ข่าว

จับสึก "พระร่วมวงก๊งเหล้า" เมาแอ๋ ขอมีสัมพันธ์เมียเพื่อน อ้างโดนใส่ร้าย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จับสึกแล้ว "พระร่วมวงก๊งเหล้า" เมาได้ที่ ขอมีสัมพันธ์ เมียเพื่อน ยังปากแข็งอ้างโดนใส่ร้าย แค่ไปห้ามผัวเมียทะเลาะกัน พบประวัติมีคดีติดตัว ตำรวจจับสึกแจ้งพร้อมแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย

จากกรณีนางสาวเอ (นามสมมติ)  อายุ 17 ปี ชาว จ.อุดรธานี แจ้งตำรวจว่า น.ส.สาวดี (สงวนนามสกุล)  อายุ 48 ปี แม่นางสาวเอ ถูกพระอนุชา  อายุ 48 ปี เพื่อนพ่อเลี้ยง ซึ่งเดินทางจาก จ.กาญจนบุรี กลับมาเยี่ยมบ้าน และได้ปักกลดที่กระท่อมนาพ่อเลี้ยง มาขอร่วมวงก๊งเหล้าด้วย พอเมาได้ที่ขอมีสัมพันธ์กับแม่ตน แต่แม่ปฏิเสธ และพูดด่าไป ทำให้พระอนุชาโกรธ ชกหน้าแม่จนล้ม แล้วกระทืบซ้ำจนซี่โครงร้าว รักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี แต่พระอนุชายังลอยนวล เมื่อตำรวจไปตามหากลับหลบหนี 

 

 

 

 


 

จับสึก "พระร่วมวงก๊งเหล้า" เมาแอ๋ ขอมีสัมพันธ์เมียเพื่อน อ้างโดนใส่ร้าย

 

 

ล่าสุด  ร.ต.อ.พงศ์พล ผิวผ่อง รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งว่าพบพระอนุชา ทับประดิษฐ์ อายุ 48 ปี ผู้ถูกกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกาย น.ส.สาวดี  ได้รับบาดเจ็บสาหัส  เดินอยู่ในป่าหลังกระท่อมนานายศิลา  อายุ 75 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวมาโรงพัก ให้ พ.ต.ท.พัฒนวงศ์ จันทร์พล รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี ทำการสอบสวน

 

โดยพระอนุชา เล่าว่า ปี 2555 ตนเคยถูกจับกับเพื่อนข้อหาลักทรัพย์ยางรถไถ ติดคุก 9 เดือน พอพ้นโทษออกมา ได้ไปบวชอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี ต่อมามีสีกามาติดพัน จึงได้สึกมาอยู่กินกับสีกา แต่อยู่ได้ไม่ถึงปีก็แยกทางกัน ตนจึงกลับมาบวชอีกได้ 2 พรรษา และเมื่อ 3 วันก่อน ได้เดินทางมาเยี่ยมพ่อที่บ้านสามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี แต่ได้ไปปักกลดที่กระท่อมนาเพื่อนซึ่งกำลังพากันเกี่ยวข้าว ตกค่ำเพื่อนได้ตั้งวงดื่มเหล้า คืนแรกไม่ได้เข้าไปร่วมวง

 

 

 

จับสึก "พระร่วมวงก๊งเหล้า" เมาแอ๋ ขอมีสัมพันธ์เมียเพื่อน อ้างโดนใส่ร้าย

 

 

พระอนุชา เล่าต่อว่า แต่พอคืนที่ 2 ตนทนไม่ไหวจึงเข้าไปขอร่วมวงก๊งเหล้าด้วย โดยอ้างว่าแก้เหนื่อย ตนดื่มเหล้าทั้งคืนจนมีอาการมึนเมา ส่วนเรื่องทำร้ายเมียเพื่อน ตนขอปฏิเสธไม่ได้ทำ แต่ น.ส.สาวดีกับสามีดื่มเหล้าจนเมาแล้วทะเลาะกัน ตนจึงเข้าไปห้ามปราม แต่บางครั้งก็พลั้งเผลอชกบ้าง ไม่คิดว่าเมียเพื่อนจะมาใส่ร้ายตน ตนก็แค่ดื่มเหล้าและสูบกัญชา แต่ไม่ได้เสพยาบ้าแต่อย่างใด

 

เบื้องต้น ตำรวจจึงได้ขอดูใบสุทธิ แต่พระอนุชาไม่มีมาแสดง โดยอ้างว่าลืมที่วัด มีเพียงบัตรประชาชนมาแสดง ตำรวจจึงนำตัวไปสึกที่วัดมัชฌิมาวาส ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี เสร็จแล้วแจ้งข้อหา “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส” ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

 เศกสันติ กัลยาณวิสุทธิ์   จ.อุดรธานี 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ