ข่าว

ครูไม่สบายใจ จ่อร้อง "ผู้ว่าฯกทม." วอนแจกโบนัสเท่าเทียม

ครูไม่สบายใจ จ่อร้อง "ผู้ว่าฯกทม." วอนแจกโบนัสเท่าเทียม

02 ม.ค. 2566

ครูและบุคลากรทางการศึกษา ระดับวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ รับโบนัส 0.75 เท่าของอัตราเงินเดือน เพื่อเรียกขวัญกำลังใจกลับคืนมา องค์กรครู จ่อร้อง “ผู้ว่าฯกทม.” และ สภากทม. วอนแจกโบนัสเท่าเทียม

ครูค่อนประเทศเป็นปลื้มแทนครูกทม. หลังจากนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. สวมบทซานต้า จ่ายเงินรางวัล หรือ โบนัสประจำปี 2565 แก่ข้าราชการและบุคลากรของ กรุงเทพมหานคร(กทม.)ที่ปัจจุบันมีอยู่ 90,000 คน ตามที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร (กก.)เสนอ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ 2566 และเป็นขวัญกำลังใจให้กับบุคลากรของ กทม. รวมจ่าย 2,200 ล้านบาท ข้าราชการ(ขรก.)ได้ 1.2 ของเงินเดือน ส่วนลูกจ้าง 1.4 ของเงินเดือน ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องนี้

นายไกรทอง กล้าแข็ง ประธานชมรมครูสังกัดกรุงเทพมหานครออนไลน์ เปิดเผย “คมชัดลึกออนไลน์” ว่าข้าราชการครูกทม.หรือครูกทม. ได้รับโบนัสกันถ้วนหน้าตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2565 ผ่านบัญชีเงินเดือนธนาคารกรุงไทย หลังจากบ่นกันมานานว่าไม่ได้รับเงินจำนวนมากแบบนี้มานาน ส่วนตัวชื่นชมผู้ว่าฯกทม.ที่จัดสรรโบนัสให้กับครูกทม.

 

“บ่นกันมาหลายปี ปี2566 กำลังใจครูกทม.มาเพียบ ขอบคุณ ผู้ว่าฯกทม.และสภากทม. ที่เห็นชอบแจกโบนัสข้ราชการและลูกจ้างกทม.สามารถเรียกขวัญกำลังใจครูมากทีเดียว แต่มีเสียงบ่นจากข้าราชการครูระดับบริหารระดับสูง ต้องรับผิดชอบสูงกว่าครูปฏิบัติการ ควรได้รับการดูแลอย่างเท่าเทีย่ ส่วนตัวผมเข้าใจผู้ว่าฯกทม.ที่กระจายรายได้ดูแลผู้มีีรายได้น้อยระดับล่าง”

 

ข้าราชการครูระดับบริหารระดับสูง หรือ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา กรุงเทพมหานคร วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ได้รับค่าน้ำหนักการจ่ายเงินรางวัลโบนัส 0.75 เท่าของอัตราเงินเดือนที่ได้รับ  ซึ่งเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 25,000 บาท ส่วนครูผู้ช่วยถึงครูชำนาญการได้รับโบนัส 1.2 เท่าของเงินเดือน ประมาณ 15,050-40,000บาท ส่วนมากเป็นครูมานานและครูรุ่นใหม่

 

"ครูวิทยฐานะชำนาญการพิเศษไม่สะบายใจ มาปรับทุกข์เรื่องโบนัส ผมจะทำหนังสือร้องเรียนถึงผู้ว่าฯกทม. และประธานสภากทม.เพื่อให้ทบทวนแก้ไขข้อบัญญัติและระเบียบว่าด้วยเรื่องการแจกโบนัสในปีต่อไป แต่ไม่ร้องผู้ตรวตจการแผ่นแดินว่าเลือกปฏิบัติ ผมเสนอให้บริหารเชิงนโยบายแทน

 

เพื่อเรียกขวัญกำลังใจของขรก.ระดับชำนาญการพิเศษ(เฉลี่ยอายุ 45 ปี)กลับคืนมา เพราะกว่าจะได้วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ต้องทำผลงาน ส่งผลงานไม่รู้กี่รอบให้กรรมการตรวจ ต้องทุ่มเททั้งชีวิต มันไม่เกี่ยวอะไรกับโบนัสที่ประเมินผลจากปฏิบัติงานในหน้าที่่ในรอบปีเหมือนข้าราชการคนอื่นๆ"

 

ทั้งนี้้ คณะกรรมการจัดสรรเงินรางวัลประจำปี ให้จัดกลุ่มข้าราชการกรุงเทพมหานคร และลูกจ้างกรุงเทพมหานคร เป็น 4 กลุ่ม โดยได้เห็นชอบอัตราการจัดสรรเงินรางวัลประจำปี 2565 ดังนี้

 

1.กลุ่มที่ 1 ข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ 5 ประเภท คือ ประเภทบริหาร ระดับต้น และระดับสูง ประเภทอำนวยการ ระดับต้น และระดับสูง ประเภทวิชาการระดับเชี่ยวชาญและระดับทรงคุณวุฒิ ประเภททั่วไป ระดับทักษะพิเศษ, ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร วิทยฐานะเชี่ยวชาญและวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ ได้รับค่าน้ำหนักการจ่ายเงินรางวัล 0.35 เท่าของอัตราเงินเดือนที่ได้รับ

 

2.กลุ่มที่ 2 ข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ 3 ประเภท คือ ประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการพิเศษ ประเภททั่วไป ระดับอาวุโส ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ได้รับค่าน้ำหนักการจ่ายเงินรางวัล 0.75 เท่าของอัตราเงินเดือนที่ได้รับ 

 

3.กลุ่มที่ 3 ข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ ประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการและระดับชำนาญการ ประเภททั่วไป ระดับปฏิบัติงานและระดับชำนาญงาน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร วิทยฐานะชำนาญการ ครูและครูผู้ช่วย ได้รับค่าน้ำหนักการจ่ายเงินรางวัล 1.2 เท่าของอัตราเงินเดือนที่ได้รับ และ 4.กลุ่มที่ 4 ลูกจ้างกรุงเทพมหานครทุกประเภท ได้รับค่าน้ำหนักการจ่ายเงินรางวัล 1.4 เท่าของอัตราค่าจ้างที่ได้รับ

 

ว่ากันว่า การจัดสรรเงินรางวัลประจำปี 2565 ผู้ว่าฯกทม.ใช้เงินกันเหลื่อมเพื่อจ่ายโบนัสประจำปี ซึ่งเป็นเงินเหลือจากงบประมาณประจำปี 2565 จำนวน 2,200 ล้านบาท