต่างประเทศยอมรับในสินค้าไทยเป็นเรื่องที่ยากมาก  แต่ "สหฟาร์ม" กลับเป็นบริษัทไทยรายแรก ๆ ที่ทำให้ต่างชาติเชื่อมั่นได้ว่ากระบวนการผลิตว่ามีความปลอดภัย และสิ่งหนึ่งที่ทำให้สหฟาร์มสามารถเดินมาไกลได้มากขนาดนี้ คือ เราฟังเสียงลูกค้าเสมอ ไม่ว่าลูกค้าจะให้ปรับปรุงอย่างไรเราก็พร้อมที่จะดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐานเสมอ สิ่งนี้ทำให้ "สหฟาร์ม" กลายเป็นที่ยอมรับจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ

 

 

• ความท้าทายในการทำธุรกิจหลัง "สหฟาร์ม" กลับสู่ครอบครัวโชติเทวัญ 

 

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะพลิกธุรกิจให้ปังในทันที ทั้งหมดที่เป็น "สหฟาร์ม" ในรูปแบบนี้ล้วนมาจากความพยายามของทั้งผู้บริหารและพนักงานในความดูแลของ "สหฟาร์ม" ทั้งสิ้น นางสาวจารุวรรณ เล่าถึงเส้นทางของสหฟาร์มกับการแข่งขันที่จะดุเดือดขึ้นเพื่อดันให้สหฟาร์มกลายเป็นผู้ส่งออกไก่เบอร์  1 ของประเทศให้ได้ ว่า ก่อนอื่นเราจะต้องชำระหนี้ให้ครบทุกบาทก่อนที่จะเดินไปข้างหน้า  7-8 ปี ที่ผ่านมาเราหยุดนิ่งไปเพราะแผนฟื้นฟู ฉะนั้นจะทำอย่างไรให้เราวิ่งทัน และวิ่งแซงคนอื่นได้ ดังนั้นเป้าหมายที่จะขึ้นเป็นเบอร์ 1 เรื่องไก่จึงถือเป็นความท้าทายที่สุดขณะนี้ 

 

อีกทั้งตอนนี้ตลาดโลกมีความผันผวนทางเศรษฐกิจค่อนข้างมาก แม้ว่า สงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลกระทบทำให้วัตถุดิบที่นำมาผลิตอาหารไก่แพงขึ้น แต่ "สหฟาร์ม" ก็สามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้ เพราะเน้นการใช้วัตถุดิบภายในประเทศ เช่น ข้าวโพด เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ โรงเลี้ยงไก่ของสหฟาร์มจึงไปตั้งกลางหุบเขาในพื้นที่ลพบุรี และเพชรบูรณ์ เพราะทั้ง 2 จังหวัดเป็นแหล่งปลูกข้าวโพดขนาดใหญ่ 

 

 

 

 

• ตีตลาดส่งออกด้วย "ฟาร์มไก่อารมณ์ดี" ผลิตภัณฑ์ไก่สดภายใต้แบรนด์ "พอลดีย์"

 

พอลดีย์ เป็นแบรนด์น้องใหม่ที่ต่อยอดมาจากผลิตภัณฑ์ไก่สดดั่งเดิมที่เกิดขึ้นมาในช่วงที่โควิด-19 ระบาด โดยในช่วงวิกฤต เรามองว่าทุก ๆ วิกฤตมีโอกาสซ่อนอยู่ ดังนั้น "สหฟาร์ม" จึงทำ พอลดีย์ ขึ้นมา เพื่อต้องการเข้าถึงวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปคนต้องกักตัวที่บ้าน ทำอาหารกินเองมากขึ้นเพราะการล็อกดาวน์ ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก ๆ สำหรับแบรนด์ พอลดีย์ เป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนไก่สดที่พรีเมียมขึ้นมาจากผลิตภัณฑ์เดิม ซึ่งความพรีเมียมของ พอลดีย์ นั้น คือ "สหฟาร์ม" จะใช้ไก่ที่เลี้ยงจาก ฟาร์มไก่อารมณ์ดี ซึ่งมีกรรมวิธีการเลี้ยงที่แตกต่าง และเฉพาะตัว โดยฟาร์มไก่อารณณ์ดี จะเน้นการเลี้ยงที่เน้นให้ไก่ได้ใช้ชีวิตคล้ายกับการอยู่ตามธรรมชาติมากที่สุด ดังนั้นไก่ของ สหฟาร์มจะเป็นการการเลี้ยงแบบ Hygienidchicken Happiness 

 

 

ด้าน กรรมวิธีการเลี้ยงไก่ใน ฟาร์มไก่อารมณ์ดี จะเริ่มตั้งแต่การคัดเลือกไข่ไก่ จะต้องเลือกใบที่สวยงาม ผิวเรียบ น้ำหนักได้มาตรฐาน หลังจากฟักออกมาเป็นลูกไก่จะต้องตรวจสอบว่าลูกไก่แข็งแรง ขนสวย สุขภาพดีหรือไม่ หลังจากผ่านกระบวนการคัดเลือกแล้วจึงจะปล่อยลูกไก่ลง ฟาร์มไก่อารมณ์ดี โดยในฟาร์มจะมีกองฟาง ขอนข้าวโพด ต้นฟ้าทะายโจรให้จิกเล่น และอุปกรณ์ ให้ไก่ได้วิ่งเล่นอย่างอิสระ ในฟาร์มไก่อารมณ์ดีจะเลี้ยงไก่ได้เพียงแค่ 6-8 ตัวต่อตารางเมตรเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความแออัด ถึงเวลาก็จะเปิดเพลงให้ไก่ฟัง ซึ่งเพลงที่เปิดจะต้องเปิดเพลงคลาสสิคเท่านั้น 

 

 

หลังจากที่ไก่เริ่มโตจะมีการดูว่าไก่มีรอยแผล หรือมีนิสัยกร้าวร้าวหรือไม่ หากพบว่าไก่ตัวใดตัวหนึ่งไม่ได้มาตรฐานของ ฟาร์มไก่อารมณ์ดี ก็จะคัดออกไปเลี้ยงในโรงเลี้ยงธรรมดา ที่สำคัญคือจะต้องไม่ทำให้ไก่เครียด เพราะหากไก่เริ่มเครียดจะส่งผลต่อทั้งเนื้อไก่ กระดูก ไปจนถึงชิ้นส่วนอื่น ๆ  แต่เนื้อไก่ของแบรนด์ พอลดีย์ จะมีความหนุ่ม เนื้อสัมผัสจะต่างออกไป ที่สำคัญคือไก่ของ พอลดีย์ เป็นไก่ยูริกต่ำกว่าไก่ทั่วไป 20% ซึ่งแน่นอนว่าดีต่อสุขภาพ รวมถึงปัจจุบันคนเริ่มหันมาสนใจอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น ดังนั้นสหฟาร์มตั้งใจจะส่งแบรนด์ พอลดีย์ ออกไปตีตลาดต่างประเทศด้วย นอกเหนือจากแผนการส่งออกเนื้อไก่ ชิ้นส่วนไก่ และไก่ปรุงสุกเดิมที่ทำอยู่ 

 

 

 

• ก้าวใหม่ของ "สหฟาร์ม" ที่จะถูกเติมเต็มด้วย สหฟาร์มซูเปอร์มาเก็ต และ บ้านสุขาวดี 

 

นอกเหนือไปจากอุตสาหกรรมส่งออกไก่สดแล้ว ขณะนี้สหฟาร์ม ได้ยังมีบริการ สหฟาร์มซูปเปอร์มาร์เก็ต รามอินทรา กม.8 ซึ่งเป็นหน้าร้านขายผลิตภัณฑ์สหฟาร์มทั้งหมดในรูปแบบขายปลีก ราคาหน้าฟาร์ม  ที่เป็นหน้าร้านเพียงสาขาเดียวเท่านั้น นอกจากนี้ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ "สหฟาร์ม" จะเปิดบริการ บ้านสุขาวดี ให้กลับมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของพัทยา ซึ่งภายในจะมีทั้งมุมถ่ายรูป จุดซื้อผลิตภัณฑ์ของสหฟาร์ม ซึ่งการกลับมาของ บ้านสุขาวดี นั้นเป็นไปตามความตั้งใจของคุณพ่อ ที่ต้องการดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาจับจ่ายในประเทศ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของบ้านเรา 

 

 

 

"แม้จะเป็นการทำธุรกิจของคนรุ่นใหม่ แต่เรายังยึดถือหลักการทำธุรกิจตามรอยของคุณพ่อ ซึ่งคุณพ่อต้องการทำธุรกิจเพื่อประเทศชาติ จะเห็นได้ว่าทุกกระบวนการลี้ยงไก่ไปจนถึงการผลิตเราแทบจะใช้วัตถุดิบภายในประเทศ 100 % เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรในประเทศด้วย โดยการบริหารสหฟาร์มจะยึดหลัก โปร่งแสง น้ำใส สะอาดบริสุทธิ์ ยุติธรรม ตามปณิธานของ ดร.ปัญญา โชติเทวัญ " นางสาวจารุวรรณ กล่าวสรุป