ข่าว

"ผบช.น." ยัน ไม่ได้สั่งลบภาพ CCTV สั่งสอบ 2 ตำรวจ ยืนประชิด นักท่องเที่ยว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ผบช.น." ยัน ไม่ได้สั่งการลบภาพ CCTV ส่วน ปมรับผลประโยชน์อยู่ระหว่างรวบรวมพยานบุคคล-บันทึกรับสารภาพ เชื่อมโยงภาพวงจรปิด สั่งสอบเพิ่มแล้ว เน้น 2 ตำรวจยืนประชิด นักท่องเที่ยว

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล หรือ "ผบช.น." กล่าวว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้น ปรากฎข้อเท็จจริงว่า มีการตั้งจุดตรวจบริเวณหน้าสถานทูตจีนจริง และปรากฏภาพนักท่องเที่ยวมีการครอบครอง บุหรี่ไฟฟ้า

 

 

ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจในขณะปฎิบัติหน้าที่ซึ่งพบเห็นวัตถุผิดกฎหมายดังกล่าว ไม่ได้ตรวจยึดเป็นของกลางเพื่อส่งตรวจสอบและดำเนินคดีตามกฎหมายกับ นักท่องเที่ยว แต่ให้นักท่องเที่ยวเดินทางออกจากจุดตรวจไป

 

ส่วนกรณีนี้เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ซึ่งทาง กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้สั่งการให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาแล้วจำนวนหลายนาย

 

 

ส่วนเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์จาก นักท่องเที่ยว นั้น จะต้องดำเนินการติดตามพยานหลักฐาน ซึ่งยังอยู่ระหว่างการรวบรวมให้ชัดเจน ทั้งพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องที่จะต้องเรียกมาสอบสวน พยานเอกสาร บันทึกรับสารภาพ จำนวนเงินที่แน่นอน ตามที่มีกระแสข่าวนั้น ซึ่งหากพบว่ามีความผิดชัดเจน ก็จะดำเนินการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ไม่ได้ละเว้น

 

 

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบหลักฐานที่ตำรวจได้รับมาในขณะนี้ ทำให้ได้ความชัดเจนในเหตุการณ์ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการเรียกตรวจค้น ซึ่งคณะสอบสวน ได้ตั้งประเด็นสอบสวนต่อไปว่า เหตุใดจึงมีการเรียกให้หยุดตรวจค้น และทำไมถึงใช้เวลาตรวจค้นนาน ซึ่งผลการสอบสวนจะถูกนำมาเชื่อมโยงกับหลักฐานจากกล้องวงจรปิด

 

 

"ยืนยันว่า ตำรวจไม่มีการสั่งการให้ลบภาพจากกล้องวงจรปิดแต่อย่างใด ซึ่งสามารถตรวจสอบได้เพราะเป็นกล้องของกรุงเทพมหานคร ส่วนกล้องที่ติดหมวกของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะนี้ได้รวบรวมส่งไปที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานให้ทำการตรวจสอบ เนื่องจากไฟล์ถูกลบจริง แต่เป็นการลบเองหรือไฟล์หมดอายุนั้น ต้องรอผลการตรวจสอบอีกครั้ง ยืนยันว่าไม่มีใครสั่งการให้ทำเรื่องผิดกฎหมาย"

 

ผบช.น.แถลง

 

สำหรับกล้องวงจรปิดที่หน้าสถานทูต ไม่สามารถจะเข้าไปดำเนินการอะไรได้อยู่แล้ว ซึ่งตำรวจได้ทำหนังสือขอรูปภาพจากกล้องดังกล่าวไปแล้วตั้งแต่วันแรก ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรอการตอบรับอยู่ เนื่องจากติดวันหยุดเสาร์อาทิตย์ พร้อมยืนยันว่า หากใครมีพยานหลักฐานหรือคลิปภาพใด ก็ยินดีรับ และจะดำเนินการตามความเป็นจริง ตำรวจที่ไม่ดี จะไม่เก็บไว้ในองค์กร โดยคลิปที่นายชูวิทย์อ้างว่ามีการส่งเงินให้นั้น ตำรวจยังไม่มี

 

 

ส่วนประเด็นการรับสารภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งด่านนั้น พล.ต.ท.ธิติ ระบุว่า จากการสอบครั้งแรก ยืนยันว่ายังไม่มีใครรับสารภาพ แต่ขณะนี้ได้สั่งการให้มีการสอบสวนเพิ่มเติมแล้ว ซึ่งจะมีการกลับคำให้การหรือไม่ขอตรวจสอบเพิ่มเติมก่อน แต่หากหลักฐานชัดก็จะดำเนินคดีเพิ่มเติมทุกราย

 

 

สำหรับกรณีที่ นายชูวิทย์ ให้ข้อมูลว่ามีหญิงไทยเป็นผู้ส่งมอบเงินให้ตำรวจนั้น เรื่องบุคคลในที่เกิดเหตุเป็นประเด็นที่ตำรวจได้วางกรอบการสืบสวนเอาไว้แล้วตั้งแต่แรก โดยจะเร่งรัดติดตามบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดมาสอบสวน ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างรอข้อมูลเพิ่มเติมว่า มีบุคคลนอกเหนือจาก คนขับรถ หญิงชาวไต้หวัน และเพื่อนชาย 3 คน เข้ามาที่ด่านเพิ่มเติมหรือไม่ ขณะที่เพื่อนชายทั้ง 3 คน ก็ได้พยายามติดต่อให้เข้ามาให้การแล้ว เพราะการจะดำเนินคดีเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์จะต้องสอบสวนทั้งผู้ให้และผู้รับให้ชัดเจน แต่การประสานงานกับทางไต้หวัน ต้องทำผ่านเจ้าหน้าที่ เพราะได้ประสานงานโดยตรงไปแล้วแต่ไม่ได้รับการตอบรับ

 

 

อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวว่า จาก ภาพวงจรปิด ที่ปรากฎที่บริเวณด่าน ตำรวจ ได้มุ่งเป้าการสอบสวนข้อเท็จจริงไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ที่มีลักษณะการยืนอยู่ใกล้ชิดกับกลุ่มของนักท่องเที่ยวมากที่สุด แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่ามีการกระทำความผิดจริงหรือไม่ ส่วนที่มีรายงานว่า ในขณะเกิดเหตุ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 นายที่ไม่ได้เข้าเวรในวันดังกล่าว แต่เดินทางเข้ามาที่ด่าน ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างให้ชุดสืบสวนดำเนินการตรวจสอบอยู่เช่นกัน

 

ผบช.น.แถลง

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ