
รวบแล้วสอง-ทีมยิงอาก้าบ้านเศรษฐีทองหล่อ
รวบแล้ว 2 คน คดีอาก้าถล่มบ้านนักธุรกิจสองพี่น้องในซอยทองหล่อ ยังอ้างแค่ถูกจ้างให้ไปดูลาดเลาให้เท่านั้น ผบช.น.เผยสาเหตุเรื่องหนี้สิน 80 ล้านบาท เตรียมส่งหลักฐานให้ พฐ.ตรวจสอบ
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 26 มีนาคม พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง ผบก.น.5 พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สส.น.5 และ พ.ต.อ.สำเริง สวนทอง ผกก.สน.ทองหล่อ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายสนธยา จาดคล้าย อายุ 28 ปี และนายอภิชาติ จาดคล้าย อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ร่วมกันใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไปกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช้เหตุในเมืองหมู่บ้าน และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์
พล.ต.ท.สัณฐานกล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 19 มีนาคม เวลาประมาณ 04.00 น. พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนอาก้ายิงเข้าไปภายในบ้านเลขที่ 95 ซอยทองหล่อ 3 และบ้านเลขที่ 190 ซอยสุขุมวิท 53 แขวงคลองตัน เขตวัฒนา กทม. ซึ่งเป็นบ้านพักของนายสุพจน์ เตชะวิบูลย์ และ นายสุรพงษ์ เตชะวิบูลย์ สองพี่น้องนักธุรกิจวงการผลิตเยื่อกระดาษและกล่องกระดาษชื่อดังจนได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้หลังเกิดเหตุตำรวจได้เก็บหลักฐานจากกล้องวงจรปิด และคำให้การของพยาน จนทราบว่านายสนธยาและนายอภิชาติ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ และได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญากรุงเทพใต้ ก่อนติดตามจับกุมตัวมาสอบสวนที่ สน.ทองหล่อ เบื้องต้นพบรถจักรยานยนต์ หมวกนิรภัย และเสื้อผ้า ที่คล้ายกันกับของคนร้ายที่ใช้ในคืนก่อเหตุอยู่ในห้องของนายสนธยาด้วย แต่จากการสอบสวนทั้งสองยังคงให้การภาคเสธ ว่า เป็นเพียงแค่คนดูต้นทางให้มือปืนเท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงทดลองนำเสื้อผ้าที่ยึดได้ให้นายสนธยาสวมใส่และถ่ายภาพเอาไว้เปรียบเทียบกับภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิด แล้วจึงส่งของกลางทั้งหมดให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจหาเขม่าดินปืน ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนสาเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากเรื่องการติดหนี้ธุรกิจของครอบครัวผู้เสียหายที่มีวงเงินสูงถึง 80 ล้านบาท ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองแต่อย่างใด
จากการสอบสวน นายสนธยาให้การว่า เคยเป็นทหารเกณฑ์ สังกัดกรมแพทย์ทหารบก หลังปลดประจำการมาขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผู้ว่าจ้าง ซึ่งไม่รู้จักชื่อ โทรศัพท์มาใช้ให้ขี่รถจักรยานยนต์ไปดูลาดเลาและทางหนีทีไล่ภายในซอยบ้านผู้เสียหายให้เท่านั้น พอเสร็จงานก็มีคนนำเงินหลักหมื่นใส่ซองมาให้ โดยที่ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการยิงถล่มใส่บ้านผู้เสียหายแต่อย่างใด เรื่องเสื้อผ้า และหมวกนิรภัยที่ตำรวจยึดได้ในห้องพักนั้น ยอมรับสารภาพว่าเป็นของตนจริงๆ ส่วนลูกกระสุนปืนขนาด.45 เป็นของคนรู้จักนำมาฝากไว้ และนายอภิชาติ น้องชายก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย
ทั้งนี้ นายสนธยาถูกจับกุมตัวได้ภายในหอพักกรุงเทพอพาร์ตเมนต์ เลขที่ 106 ถนนรางน้ำ แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กทม. พร้อมของกลาง เสื้อแจ็กเก็ตสีดำ 1 ตัว เสื้อยืดสีดำ 1 ตัว กางเกงขายาวสีดำ 1 ตัว รองเท้าผ้าใบสีขาว 1 คู่ กระสุนปืนขนาด.45 จำนวน 7 นัด รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่าฟีโน่ สีน้ำตาลเข้ม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน และหมวกนิรภัยสีดำอีก 1 ใบ ส่วนนายอภิชาติถูกจับกุมตัวได้ภายในซอยสุขสวัสดิ์ 70 แขวงและเขตทุ่งครุ กทม.