เจ้าของร้านของชำถูก "มิจฉาชีพ" หลอกติดตั้ง แอปฯ สรรพากร สูญ 1.6 ล้านบาท ดูดเงินหมดเกลี้ยง 3 บัญชี ร้องธนาคารให้ตรวจสอบกลับเงียบเฉย
แม้ว่าจะมีการออกมาตรการเพื่อดักไม่ให้ "มิจฉาชีพ" หลอกประชาชนว่าเป็นตัวทนจากหน่วยงานรัฐ และทำการเข้าถึงข้อมูลเพื่อขโมยเงินจากบัญชีธนาคาร รวมไปถึงการร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ความรู้ประชาชนอย่างต่อเนื่อง
แต่กลับยังพบว่ามีประชาชนโดน "มิจฉาชีพ" หลอกเข้าถึงบัญชีและโอนเงินไปยังบัญชีอื่นแบบรายวัน อย่างเช่นเจ้าของร้านชำรายหนึ่งในจังหวัดเลยที่ถูกหลอกให้ไปชำระภาษี และติดตั้ง แอปฯ สรรพากร จนสูญเงินกว่า 1.6 ล้านบาท
นางบุญทัน เสวิสิทธิ์ อายุ 54 ปี เจ้าของร้านขายของชำ บ้านโคก ต.นามาลา อ.นาแห้ว จ.เลย ถูกหลอกให้ติดตั้ง แอปฯ สรรพากร และหลอกลวงให้ทำรายการ ถูกดูดเงิน 3 บัญชี หมดไป 1,682707 บาท หมดเนื้อหมดตัวถึงกับเป็นลม โดยเมื่อวานมีคนอ้างเป็น เจ้าหน้าที่ สรรพากร โทรมาบอกว่าให้ยกเลิกถุงเงิน และให้ไปเสียภาษีย้อนหลัง แต่ตนเองไม่สะดวกคุยเพราะกำลังขายก๋วยเตี๋ยว
หลังจากนั้นมี "มิจฉาชีพ" หลอกเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากรโทรมาบอกไปเสียภาษีย้อนหลัง ด้านนางบุญทันได้อจ้งว่าเสียภาษีแล้วปีละ 2 ครั้ง จากนั้นมิจฉาชีพจึงให้ยืนยันว่ามีการเสียภาษีที่ถูกต้อง โดยให้ทำรายการแชทไลน์ แต่ทำไม่เป็นจึงให้ลูกสะใภ้ ทำรายการ ขณะที่ทำอยู่นั้นถือมีอาการค้าง จึงเริ่มเอะใจจะปิดเครื่องก็ไม่ได้ สุดท้ายไปเช็คบัญชีที่ธนาคารกรุงไทย และธนาคาร ธกส. รวม 3 บัญชีพบว่าเงินหายไป 1,682,707 บาท
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ตัวว่าถูก "มิจฉาชีพ" หลอกจนสูญเงินไปแล้ว เจ้าของร้านชำได้รีบติดต่อไปที่ธนาคารทันที ธนาคารแรกที่ติดต่อไปคือ ธกส.สาขาด่านซ้าย เพื่อขอดูบัญชี พบว่ายอดเงิน 256,513 เหลือ 1,513 บาท ทราบชื่อบัญชีปลายทาง ธนาคารกรุงไทย ชื่อนายสิทธิชน สาลี หลังจากนั้นได้ติดต่อไปที่ธนาคารกรุงไทย สาขาด่านซ้าย ที่เปิดบัญชี พบว่าบัญชีฝากประจำที่ไม่เคยเบิกเงินออกมาเลย มียอดเงิน 1,271,000 บาท เหลือ 770 บาท และบัญชีออมทรัพย์ มียอดเงิน 155,194 บาท เหลือ 1,145 บาท แต่เจ้าหน้าที่สั่งบอกให้ปิดบัญชีแล้วไม่ให้รายละเอียดอะไรเลยถามชื่อบัญชีปลายทางก็ไม่บอก ทั้งที่บัญชีฝากประจำมียอดเงิน 1,271,000 บาท ไม่ได้ผูกกับแอพหรือเคยถอนเงินออมาเลย
แม้ว่าจะมีการแจ้งธนาคารไปแล้วว่าถูก "มิจฉาชีพ" หลอกจนสูญเงินไปกว่า 1.6 ล้าน แต่กลับไม่ได้รับการดำเนนิการมใด ๆ โดย นางสาวกันติมา แข็งขัน ฝากถามไปยังธนาคารกรุงไทยว่า เวลาเอาเงินไปฝากธนาคารไม่เห็นจะว่าอะไร พอเราได้รับความเสียหาย ทำไม่ได้รับความช่วยเหลืออะไรเลย เงินเราหายกว่า 1,000,000 บาท ไม่สะทกสะทานอะไรเลย ไม่เดือดร้อนอะไรเลย จากนั้นจะไปปรึกษาทนายเพื่อขอต่อสู้ ที่ธนาคารไม่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยบัญชีของลูกค้า ไม่ใช่เสียหายแล้วสั่งให้ปิดบัญชี
ข่าว/ภาพ โดย บุญชู ศรีไตรภพ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง