ครอบครัว "พรประภา" ชี้แจงไม่เกี่ยวข้องปม หุ้น MORE หลังโดนอายัดทรัพย์ 2,000 ล้าน เตรียมยื่นเอกสารแสดงความบริสุทธิ์ใจ
จากกรณีการซื้อขาย หุ้น MORE ที่มีความผิดปกติ หลังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าทำการยึดทรัพย์ ครอบครัว "พรประภา" และบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกหลายรายการ
นาย เอกภัทร พรประภา พร้อมทนายความ ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว ว่าตนเอง และ ครอบครัว "พรประภา" ไม่ได้มีส่วนร่วมกระทำความผิดดังกล่าว และยังตกเป็นผู้เสียหาย อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาไม่ทราบว่ามีการขายหุ้นบิ๊กล็อตของ หุ้น MORE เมื่อวันที่ 10 พฤษจิกายน เพราะมีผู้ดูแลการลงทุน คอยซื้อขายหุ้นให้ และทุกครั้งจะต้องได้รับการยินยอมจากตนและครอบครัวก่อน แต่ครั้งนี้ตนและครอบครัวอยู่ต่างประเทศ ผู้ดูแลได้ดำเนินการโดยพลการ ซึ่งไม่ทราบว่าผู้ดูแลจะมีส่วนเกี่ยวข้อง หรือ รู้จักกับนายอภิมุข บำรุงวงศ์ หรือไม่
นายเอกภัทร ชี้แจ้งเพิ่มเติมว่า ตนเอง และ ครอบครัว "พรประภา" ไม่สามารถติดต่อ นายอภิมุข บำรุงวงศ์ ซึ่งผู้มีส่วนสำคัญในคดี โดยไม่มีการพูดคุยกันครั้งสุดท้าย ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ก่อนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ตนไม่มีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุน จึงแต่งตั้งผู้ดูแลการลงทุนหุ้นของครอบครัว บริหารเงินปีละ 3,000 ล้านบาท แต่ไม่เคยได้กำไรจากธุรกิจนี้ จึงจะหันหลังให้กับการลงทุนในตลาดหุ้นไทย
"เมืองไทยไม่น่าลงทุนเรื่องพวกนี้ และอันตรายมาก คนรู้จริงมีน้อย วงการหุ้นมีอะไรที่ซับซ้อนมาก ถ้าลงทุนครั้งหน้า จะเลือกลงทุนที่ต่างประเทศ" นายเอกภัทร กล่าว
นายเอกภัทร กล่าวเพิ่มเติมว่า ครอบครัว "พรประภา" ได้รับความเสียหาย ทั้งยังถูกอายัดทรัพย์กว่า 2,000 ล้านบาท ขณะนี้ได้ให้ทีมกฎหมายรวบรวมเอกสาร เพื่อขอเข้าพบ กองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) และ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และขอให้มีการถอนอายัดทรัพย์สิน รวมทั้งยังเตรียมเอาผิดผู้ดูแลการลงทุนฐานความผิดฉ้อโกง
ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง