ข่าว

"จุรินทร์” โชว์ผลงาน ส่งออกไทยปี 65 บวก 5.5% เฉียด 10 ล้านล้านบาท

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“จุรินทร์” โชว์ผลงานส่งออกไทยปี 65 บวก 5.5% เฉียด 10 ล้านล้านบาท ขาหลักฝ่าวิกฤตสร้างเงินเข้าประเทศ ตั้งเป้าปี 66 ส่งออกบวก 1-2% เผยส่งออกผ่านค้าชายแดนและผ่านแดน ปี 65 ร่วม 1,029,837 ล้านบาท

วันที่ 24 มกราคม 2566 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงข่าวภาวะการค้าระหว่างประเทศ การค้าชายแดนและผ่านแดน เดือนธันวาคม 65 และภาพรวมปี 65 พร้อมเป้าหมายและแผนเร่งรัดการส่งออกปี 2566 พร้อมด้วยนายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย และผู้แทนภาครัฐและภาคเอกชน ที่ห้องบุรฉัตรไชยากร ชั้น 4 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์

 

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตัวเลขการส่งออก ธ.ค. 2565 ติดลบ 14.6% สร้างเงินให้ประเทศ 776,324 ล้านบาท การส่งออกทั้งปี 2565 บวก 5.5% เกินเป้าที่ตั้งไว้ที่ 4% สร้างเงินให้ประเทศเกือบ 10 ล้านล้านบาท คือ 9,944,317 ล้านบาท

 

การส่งออกเดือน ธ.ค.65 หมวดสินค้าเกษตร -11.6% ทำเงิน 72,992 ล้านบาท ทั้งปี 65 สินค้าเกษตร +2.2% สร้างเงินให้ประเทศ 925,383 ล้านบาท สินค้าที่ขยายตัวดี 1.ไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง ขยายตัว 7 เดือนต่อเนื่องเดือน ธ.ค.65 + 22.8% สร้างเงินให้ประเทศ 3,465 ล้านบาท ทั้งปี 2565 +24.6% สร้างเงินให้ประเทศ 40,080 ล้านบาท สับปะรดสด เดือน ธ.ค.65 + 816.7% สร้างเงินให้ประเทศ 79 ล้านบาท ปี 65 + 194.6% สร้างเงินให้ประเทศ 756 ล้านบาท ทุเรียนสด ธ.ค.65 +155.3% สร้างเงินให้ประเทศ 8,016 ล้านบาท ทั้งปี 65 -7.7% สร้างเงินให้ประเทศ 110,144 ล้านบาท

 

 เนื่องจากผลผลิตปีที่แล้วออกน้อยกว่าปี 2564 เพราะฝนตกชุก หมวดสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร เดือน ธ.ค.65 -10.8% สร้างเงินให้ประเทศ 55,637 ล้านบาท ทั้งปี 65 +17.8% สร้างเงินให้ประเทศ 788,321 ล้านบาท สินค้าที่ขยายตัวดี ได้แก่ ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์เดือน ธ.ค.65 +35.5% สร้างเงินให้ประเทศ 4,153 ล้านบาท ทั้งปี 65 +44.8% สร้างเงินให้ประเทศ 70,290 ล้านบาท นมและผลิตภัณฑ์จากนม เดือน ธ.ค.65 +2.7% สร้างเงินให้ประเทศ 932 ล้านบาท ทั้งปี 65 +0.7% สร้างเงินให้ประเทศ 10,394 ล้านบาท อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ธ.ค.65 +1.5% สร้างประเทศประเทศ 11,635 ล้านบาท ทั้งปี 65 +10.1% สร้างเงินให้ประเทศ 133,568 ล้านบาท หมวดสินค้าอุตสาหกรรม ธ.ค.65 -15.7% สร้างเงินให้ประเทศ 616,549 ล้านบาท ทั้งปี 65 + 4.4% สร้างเงินให้ประเทศ 7,819,845 ล้านบาท สินค้าอุตสาหกรรมที่ขยายตัวดี ได้แก่อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์และไดโอด บวก 6 เดือนต่อเนื่อง เดือน ธ.ค.65 +83.7% สร้างเงินให้ประเทศ 16,340 ล้านบาท

 

ทั้งปี 65 +26.2% สร้างเงินให้ประเทศ 119,469 ล้านบาท เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ +14 เดือนต่อเนื่อง เดือน ธ.ค.65 +65.6% สร้างเงินให้ประเทศ 19,722 ล้านบาท ทั้งปี 65 +71.5% สร้างเงินให้ประเทศ 189,326 ล้านบาท เครื่องใช้สำหรับเดินทาง +22 เดือนต่อเนื่อง ธ.ค.65 +56.6% สร้างเงินให้ประเทศ 1,963 ล้านบาท ทั้งปี 65 +63.1% สร้างเงินให้ประเทศ 18,997 ล้านบาท รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ +5 เดือนต่อเนื่อง เดือน ธ.ค.65 +8.1% สร้างเงินให้ประเทศ 12,223 ล้านบาท ทั้งปี 65 +1.9% สร้างเงินให้ประเทศ 130,271 ล้านบาท

 

การส่งออกรายตลาด ในเดือน ธ.ค. 65

ตลาดที่ขยายตัวสูง ได้แก่ 1.อิรัก (+144.1%) 2.ไอร์แลนด์ (+130.9%) 3.บรูไน (+62.1%) 4.อิหร่าน (+48.0%) 5.โมซัมบิก (+44.8%) 6.ซาอุดีอาระเบีย (+35.5%) 7.สหราชอาณาจักร (+23.7%) 8.สวีเดน (+16.4%) 9. อิตาลี (+12.3%) และ 10.เม็กซิโก (+6.7%)

 

สำหรับการออกปี 65 ทั้งปี +5.5% สร้างเงินให้ประเทศ 9,944,317 ล้านบาท สินค้าส่งออกที่ขยายตัว 10 รายการสําคัญ ในปี 2565 สินค้าที่ขยายตัวสูงได้แก่ 1.น้ําตาลทราย(+98.9%) 2.เครื่องโทรสารโทรศัพท์และส่วนประกอบ(+71.5%) 3.อัญมณีและเครื่องประดับ(+50.3%) 4.ไขมันและน้ํามันจากพืชและสัตว์(+44.8%) 5.หม้อแปลงไฟฟ้าและ ส่วนประกอบ(+32.0%) 6.อุปกรณ์กึ่งตัวนํา ทรานซิสเตอร์ และไดโอด(+26.2%) 7.ไก่แปรรูป(+24.8%) 8.ไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง (+24.6%) 9.ไอศกรีม(+23.0%) 10.อาหารสัตว์เลี้ยง(+15.3%)

 

ตลาดที่ขยายตัว 10 รายการสําคัญ ในปี 2565 ได้แก่ 1.ตะวันออกกลาง(+22.8%) 2.สหราชอาณาจักร(+15.6%) 3.แคนาดา(+14.2%)

4.สหรัฐฯ(+13.4%) 5.CLMV(+11.5%) 6.เอเชียใต้ (+11.5%) 7.อาเซียน(5) (+9.5%) 8.ลาตินอเมริกา(+5.9%) 9.สหภาพยุโรป(+5.2%) และ10.ทวีปออสเตรเลีย(+1.7%)

 

เหตุผลที่การส่งออกปี 65 ยังขยายตัวสูงเพราะ ประการที่หนึ่งการผลักดันการส่งออกเชิงรุกและเชิงลึกในตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูงของกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับเอกชน ประการที่สอง การผลักดันให้ประเทศเพื่อนบ้านเร่งเปิดด่านชายแดนหลังปิดทำการชั่วคราวเนื่องจากสถานการณ์โควิดทำให้การส่งออกชายแดนขยายตัวดีขึ้น ตัวเลขส่งออกภาพรวมดีขึ้น ประการที่สาม การเร่งหาแหล่งสำรองอาหารจากผู้ซื้อทั่วโลกยังคงมีอยู่ ประการที่สี่ โลจิสติกส์ที่มีปัญหาได้รับการคลี่คลายทั้งค่าระวางเรือที่ปรับลดลงมาสู่ภาวะราคาปกติ รวมทั้งตู้คอนเทนเนอร์ที่มีปริมาณเพียงพอในช่วงหลังจาก กรอ.พาณิชย์ช่วยแก้ปัญหา

 

สำหรับการค้าชายแดนและผ่านแดน การค้าชายแดน เดือน ธ.ค.65ส่งออกผ่านการค้าชายแดน -6.8% ทำเงินให้ประเทศ 49,540 ล้านบาท ทั้งปี 65 การค้าชายแดนผ่านการส่งออก +13.7% สร้างเงินให้ประเทศ 648,030 ล้านบาท โดยมาเลเซีย ส่งออกทั้งปี 65 ผ่านการค้าชายแดน +0.6% สร้างเงินให้ประเทศ 183,523 ล้านบาท สปป.ลาว ทั้งปี 65 +25.6% สร้างเงินให้ประเทศ 156,738 ล้านบาท กัมพูชา ปี 65 +14.7% สร้างเงินให้ประเทศ 164,186.3 ล้านบาท เมียนมา ทั้งปี 65 ส่งออกผ่านการค้าชายแดน +19.9% สร้างเงินให้ประเทศ 143,582.5 ล้านบาทรวม 4 ประเทศนี้สร้างเงินให้ประเทศ 648,003 10 ล้านบาท +13.7%

 

ในภาพรวมการค้าชายแดนและผ่านแดนรวมกันทั้งปี 2565 -0.3% สร้างเงินให้ประเทศ 1,029,837 ล้านบาท เดือน ธ.ค.65 +2.4% สร้างเงินให้ประเทศ 85,550 ล้านบาท ที่ติดลบเพราะการค้าชายแดนและผ่านแดนมีปัญหาส่งออกทางบก จึงหันไปส่งออกทางเรือมากขึ้นเพราะติดปัญหาเรื่องด่าน

 

สำหรับเป้าการส่งออกปี 2566 ได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชน ได้มีความเห็นสอดคล้องกันว่าสำหรับปี 2566 จะตั้งเป้าไว้เป็นบวก 1-2% น้อยกว่าปี 2565 ที่ตั้งไว้ 4% เพราะมีปัจจัยที่เป็นแรงเสียดทานทางลบหลายปัจจัย

 เช่น 

 

1. ปัจจัยเศรษฐกิจโลกชะลอตัวโดยเฉพาะเศรษฐกิจในประเทศตลาดหลักของไทย เช่น สหรัฐฯคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะะบวก 0.5-1% สหภาพยุโรปที่เป็นตลาดใหญ่ของเราหลายสถาบันประเมินบวก 0-0.5% ญี่ปุ่นประเมินว่าจีดีพีเฉลี่ยจะ +1.6% เป็นต้น ย่อมกระทบการส่งออกของเรา

 

2. คาดการณ์ว่าไตรมาสแรกปี 66 อาจมีสต๊อกสินค้าที่นำเข้าจากหลายประเทศในโลกของประเทศตลาดหลักโลกคงอยู่อาจชะลอการสั่งซื้อหรือการนำเข้าได้

 

3. ราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับสูงและไม่มีแนวโน้มลดลง ส่งผลต่อค่าไฟฟ้าต้นทุนการผลิตสำคัญของภาคการผลิต

 

4. ค่าเงินบาทของเรามีแนวโน้มเริ่มแข็งขึ้นทำให้ศักยภาพการแข่งขันสินค้าไทยในตลาดโลกยากขึ้น เพราะจะแพงกว่าคู่แข่ง

 

แต่ที่ยังประเมินว่ายังบวกอยู่เพราะมีปัจจัยบวกหลายประการเช่น 

1. ระบบการขนส่งสินค้าเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

2. คาดว่าความต้องการด้านอาหารของโลกยังมีเพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหารเป็นผลดีกับการส่งออกอาหารของไทย 

3. ตลาดศักยภาพบางตลาด ยังรองรับการส่งออกของไทยได้ เช่น 4 ตลาดหลักที่จะบุกเป็นพิเศษในปี 66 เช่น ตะวันออกกลาง อาจบวกถึง 20% 

 

“โดยในวันที่ 6-8 กุมภาพันธ์ 2566 ผมจะพาเอกชนไปเปิดตลาดที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นประตูสู่ตะวันออกกลางอีกประเทศหนึ่ง จะไปนับหนึ่งให้เอกชนมีลู่ทางบุกตลาดตะวันออกกลางนอกจากซาอุดีอาระเบียที่นำคณะไปแล้ว และตลาดเอเชียใต้ที่จะสามารถทำบวกได้ 10% คือ อินเดีย ปากีสถาน บังคลาเทศ และตลาด CLMV ที่คาดว่าสามารถทำตัวเลขบวกได้ถึง 15% สุดท้ายตลาดจีนที่เป็นตลาดใหญ่และมีแนวโน้มกำลังจะเปิดประเทศยังทำตัวเลขบวกได้”นายจุรินทร์ กล่าวสรุป

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ