สตง.ตรวจจัดจ้างเปลี่ยนป้ายชื่อ "สถานีกลางบางซื่อ" จับตาราคากลาง-TOR

นายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ให้สัมภาษณ์กับ คมชัดลึกออนไลน์ ถึงกรณีที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จ้างเอกชนปรับปรุงป้ายชื่อ "สถานีกลางบางซื่อ" เป็นสถานกลางกรุงเทพอภิวัฒน์  ว่า ขณะนี้ สตง. ได้ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบกรณีการจัดซื้อจัดจ้างปรับปรุงป้ายชื่อ "สถานีกลางบางซื่อ" แล้ว คาดว่าจะใช้เวลาในการดำเนินการประมาณ  7 วัน โดยรายละเอียดในการตรวจสอบการจัดซื้อ จัดจ้างครั้งนี้นั้น สตง.จะดำเนินการใน 2 ประเด็น คือ 

1. ประเด็นความคุ้มค่า ความเหมาะสม และราคากลางของวัสดุที่นำมาใช้ ว่ามีความเหมาะสม ถูกต้องตามราคากลางท้องตลาด หรือราคาที่กรมบัญชีกลาง กำหนดไว้หรือไม่   โดยจะต้องมีการพิจารณาว่าราคาจ้างดำเนินการจำนวน 33.16 ล้าน แพงเกินกว่าความจริงตามที่สังคมมีการตั้งข้อสังเหตุหรือไม่  ซึ่งในประเด็นนี้ สตง.จะต้องรอรายละเอียดการสืบราคาก่อนจึงจะสามารถสรุปได้  
 

นายประจักษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นที่ 2 สตง.จะต้องตรวจสอบต่อไปคือกระบวนการ และวิธีการจัดซื้อ จัดจ้าง เพราะในการจ้างเอกชนเข้ามาดำเนินการและปรับปรุงป้ายชื่อ "สถานีกลางบางซื่อ" ในครั้งนี้ รฟท. ใช้วิธีการจัดซื้อจัดจ้างแบบเฉพาะเจาะจง ซึ่งจะต้องไปตรวจสอบอีกครั้งว่ามีเหตุจำเป็นที่จะต้องใช้วิธีการประกวดราคาในรูปแบบนี้หรือไม่ เพราะตามระเบียบแล้ว การประกวดราคาแบบวิธีเฉพาะเจาะจงใช้ได้ในกรณีเกิดเหตุภับพิบัติ โรคระบาด หรือกรณีที่หากไม่เร่งดำเนินการจะเกิดความเสียหายร้ายแรง  

หากมีการตรวจสอบครบทุกขั้นตอน ประเด็นข้อสงสัยแล้ว พบว่าไม่มีเหตุผลที่เหมาะสม การจ้างเอกชนในครั้งนี้อาจจะถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง ได้ ส่วนกรณีรายละเอียด TOR ขอบเขตการทำงาน และราคากลางนั้นไม่ว่าจะเป็นการจัดซื้อ จัดจ้าง ด้วยวิธีการใด หน่วยงานรัฐจะต้องจัดทำและเผยแพร่ ก่อนที่จะมีการประกาศรายชื่อเอกชนที่ชนะการประกวดราคา ยิ่งหากใช้วิธีการจัดซื้อจัดจ้างแบบวิธีเฉพาะเจาะจงแล้ว TOR มีความสำคัญอย่างมากต่อกระบวนการว่าจ้าง 

ส่วนกรณีที่ รฟท. ชี้แจ้งว่า งานปรับปรุงป้าย "สถานีกลางบางซื่อ" เป็นงานยาก  มีความซับซ้อน อาจจะไม่สามารถนำมาอธิบายได้ว่าต้องใช้การประกวดราคาแบบเฉพาะเจาะจง ซึ่งในส่วนนี้ สตง.จะต้องดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง  

"การตรวจสอบการจัดซื้อ จัดจ้าง ปรับปรุงป้ายชื่อ "สถานีกลางบางซื่อ" ในครั้งนี้ หากตรวจสอบครบทุกประเด็นแล้ว สตง.จะแจ้งรายละเอียดไปยัง รฟท. อีกครั้ง เพื่อเปิดโอกาสให้ รฟท. ได้เข้ามาชี้แจ้งเหตุผล หากพบว่าการจัดซื้อ จักจ้างครั้งนี้ไม่มีความตรงไปตรงมา หรือไม่มีความเหมาะสม รฟท.จะต้องยกเลิกและกลับไปดำเนินการใหม่ตามขั้นตอนของระเบียบการจัดซื้อ จัดจ้างของทางราชการ  ขณะนี้ สตง.เห็นว่าน่าจะยังไม่เกิดความเสียหาย รฟท.อาจจะยังไม่ได้จ่ายค่าจ้างให้เอกชน ดังนั้นจึงยังไม่มีความผิด แต่หาก สตง.มีการติงไปแล้ว แต่รฟท. ยังฝืนเดือนหน้าจัดจ้างต่อไปจะเข้าข่ายว่ามีความผิด รฟท.จะต้องรับผิดชอบ" นายประจักษ์ กล่าวทิ้งท้าย