"ชูวิทย์" งง ทำไม เครื่องบินไพรเวทเจ็ท ไม่ใช่ชื่อ ตู้ห่าว งัดหลักฐานโชว์

ภายหลังที่ นาย ชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ "ตู้ห่าว" พร้อมทนายความ ได้เดินทางเข้ามอบตัว หลังถูกศาลอาญากรุงเทพใต้ ออกหมายจับในฐานความผิด สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับ ยาเสพติด

 

 

โดย "ตู้ห่าว" ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีมีอัตราโทษสูง พบของกลางเป็น ยาเสพติด จำนวนมาก พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว หากปล่อยตัวไป เกรงจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัวผู้ห้องหาไปคุมขังยังทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางต่อไป

 

 

ล่าสุด นาย ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง ผู้ที่ออกมาเปิดโปง จนนำไปสู่การจับกุม "ตู้ห่าว" นั้น ได้โพสต์ข้อความล่าสุดลงบนเฟซบุ๊ก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โดยได้กล่าวว่า 

 

ติดตามกระบวนการยุติธรรมอย่างใกล้ชิด 

 

คดียาเสพติด เป็นมูลฐานให้ ป.ป.ส. สามารถเข้าอายัดทรัพย์เพื่อตรวจสอบได้ เป็นการทำงานร่วมกันกับตำรวจ ข่าวว่า ป.ป.ส. บุกไปถึง "สนามบินหัวหิน" เพื่อทำการอายัด "เครื่องบินไพรเวทเจ็ท" ของนาย "ตู้ห่าว" ปรากฏว่า เครื่องบินดังกล่าว ป.ป.ส. พบว่า ไม่ใช่ชื่อของนายตู้ห่าว ดันเป็นชื่อคนอื่นแทน จึงกินแห้ว

 

แต่จากหลักฐานที่ผมมี ใบสำคัญการจดทะเบียน ของสำนักงานการบินพลเรือน ยืนยันระบุชัดเจนว่าเป็นของ บริษัท โมเดิร์น ลาเท็กซ์ จำกัด (ตามเอกสารประกอบ) โดยมี นาย ส. เป็นกรรมการผู้จัดการ (ดูหนังสือรับรองประกอบ)  การที่จะดูว่าใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง ต้องดูว่าใครถือหุ้นมากสุด เป็นหลักการธุรกิจง่ายๆ ชาวบ้านที่ไหนก็เข้าใจ ส่วนจะไปตั้งใครเป็นผู้จัดการมันเป็นอีกเรื่องนึง

 

ดังนั้นจึงให้ไปดู “บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น“ ของบริษัทนี้พบว่า วันที่ 25 พ.ย. หรือวันนี้เอง 

นาย "ตู้ห่าว" หรือ นายชัยณัฐร์ ถือหุ้นเป็นอันดับ 1 จำนวน 180,000 หุ้น

ภรรยาถือหุ้นเป็นอันดับ 2 จำนวน 60,000 หุ้น 

และ นาย ส. อีกคน ถือ 60,000 หุ้น 

รวมทั้งสิ้น 300,000 หุ้น

 

 

สรุปได้ว่าเครื่องบินลำนี้ เป็นของนาย "ตู้ห่าว" หรือชื่อไทยว่า นายชั ยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ แถมหากไปดูในบริษัทอื่นๆ อีกสิบกว่าบริษัทของนาย "ตู้ห่าว" ล้วนมีชื่อนาย ส. เป็นผู้ถือหุ้นประดับไว้หมด สลับกันเป็นผู้จัดการกับนายตู้ห่าวแทบทุกบริษัท

 

หากจะบอกว่า นาย ส. คนนี้ เป็น "นอมินี" ของนายตู้ห่าวก็ไม่ผิด เช่นเดียวกับนาง พ. ที่เป็นผู้จัดการบริษัท เจ้าของโรงแรมใหญ่ของนาย "ตู้ห่าว" ขนาดผมยังมีเอกสารครบถ้วนอย่างนี้ ว่าใครเป็นเจ้าของ แล้วระดับ "หน่วยงานรัฐ" จะทำการยึดอายัดไว้ตรวจสอบไม่ได้หรือ?

 

หากทำงานชักช้า มีหวังคงเหลือไว้แต่ "ตอ" ให้เดินชน แล้วตีกรรเชียงถอยหลังเป็น "มวยล้ม ต้มคนดู" เมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับ "ยาเสพติด" อิทธิพล กับคอนเน็คชัน โปรดอย่าไปใช้กับเรื่องนี้เลย ผม และสังคมจะคอยจับตาเฝ้าดูอย่างใกล้ชิดแบบไม่กระพริบตา ใครมีหน้าที่รับผิดชอบ ขอให้ทำให้ดี และระวังตัวไว้ งานนี้ไม่ใครสักคนต้องพังไปข้างหนึ่ง
เพราะกลิ่นทะแม่งมันโชยมาแต่ไกล

 

ยืนยันว่าผมจะเปิดเผยข้อมูลเป็นระยะๆ เพื่อให้ สังคมของเราเข้มแข็งมากพอที่จะต่อสู้กับอิทธิพลทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นระดับไหน โปรดอย่ากระพริบตา 

 

หากเราไม่สู้ แล้วใครจะสู้?