ปมป้ายชื่อ 33 ล้าน "สถานีกลางบางซื่อ" ลดความเชื่อมั่นของ รฟท. ลง

ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ให้สัมภาษณ์กับ คมชัดลึกออนไลน์  ถึงกรณีที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ว่าแจ้งเอกชนปรับปรุงป้ายชื่อ "สถานีกลางบางซื่อ" ราคา 33.16 ล้าน ว่า การจัดจ้าง การจัดซื้อจัดจ้างเพื่อดำเนินการเปลี่ยนป้ายชื่อ "สถานีกลางบางซื่อ" ของรฟท. ในครั้งนี้ สะท้อให้เห็นว่า ประชาชนไม่มีความเชื่อมั่นในการทำงานของ รฟท.  

โดยเฉพาะกระบวนการจัดซื้อ จัดจ้าง วิธีการหา ที่รฟท.ใช้วิธีคัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง  และบริษัทที่ได้รับงานไปคือบริษัทเอกชนที่ก่อสร้าง "สถานีกลางบางซื่อ"  โดยกรณีการวิธีการคัดเลือกเอกชนนั้นถือส่าเป็นอำนาจหน้าที่ของ รฟท. ที่จะต้องไปพิจารณาว่ามีความเร่งด่วนหรือไม่ มีเหตุจำเป็นอย่างไรที่จะต้องใช้วิธีการดังกล่าว 

ดร.มานะ กล่าวต่อว่า  อย่างไรก็ตามองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน เห็นว่า  รฟท. ควรจะมีการเปิดกว้างในการประกวดราคามากกว่านี้ มีเหตุจำเป็นอะไรที่จะต้องใช้บริษัทก่อสร้างเป็นผู้ติดตั้งป้ายชื่อ "สถานีกลางบางซื่อ" ในเมื่อประเทศไทยมีบริษัททำป้ายหลายร้อยบริษัท หาก รฟท. เปิดกว้างมากขึ้นอาจจะบริษัทเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญ และได้ราคาที่ต่ำลง

นอกจากนี้ยังมีการตั้งข้อสังเกตุในส่วนของราคากลาง ว่า ขั้นตอนการสืบราคาเป็นการสืบราคาจากตลาดจริงหรือไม่  ใช้วิธีการเอาสเปคไปสืบ หรือ ทำอย่างไร  มีการเอาราคา วัสดุ  เทคนิคการทำ ป้ายชื่อ "สถานีกลางบางซื่อ" ตัวเดิมมากเปรียบเทียบหรือไม่  ราคาที่แพงขึ้นมีความสมเหตุสมผลหรือไม่ ซึ่ง รฟท. จะต้องชี้แจงให้ได้ เพื่อไม่ให้เกิดการครหาเพิ่มเติม เพราะตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รฟท. เป็นหน่วยงานที่ประสบปัญหาขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง  ดังนั้น รฟท.ต้องรู้สถานะตัวเอง เพราะการนำเงินภาษีประชาชนมาใช้อย่างสิ้นเปลืองนั้น ย่อมมีผลกระทบแน่นอน 

ดร.มานะ กล่าวว่า สำหรับการใช้วิธีพิเศษเฉพาะเจาะจงในการสรรหาเอกชนเข้ามารับงานนั้น เป็นวิธีที่หน่วยงานรับใช้เป็นจำนวนมากโดยปีที่ผ่านมาข้อมูลระบุ  มีการประกวดราคจัดซื้อ จัดจ้าง มากถึง 3.5 ล้านรายการ แต่พบว่ามีเพียง 2.7 % ที่ใช้วิธีการ E-bidding ส่วนที่เป็นการใช้วิธีกาคัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจงทั้งสิ้น  ซึ่งกรณีนี้ยังเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงในระบบการจัดซื้อ จัดจ้าง ของประเทศไทย