ข่าว

"โควิด19" ยังระบาดตามฤดูกาล ควรฉีด เข็มกระตุ้น หรือรอ วัคซีนโควิด ตัวใหม่ ?

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เมื่อ"โควิด19" ยังระบาดตามฤดูกาล ควรฉีด เข็มกระตุ้น หรือรอ วัคซีนโควิด ตัวใหม่ ? เปิดงานวิจัย การฉีด วัคซีนโควิด เพิ่มภูมิคุ้มกัน สู้ โอไมครอน

"หมอยง" ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟสบุ๊ก Yong Poovorawan การระบาดของ "โควิด19" เป็นไปตามฤดูกาล ในรอบของปี

 

 

ในระลอกนี้ การระบาดจะเริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นมา และจะขึ้นสูงสุดหลังปีใหม่หรือเดือนมกราคม และจะไปเริ่มลดลงตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป จนเหลือน้อยมากในเดือนมีนาคม และจะไปขึ้นการระบาดรอบใหม่ของปีใน ฤดูฝน หรือเดือนมิถุนายน ถึงเดือนกันยายน เป็นไปตามฤดูกาลของโรคทางเดินหายใจ

 

ควรฉีด วัคซีนกระตุ้น หรือรอวัคซีนตัวใหม่ ?

 

ขณะนี้การระบาดอยู่ในขาขึ้น ตามทิศทางของฤดูกาล จึงมีความจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นภูมิต้านทานให้สูงขึ้น ในขณะนี้ แทนที่จะรอไปถึงเดือนมกราคม หรือกุมภาพันธ์ ซึ่งอยู่ขาลง วัคซีนโควิด ในบ้านเรา ถึงแม้จะเป็นสายพันธุ์เดิม การกระตุ้นในระดับเซลล์ เพื่อลดความรุนแรงของโรค สามารถทำได้ดีมาก 

 

 

วัคซีนตามสายพันธุ์ ถึงแม้จะมีการเพิ่มขึ้นมา จะป้องกันการติดเชื้อ เพราะเป็นแอนติบอดี้ หรือ B cell และเมื่อภูมิขึ้นมาแล้วก็ลดลง และเมื่อลดลงถึงระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนอะไร ก็เกิดการติดเชื้อได้ จึงไม่มีวัคซีนเทพในการป้องกันการติดเชื้อ

 

 

การลดความรุนแรงของโรคจึงขึ้นอยู่กับจำนวนเข็มที่ฉีด มากกว่าชนิดของวัคซีนที่ฉีด แน่นอนการให้วัคซีนแต่ละครั้งควรมีระยะเวลาห่างกัน โดยทั่วไปใน เข็มกระตุ้น ยิ่งห่างยิ่งดี แต่ข้อเสียก็คือว่าถ้าห่างเกินไป จะเกิดการติดเชื้อเสียก่อน

 

 

ดังนั้นจึง อยากให้ทุกคนได้อย่างน้อย 3 เข็ม และถ้าจะฉีดเข็มที่ 4  ก็ควรห่างไป 4 - 6 เดือน และถ้าได้ 4 เข็มแล้ว มานานมาก เช่นเกิน 6 เดือนไปแล้ว จะให้เข็มที่ 5 ก็ไม่ว่ากัน เพราะเมื่อนานแล้วภูมิคุ้มกันก็จะลดลงไปเป็นจำนวนมาก การกระตุ้นก็เป็นการเพิ่มภูมิต้านทานทั้งแอนติบอดีและระดับเซลล์ 

 

 

เมื่อ "โควิด19" อยู่ขาขึ้น เราจึงควรจะรีบให้วัคซีน แทนที่จะไปรอวัคซีนตัวใหม่ หรือวัคซีน 2 สายพันธุ์ ที่กว่าจะเข้ามาก็อยู่ในขาลงของ "โควิด19" เราไม่ได้เป็นประเทศผู้ผลิตวัคซีน

 

วัคซีนโควิด

 

การกลายพันธุ์ของไวรัส มีปัญหากับไทยหรือไม่ ?

 

การกลายพันธุ์ของไวรัส จะกลายพันธุ์ในส่วนของหนามแหลม ที่เป็นส่วนในการป้องกันการติดเชื้อ และ ตลอดปีที่ผ่านมา สายพันธุ์ที่ระบาดในบ้านเราก็ยังเป็น โอไมครอน แต่จะแตกต่างในกลุ่มย่อย เป็น BA.1, BA.2, BA.2.75, BA.4, BA.5 ประชากรไทยติดเชื้อไปแล้วประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ (จากการศึกษาด้วยการเจาะเลือดที่ชลบุรี) ส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อจะเป็นสายพันธุ์ โอไมครอน ภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อร่วมกับภูมิคุ้มกันที่ได้จากวัคซีน ถือเป็นภูมิคุ้มกันแบบลูกผสมที่ดีมาก และใกล้เคียงกับสายพันธุ์ที่สุด

 

 

ส่วนการกลายพันธุ์ที่ออกไปมากอย่างที่มีข่าว เดลตาครอน ไม่ได้มีปัญหาในประเทศไทย การระบาดที่เกิดขึ้นยังเป็น โอไมครอน อยู่ จึงยังไม่ได้หลีกหนีภูมิต้านทานของประชากรส่วนใหญ่ไปมาก ไม่ได้น่าวิตกแต่อย่างใด

 

 

ดังนั้นขณะนี้อยู่ในขาขึ้นตามฤดูกาล ควรได้รับ วัคซีนโควิด ในการป้องกันที่เหมาะสม ที่มีอยู่ในบ้านเรา และจะไม่รอจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ หรือรอวัคซีนสายพันธุ์ใหม่

 

 

งานวิจัยการรับ วัคซีนโควิด

 

ด้าน ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ไบโอเทค สวทช. เปิดเผยข้อมูล ทีมวิจัยกลุ่มใหญ่(มาก)ในอังกฤษวิเคราะห์ข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง มากกว่า 150,000 คน ที่ได้รับวัคซีน 2 เข็มแรกเป็น Az-Az หรือ Pz-Pz แล้วได้รับเข็มกระตุ้นเป็น Pz, Moderna หรือ ติดเชื้อจากธรรมชาติ เพื่อหาความสัมพันธุ์ของระดับภูมิคุ้มกัน กับ ความสามารถของภูมิคุ้มกันที่กระตุ้นขึ้นต่อประสิทธิภาพการป้องกันการติดเชื้อ BA.4/BA.5 ได้ 67% (ตัวเลข 67 มาจากการคำนวณในการศึกษานี้ ขอไม่แจกแจง) 

 

 

กราฟที่แสดงนี้เป็นหนึ่งในข้อมูลที่แสดงไว้ในการศึกษานี้ พอสรุปคร่าวๆ ได้ว่า

 

1. กลุ่มตัวอย่างที่อายุยิ่งสูงจะมีระดับแอนติบอดีที่กระตุ้นได้ยิ่งน้อยลง ซึ่งสะท้อนไปถึงจำนวนวันที่ภูมิคุ้มกันจะสูงพอที่จะป้องกันการติดเชื้อที่น้อยลงด้วย

 

2. กลุ่มที่ได้ 2 เข็มแรกเป็น Az เมื่อกระตุ้นด้วย mRNA vaccine มีระดับภูมิคุ้มกันที่ไม่แตกต่างจากกลุ่มที่ฉีด Pz มากนัก โดยกลุ่มที่ได้ Pz เป็นเข็ม 3 มีแน้วโน้มได้ภูมิที่ต่ำกว่า Moderna โดยระดับภูมิในคนที่ได้ Pz เข็ม 3 ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ไม่ว่าจะได้ 2 เข็มแรกเป็นอะไร มีไม่สูงพอที่จะป้องกันการติด BA.4/BA.5 ได้ถึง 67% 

 

ส่วนกลุ่มที่ได้ Moderna ภูมิจะสูงอยู่ประมาณ 90-120 วัน ที่พอป้องกันได้ในกลุ่มที่ได้ Pz มา 2 เข็ม ส่วนผู้สูงอายุที่ได้ Az มา 2 เข็มได้ Moderna เป็นเข็ม 3 ภูมิจะไม่พอป้องกัน BA4/BA5 เหมือนกรณีที่ได้ Pz เป็นเข็ม 3

 

3. ภูมิที่ได้จากการติดเชื้อจากธรรมชาติช่วง โอไมครอน สามารถป้องกันการติดเชื้อ BA.4/BA.5 ได้นานกว่าการกระตุ้นด้วยวัคซีนอย่างมีนัยสำคัญ ในทุกช่วงอายุ กลุ่มที่ได้ Az 2 เข็มแล้วติดเชื้อ มีภูมิในระดับสูงพอป้องกันการติด BA.4/BA.5  ได้ มากกว่า 150 วัน และ ลดลงนิดหน่อยในผู้สูงอายุ

 

ส่วนกลุ่มที่ได้ Pz 2 เข็มแล้วติดเชื้อ จะมีภูมิสูงมากกว่ากลุ่มแรกมาก และ อยู่ได้นานถึง มากกว่า 300 วัน ในกลุ่มอายุต่ำกว่า 45 ปี และ ลดลงต่ำสุดในผู้สูงอายุอยู่ที่ประมาณ 200 วัน หรือ 6-7 เดือน

 

 

ปล. การป้องกันการติดเชื้อที่ 67% หมายถึง ยังมีโอกาส 33% ที่จะยังติดเชื้อได้ ดังนั้นเคสที่เป็นการติดเชื้อซ้ำก็จะยังเห็นได้พอสมควร

 

วัคซีนโควิด

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ