ข่าว

โฆษกตร.ท่องเที่ยว ความคืบหน้า ปมคลิป vvip ทัวร์จีน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โฆษกตร.ท่องเที่ยว แจงยิบ ประเด็นเพิ่มเติมปมคลิปvvip นักท่องเที่ยวจีน บอกใส่ชุดตำรวจได้ตลอดไม่ผิดระเบียบ ระบุ พร้อมลงโทษทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องแพคเกจพิเศษหากพบผิดกม.

ความคืบหน้าในกรณีคลิปตำรวจอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวจีน ล่าสุด พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว มอบหมายให้ พล.ต.ต. อภิชาติ สุริบุญญา โฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้ชี้แจงความคืบหน้ากรณีนี้ว่า  หลังจากที่ได้มีการชี้แจงข้อเท็จจริง 8 ข้อต่อสังคมไปแล้ว เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมานั้น ทางกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเรื่องราวและกระแสข่าวที่เกิดขึ้น  และมีความคืบหน้าเพิ่มเติม

 พล.ต.ต. อภิชาติ สุริบุญญา โฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว  

ประเด็นแรกที่จะมีการเรียกสอบนักท่องเที่ยวสาวชาวจีนที่ปรากฏในคลิปดังกล่าว ทางตำรวจท่องเที่ยวพบว่า ขณะนี้นักท่องเที่ยวจีนรายดังกล่าว ได้เดินทางออกจากประเทศไทยไปแล้ว ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้  ยังไม่ถึงขั้นเป็นคดีอาญา แต่หากสืบสวนเพิ่มเติมแล้วพบว่ามีความจำเป็นถึงขึ้นเป็นคดีอาญาขึ้นมา

และถ้ามีความจำเป็นต้องขอข้อมูลจากนักท่องเที่ยวรายนี้ ก็สามารถขอความร่วมมือทางอาญาระหว่างประเทศได้ ซึ่งทางกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว จะใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบที่สุด เนื่องจากไม่ต้องการให้กระทบกระเทือนภาพลักษณ์และบรรยากาศการท่องเที่ยวของไทยที่กำลังดำเนินไปในทิศทางที่ดี


ส่วนในกรณีที่มีการพูดถึงกันในสื่อทั่วไปว่าประเทศจีนมีการโพสต์ขายบริการพิเศษในการมาเที่ยวประเทศไทย เรื่องนี้ขอยืนยันว่า ทางตำรวจท่องเที่ยวจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อดำเนินการสืบสวนหาข้อมูลอย่างจริงจัง ว่ามีกลุ่มบุคคล บริษัทห้างร้าน เว็บไซด์ หรือข้าราชการหน่วยใด สังกัดใด เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง หากพบการกระทำความผิดจริง จะรวบรวมข้อมูลดำเนินการอย่างเด็ดขาด จริงจัง และไม่มีการละเว้นอย่างแน่นอน  และขอถือโอกาสนี้ ขอบคุณเบาะแสข้อมูลจากพี่น้องประชาชนในทุกช่องทางที่นำเสนอมาให้ ซึ่งนับเป็นโอกาสอันดีที่จะทำให้การท่องเที่ยวไทยโปร่งใสและมีความเท่าเทียมมากยิ่งขึ้น

ส่วนในเรื่องของการที่มีข้าราชการในสังกัดกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง 2 นาย  คือ รองสารวัตร กองกำกับการ 3 (รับผิดชอบสนามบินสุวรรณภูมิ) และ ผบ.หมู่ สังกัดกองกำกับการเดียวกัน โดยทั้งสองคนสังกัดกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 ในการตรวจสอบข้อเท็จจริง แยกกรณีที่เกิดขึ้นในคลิปดังกล่าวออกเป็น 2 ประเด็น 

ประเด็นที่ 1 คือ การอำนวยความสะดวกช่องทางพิเศษภายในสนามบิน และประเด็นที่ 2 คือขบวนรถนำที่พานักท่องเที่ยวไปส่งยังโรงแรมที่พัก ซึ่งกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวจะขอชี้แจงเพียงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับข้าราชการในสังกัดเท่านั้น คือประเด็นที่ 1 เรื่องการอำนวยความสะดวกช่องทางพิเศษภายในสนามบิน ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ผบ.หมู่ ยศ ดาบตำรวจได้รับการประสานงานมาจากเพื่อนชาวจีนรายหนึ่ง

และเนื่องจากวันดังกล่าวตนเองไม่ว่าง จึงไหว้วาน รองสารวัตรผู้ที่ปรากฎในคลิป ให้มาดำเนินการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวคนดังกล่าวแทน อย่างไรก็ตามหากการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นเรียบร้อย จะชี้แจงผ่านสื่อมวลชนอีกครั้ง

โฆษกตำรวจท่องเที่ยว ยังกล่าวต่อไปว่า ทางกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้จัดการประชุมระดับบริหาร และมีการทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่นมา ( 23 ม.ค.)  และขอยืนยันว่านับจากนี้ต่อไป จะยังคงดูแลอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวต่อไปตามอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบ แต่จะเป็นการดูแลอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ เพื่อให้เกิดบรรยากาศการท่องเที่ยวที่อบอุ่น อันจะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ประเทศ อีกทั้งสั่งการให้หัวหน้าสถานีเพิ่มกำชับ ตรวจสอบข้าราชการในสังกัดมากขึ้น เพื่อไม่ให้มีการใช้อำนาจหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ


และขอชี้แจงประเด็นการแต่งชุดตำรวจด้วยว่า แม้จะอยู่นอกเวลาเข้าเวร หรือนอกเวลาราชการ ก็สามารถแต่งเครื่องแบบได้ ซึ่งไม่ถือเป็นความผิดวินัยแต่อย่างใด แต่ต้องดูว่า ตำรวจที่แต่งเครื่องแบบในขณะนั้นทำอะไรอยู่ และประพฤติปฏิบัติตนอย่างไร หากปฏิบัติตนไม่ถูกต้องเหมาะสม ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบก็ถือว่ามีความผิด และ การดัดแปลงรถส่วนตัวให้คล้ายรถตำรวจเพื่อนำไปแสวงหาผลประโยชน์นั้น ในประเด็นนี้กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวไม่ได้ชี้แจงอธิบาย เพราะรถนำที่ปรากฏในคลิปดังกล่าวไม่ใช่รถยนต์ในสังกัด


ทั้งนี้ พล.ต.ต. อภิชาต ยังกล่าวอีกว่า  กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวไม่ได้เป็นเพียงหน่วยงานตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้สำนักงานตำรวจแห่งชาติแต่เพียงเท่านั้น แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ภายใต้นโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาด้วย จึงขออธิบาย การบังคับใช้กฎหมายในฐานะข้าราชการตำรวจนั้น ต้องสร้างสมดุลกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เป็นรายได้หลักแกล่งหนึ่งของประเทศด้วย ซึ่งขอยืนยันว่า เราจะปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้บังคับใช้กฎหมายที่เข้มแข็งและในขณะเดียวกันก็จะจรรโลงไว้ซึ่งบรรยากาศการท่องเที่ยวของไทยให้สร้างรายได้ให้กับประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ 
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ