ฟ้าขาว อาร์เจนตินา เสมอ ฝรั่งเศส ตลอดเวลา 120 นาที ก่อนจะดวลจุดโทษได้คมกว่า ผงาดแชมป์ "ฟุตบอลโลก 2022" กาตาร์เวิลด์คัพ ในรอบ 36 ปี
การแข่งขัน "ฟุตบอลโลก 2022" จัดขึ้นที่ ประเทศกาตาร์ หรือ FIFA World Cup Qatar 2022 ประจำคืนวันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม รอบชิงชนะเลิศ คู่ระหว่าง "ทีมชาติอาร์เจนตินา" ทีมอันดับ 3 ของโลก พบกับ "ทีมชาติฝรั่งเศส" ทีมอันดับ 4 ของโลก แข่งขันที่สนามลูเซล ไอคอนิก สเตเดียม
ก่อนพบกันคู่นี้ อาร์เจนตินา ทำผลงานผ่าน รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม C ผ่าน 3 นัด ชนะ 2 แพ้ 1 (แพ้ ซาอุดิอาระเบีย 1-2 , ชนะ เม็กซิโก 2-0 และ ชนะ โปแลนด์ 2-0) เก็บได้ 6 คะแนน จบอันดับจ่าฝูงของกลุ่ม ก่อน รอบ 16 ทีมสุดท้าย ชนะ ออสเตรเลีย 2-1 , รอบ 8 ทีมสุดท้าย เสมอ เนเธอร์แลนด์ 2-2 (อาร์เจนตินา ชนะจุดโทษ 4-3) และ รอบรองชนะเลิศ โครเอเชีย 3-0
ขณะที่ ฝรั่งเศส แชมป์เก่า ทำผลงาน รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม D ผ่าน 3 นัด ชนะ 2 แพ้ 1 (ชนะ ออสเตรเลีย 4-1 , ชนะ เดนมาร์ก 2-1 และ แพ้ ตูนิเซีย 0-1) เก็บ 6 คะแนน จบอันดับจ่าฝูงของกลุ่ม ก่อน รอบ 16 ทีมสุดท้าย ชนะ โปแลนด์ 3-1 , รอบ 8 ทีมสุดท้าย ชนะ อังกฤษ 2-1 และ รอบรองชนะเลิศ ชนะ โมร็อกโก 2-0
รายชื่อ 11 ตัวจริงของ "อาร์เจนตินา-ฝรั่งเศส" ประกอบไปด้วย
อาร์เจนตินา : เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ , นาเวล โมลิน่า , คริสเตียน โรเมโร่ , นิโกลัส โอตาเมนดี้ , นิโคลัส ทาเกลียฟิโก้ , อังเคล ดิ มาเรีย , โรดริโก้ เดอ ปอล , เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ , อเล็กซิส แมค อัลลิสเตอร์ , ลิโอเนล เมสซี่ และ ฆูเลียน อัลบาเรซ
ฝรั่งเศส : อูโก้ ยอริส , ฌูลส์ กุนเด้ , ราฟาแอล วาราน , ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, เตโอ แอร์กน็องเดซ , ออเรเลียง ชูอาเมนี่, อาเดรียง ราบิโอ , อุสมาน เดมเบเล่, อองตวน กรีซมันน์, คีเลียน เอ็มบัปเป้ , โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์
เริ่มการแข่งขัน เพียงนาทีที่ 5 อาร์เจนตินา ได้ลุ้นขึ้นนำก่อนจากจังหวะยิงไกลของ อเล็กซิส แมค อัลลิสเตอร์ แต่บอลไปเข้ามือของ อูโก้ ยอริส ถัดมา นาทีที่ 16 อาร์เจนตินา ยังเป็นฝ่ายครอบครองบอลได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะผ่านบอลของ ลิโอเนล เมสซี่ ใหกับ อังเคล ดิ มาเรีย ยิงหลุดกรอบ นาทีที่ 20 โอกาสแรกของ ฝรั่งเศส ได้ลุ้นจากฟรีคิกของ อองตวน กรีซมันน์ เปิดให้กับ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ โหม่งข้ามคานออกไป ก่อนที่ นาทีที่ 23 "ทีมชาติอาร์เจนตินา" ได้บุกจาก อังเคล ดิ มาเรีย ลุยเข้ากรอบเขตโทษ โดน อุสมาน เดมเบเล่ เข้าสกัดเป็นจุดโทษ ก่อนเป็น ลิโอเนล เมสซี่ สังหารเข้าไปให้ทีมนำ 1-0 โดยช่วงท้ายครึ่งแรก นาทีที่ 37 "ทีมชาติอาร์เจนตินา" จากจังหวะสวนกลับ อเล็กซิส แมค อัลลิสเตอร์ ผ่านบอลให้กับ อังเคล ดิ มาเรีย ยิงจ่อ ๆ เข้าไปเป็น 2-0 จบครึ่งแรก อาร์เจนตินา นำ ฝรั่งเศส 2-0
ครึ่งหลัง นาทีที่ 48 อาร์เจนตินา ได้ลุ้นจากยิงประตูเพิ่มจาก อังเคล ดิ มาเรีย เปิดบอลมาให้กับ โรดริโก้ เดอ ปอล ยิงแต่บอลหลุดกรอบออกไป นาทีที่ 59 อาร์เจนตินา ได้ลุ้นจากจังหวะยิงมุมแคบของ ฆูเลียน อัลบาเรซ ด้วยซ้ายบอลไปติดเซฟ อูโก้ ยอริส ถัดมา นาทีที่ 70 ฝรั่งเศส ได้ลุ้นตีไข่แตกจากจังหวะ คีเลียน เอ็มบัปเป้ หาจังหวะยิงด้วยขวาแต่บอลข้ามคานออกไป นาทีที่ 79 ทีมชาติฝรั่งเศส มาได้จุดโทษเป็น คีเลียน เอ็มบัปเป้ ยิงเข้าไปให้ทีมไล่ขึ้นมาเป็น 1-2 จากจังหวะถัดมา นาที 81 "ทีมชาติฝรั่งเศส" รุกหนักได้ประตูตีเสมอจาก คีเลียน เอ็มบัปเป้ เป็น 2-2 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 90+6 อาร์เจนตินา ได้ลุ้นประตูจาก ลิโอเนล เมสซี่ แต่บอลไปติดเซฟ ผู้รักษาประตูจบเกม อาร์เจนตินา เสมอ ฝรั่งเศส 2-2
ต้องต่อเวลพิเศษ โดยนาทีที่ 109 อาร์เจนตินา ได้ประตูขึ้นนำจาก ลิโอเนล เมสซี่ ให้ทีมนำอีกครั้ง 3-2 แต่หลังจากนั้น นาทีที่ 116 ฝรั่งเศส มาได้ประตูตีเสมอจากจังหวะจุดโทษของ คีเลียน เอ็มบัปเป้ เป็น 3-3 ต้องหาผู้ชนะด้วยการดวลจุดโทษ ก่อนผลสรุป อาร์เจนตินา ชนะจุดโทษ ฝรั่งเศส 4-2
ส่งผลให้ อาร์เจนตินา คว้าแชมป์ ฟุตบอลโลก ในรอบ 36 ปี รวมถึงเป็นสมัยที่ 3 ในประวัติศาสตร์ทีม คือ ปี 1978 , 1986 และ 2022
ข่าวที่เกี่ยวข้อง