"บราซิล" หืดขึ้นคอซัดโทน สวิตเซอร์แลนด์ ลิ่วเข้ารอบ "ฟุตบอลโลก 2022"

การแข่งขัน "ฟุตบอลโลก 2022"  จัดขึ้นที่ ประเทศกาตาร์ หรือ  FIFA World Cup Qatar 2022  ประจำคืนวันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน รอบเเบ่งกลุ่ม กลุ่ม H นัดที่ 2  คู่ระหว่าง "ทีมชาติบราซิล" ทีมอันดับ 1 ของโลก พบกับ "ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์" ทีมอันดับ 15 ของโลก  แข่งขันที่ สนามสเตเดียม 974

ก่อนพบกันคู่นี้ "ทีมชาติบราซิล" ผ่านเกมแรก ทำผลงาน เอาชนะ เซอร์เบีย มาด้วยสกอร์ 2-0  ส่วน "ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์" ผ่านเกมแรก ทำผลงาน ชนะ แคเมอรูน มาด้วยสกอร์ 1-0 

สำหรับผู้เล่น 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม     

บราซิล : อลิสซง เบคเกอร์ ,  เอแดร์ มิลิเตา , ธิอาโก้ ซิลวา , มาร์ควินญอส , อเล็กซ์ ซานโดร , คาเซมิโร่ ,เฟร็ด , ราฟินญ่า , ลูคัส ปาเกต้า , วินิซิอุส และ  ริชาร์ลิซอน

สวิตเซอร์แลนด์  : ยานน์ ซอมเมอร์ ,  ซิลวาน วิดเมอร์ , มานูเอล อาคานจี , นิโก้ เอลวาดี้ , ริคาร์โด้ โรดริเกซ ,  เรโม่ ฟรอยเลอร์ , กรานิต ชาก้า , ฟาเบียน รีเดอร์ , ฌิบริล โซว์ , รูเบน วาร์กาส และ   บรีล เอ็มโบโล่ 

เริ่มการแข่งขัน ทั้งสองทีมพยายามผลัดกันครองบอล โดย นาทีที่ 27 บราซิล ได้โอกาสลุ้นทำประตูครั้งแรกจากจังหวะ ราฟินญ่า วางบอลเข้าเขตโทษตัดกองหลังถึง วินิซิอุส ได้ยิงจ่อ ๆ บอลไปติดเซฟ ยานน์ ซอมเมอร์  ถัดมา นาทีที่ 30 บราซิล ได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะ ราฟินญ่า พาบอลตัดเข้ากลางยิงด้วยซ้าย บอลไปตรงตัวผู้รักษาประตู ตบ 45 นาทีแรก บราซิล เสมอ สวิตเซอร์แลนด์ 0-0 

กลับมาครึ่งหลัง นาทีที่ 53 เป็นทางฝั่ง สวิตเซอร์แลนด์ ได้ลุ้นประตูขึ้นนำก่อนจาก รูเบน วาร์กาส ยิงไปติดบล็อกกองหลัง นาทีที่ 63 บราซิล ได้ทำประตูขึ้นนำ จาก วินิซิอุส แต่กรรมการเช็ค VAR เป็นลูกล้ำหน้า  จนกระทั่งช่วงสิบนาทีสุดท้าย นาทีที่ 83 "ทีมชาติบราซิล" มาได้ประตูขึ้นนำจาก จังหวะผ่านบอลของ โรดริโก ให้ คาเซมิโร่ ยิงด้วยขวาเข้าไปอย่างสวยงามขึ้นนำ 1-0 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ บราซิล ได้ลุ้นประตูเพิ่มจาก โรดริโก ยิงในกรอบเขตโทษบอลไปติดบล็อก เวลาที่เหลือทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้จบเกม บราซิล ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 1-0 

ทั้งนี้สถานการณ์ของ กลุ่ม E จ่าฝูง บราซิล แข่ง 2 นัด ชนะรวด มี 6 คะแนน การันตีเข้ารอบ , อันดับ 2  สวิตเซอร์แลนด์ แข่ง 2 นัด ชนะ 1 แพ้ 1 มี 3 คะแนน , อันดับ 3 แคเมอรูน แข่ง 2 เสมอ 1 แพ้ 1 มี 1 คะแนน และ อันดับ 4 เซอร์เบีย แข่ง 2 เสมอ 1 แพ้ 1 มี 1 คะแนน 

CREDIT PHOTO : FIFAWorldCup