
"มาร์ค"ย้ำรัฐบาลพร้อมเจรจานปช.ทุกเมื่อ
นายก"อภิสิทธิ์"รับเสียดายเจรจาถูกปิดสัญญาณเร็วไป ชี้ พร้อมเจรจาทุกเมื่อ เตรียมขอความร่วมมือเสื้อแดงลดพื้นที่ชุมนุม
(30มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ให้สัมภาษณ์ก่อนออกเดินทางไปบาห์เรนอย่างเป็นทางการระหว่าง วันที่ 30 - 31 มี.ค.ถึงกรณีการเจรจากับแกนนำคนเสื้อแดงครั้งที่สองที่ไม่สามารถหาข้อยุติได้ ว่า ตนคิดว่ารัฐบาลได้แสดงออกอย่างชัดเจนว่าได้ใช้ความพยายามอย่างถึงที่สุด รับฟังข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมและรับฟังพี่น้องประชาชนทั่วไปที่มีความคิดเห็นแตกต่างกับผู้ชุมนุม และพยายามเสนอทางออกที่คิดว่ามีเหตุผลรองรับชัดเจน รวมทั้งได้ให้ตัวแทนผู้ชุมนุมได้ใช้เวลากลับไปพิจารณาเพราะตนต้องเดินทางไปต่างประเทศโดยจะกลับวันที่ 31 มี.ค.
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นที่น่าเสียดายและน่าสังเกตว่าได้รับการปฏิเสธอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือทั้งที่นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธานนปช.พยายามเปิดทางให้มีการพูดคุยในวันที่ 1 เม.ย. แต่กลับมีการส่งสัญญาณมาให้มีการปิดสัญญาณโดยเร็ว ตนคิดว่าเมื่อเป็นเช่นนี้รัฐบาลจะยืนอยู่ในจุดเดิมคือจะพูดคุยกับผู้ชุมนุมได้เสมอหากไม่มีการเคลื่อนไหวในลักษณะที่กดดันหรือคุกคาม พร้อมกันนั้นรัฐบาลจะบริหารสถานการณ์การชุมนุมให้เกิดผลกระทบความเดือดร้อนน้อยที่สุด และเดินหน้าบริหาราชการแผ่นดินทำงานต่างๆ เหมือนกับที่ตนทำอยู่ไม่ว่าจะเป็นงานในประเทศ หรืองานต่างประเทศ หวังเพียงว่าพี่น้องประชาชนจะมองเห็นชัดเจน และมีความเข้าใจมากยิ่งขึ้นว่าการพยายามตัดสินใจเพื่อประโยชน์ส่วนรวม และมีความประนีประนอมแล้วกลับไม่ได้รับการตอบสนองจึงมีความจำเป็นที่ต้องเดินหน้าในการทำงานและบริหารสถานการณ์การชุมนุมต่อไป ขอให้พี่น้องประชาชนช่วยกันเเสดงออกว่าจริงๆแล้วประเทศนี้ต้องการทางออกที่ไม่ใช่เป็นเรื่องความต้องการของคนหนึ่งคนใดหรือฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ตนคิดว่าถ้าพี่น้องประชาชนได้แสดงออกโดยสันติวิธีในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะไม่ไปเสี่ยงกับการปะทะกันให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่นั้นต้องการให้บ้านเมืองกลับสู่ภาวะปกติ และรัฐบาลมีข้อเสนอที่ถือว่าสมเหตุสมผลแล้วก็คงจะช่วยลดการสนับสนุนของผู้ชุมนุมได้
เมื่อถามว่า การเจรจาล้มเหลวแล้ว นายกนจะยุบสภาภายใน 9 เดือนตามที่คุยกับแกนนำนปช.หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ไม่ได้เป็นข้อเสนอที่ได้รับการตอบสนอง และจะสรุปว่าเป็นสิ่งที่วางอยู่นั้นไม่ได้ เพราะข้อเสนอนั้นทำเพื่อให้เกิดความสงบในบ้านเมือง แต่เมื่อกลุ่มที่ยังมีปัญหาไม่ยอมรับ และบอกว่าจะไม่ทำให้เกิดความสงบมันก็เกิดปัญหาความรุนแรง หรือร้อนแรงในบรรยากาศทางการเมืองตนก็ต้องกลับไปอยู่ในจุดเดิมที่บอกว่าการยบุสภานั้นขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจ การแก้ไขกติกาที่เป็นที่ยอมรับและการบริหารให้บรรยากาศของบ้านเมืองมีลักษณะที่เอื้อต่อการเลือกตั้งที่สมประโยชน์กับทางออกของประเทศ
เมื่อถามว่าแกนนำนปช.ระบุว่าการชุมนุมนั้นจะยกระดับขึ้นและมันได้คู่ขนานกับการก่อวินาศกรรม นายกฯ กล่าวว่า การยกระดับการชุมนุมนั้นยังไม่ทราบว่าจะเป็นไปในรูปแบบไหน ยืนยันว่าผู้ชุมนุมมีสิทธิเท่าที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญเท่านั้น และไม่พึงไปชุมนุมในลักษณะนอกเหนือกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ ส่วนก่อวินาศกรรมจะพยายามอย่างเต็มที่อย่างน้อยคดีหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นจะจับตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ ส่วนการเฝ้าระวังนั้นต้องทำเต็มที่ตนเห็นใจเจ้าหน้าที่เพราะว่าการป้องกันในพื้นที่กว้างขวางมากมันไม่ง่ายแต่ว่าทุกคนคนมีความเข้มแข็งอยู่ เมื่อถามว่า มีข้อเสนอจากนพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่าสถานการณ์นี้ควรปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่เพื่อเป็นทางออก นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่มีข้อคิดเห็นที่แตกต่างเลยในเรื่องการปฏิรูปด้านต่างๆจะเห็นว่าการพูดคุยเมื่อวันที่ 29 มี.ค.นั้น ตนได้พูดชัดว่าเราไม่ได้พูดแต่เรื่องรัฐธรรมนูญ เราอยากเอาทุกเรื่องที่เป็นปัญหามาวางและร่วมกันแก้ไขลรัฐบาลพร้อมเดินหน้าปฏิรูปหลายอย่างแต่การปฏิรูปนั้นจะสำเร็จได้ส่วนหนึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนแต่ดูเหมือนคนเสื้อแดงไม่ยอมให้ร่วมมือในเรื่องนี้แต่ตนจะไม่ละลดความพยายามหากภาคส่วนอื่นๆมาร่วมกันจะช่วยได้มาก ไม่มีปัญหาเพราะเป็นความตั้งใจอยู่แล้วในการที่จะทำอย่างไรให้เราหลุดพ้นจากโครงสร้างที่เป็นปัญหาในปัจจุบัน
เมื่อถามว่า รัฐบาลประกาศใช้พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายราชอาณาจักรต่อไปเรื่อยๆแบบนี้บ้านเมืองจะกลับสู่ภาวะปกติเมื่อใด นายกฯ กล่าวว่า ที่มีความจำเป็นประกาศพ.ร.บ.ฉบับนี้เพราะมีปัญหาการก่อวินาศกรรมรวมทั้งการชุมนุมที่มีคนจำนวนมาก มันละเอียดอ่อนในหลายสถานการณ์ การประกาศใช้พ.ร.บ.ฉบับนี้ช่วยให้การชุมนุมที่มีความยืดเยื้อไม่มีความรุนแรงเหมือนที่เกิดขึ้นในอดีตเพราะมีเครื่องมือตัวนี้อยู่และช่วยได้อย่างสำคัญ
เมื่อถามว่ารัฐบาลประกาศว่าจะกลับไปทำงานตามปกติ แต่รัฐบาลกลับไปอยู่ในค่ายทหารและทหารไปอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล นายกฯ กล่าวว่า ตนบอกว่าดำเนินการไปตามลำดับ ตนไม่ได้อยู่ค่ายทหาร แต่ศอ.รส.ตั้งอยู่ที่นั่น และตนใช้ชีวิตตามปกติการทำงานของรัฐบาลก็เดินหน้าไปได้เพียงแต่ว่าตรงไหนที่คิดว่ามีความละเอียดอ่อนในการไปท้าทายเราก็หลีกเลี่ยงตรงนี้เพื่อประโยชน์ของความสงบในบ้านเมือง ไม่มีปัญหาอะไร งานของรับบาลเดินหน้าเต็มที่ เมื่อถามว่า ประชาชนจะกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้เมื่อใด นายกฯกล่าวว่า เราพยายามที่จะเจรจากับผู้ชุมนุมในการลดพื้นที่ต่างๆเพื่อไม่ไห้กระทบ เมื่อถามว่าการชุมนุมมีมาระยะหนึ่งแล้วจะบังคับใช้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์อย่างไร นายกฯกล่าวว่าจะเดินหน้า แต่ตนได้ชี้แจงไปเมื่อวันที่ 28 มี.ค.แล้วว่าเราดำเนินการและไม่ละเลยแต่จัวหวะเวลาวิธีการต้องคำนึงถึง ความละเอียดอ่อนของสถานการณ์เพราะความมุ่งหมายคือต้องการให่บ้านเมืองสงบไม่ต้องการไปสร้างเงื่อนไขความวุ่นวายให้เพิ่มมากขึ้น
เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ใช้เวทีคนเสื้อแดงปลุกระดมประชาชนอยู่ นายกฯกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีวาระของตัวเองและมันไม่ตรงกับวาระของประเทศและผลประโยชน์ส่วนรวม จึงต้องไปคนละทางแต่เราพยายามอย่างยิ่งว่าผู้ชุมนุมซึ่งมีข้อเรียกร้องที่มีเหตุผลและไม่เกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณ เราก็รับฟัง แต่ไม่อย่าให้ไปเป็นเหยื่อของพ.ต.ท.ทักษิณที่มีวาระส่วนตัว