ทำความรู้จัก "รองต่อ"สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล

วินาทีนี้เชื่อว่า ไม่มีใครไม่รู้จัก ลูกผู้ชายชื่อ "รองต่อ"สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล หลังเหตุปะทะคารมอย่างดุเดือด กับ "จอมแฉ"ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตเจ้าพ่ออ่างทองคำ บริเวณด้านหน้า สน.ทองหล่อ ถึงขั้น"หวิดวางมวย" เหตุเกิดเมื่อช่วงหัวค่ำวานนี้(9 พ.ย.65)  "รองต่อ"สันธนะ ประยูรรัตน์ เป็นใครมาจากไหน วันนี้ ทีมข่าว"คมชัดลึกออนไลน์" จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกัน

"รองต่อ"สันธนะ ประยูรรัตน์ เกิดเมื่อปี 2502 ปัจจุบันอายุ 63 ปี เป็นบุตรคนที่ 3 ในจำนวนพี่น้อง 6 ของ พล.ต.ต.สมชาย และนางนิตยา ประยูรรัตน์ และเป็นน้องชายของ พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ อดีต เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ "ปปง." ชีวิตครอบครัวสมรสกับ นางพรรณี ประยูรรัตน์ มีบุตรร่วมกัน 2 คน

จบชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก เป็นนักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 17(ตท.17) นักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 33(นรต.33) ก่อนศึกษาวิทยาลัยตำรวจ เอฟ.บี.ไอ สหรัฐอเมริกา และยังจบ ปริญญาตรี คณะรัฐศาสนศาสตร์ ,ปริญญาโท คณะนิติศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง อีกด้วย

ปี 2535 "รองต่อ"สันธนะ ขยับตำแหน่งขึ้นเป็น "สารวัตร"ครั้งแรก สังกัดกองสารนิเทศ สำนักงานตำรวจสันติบาล เคยทำงานที่กองตรวจคนเข้าเมือง และเป็นรองผู้กำกับการชุดตรวจงานป้องกันปราบปราม สำนักงานจเรตำรวจ และรองผู้กำกับการ 1 กองตำรวจสันติบาล 2 ก่อนลาออกจากราชการ โดยให้เหตุผลจะผันตัวสู่"แวดวงการเมือง" แต่ถูกฟันข้อหาความผิดวินัยร้ายแรง"ให้ออกราชการ" จากกรณีขัดขวางการจับกุม"บ่อนการพนัน" ในพื้นที่ สน.บางกอกน้อย

จากนั้นเมื่อปี 2549 "รองต่อ"สันธนะ ผันตัวเองเข้าสู่"แวดวงการเมือง" เต็มตัว ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชากรไทย และได้ลงสมัคร "สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร" แต่สอบตก โดยในปีเดียว "รองต่อ"สันธนะ ตกเป็นข่าวครึกโครมในหน้าหนังสือพิมพ์ เมื่อถูกคนร้ายลอบสังหาร ขณะเดินทางออกจาก"สนามม้านางเลิ้ง" แต่เจ้าตัวกลับรอดหวุดหวิด โดยลูกน้องคนสนิทรับเคราะห์แทน และในปี 2550 "รองต่อ"สันธนะ ได้ลงสมัคร ส.ส.กทม.เขต 5 ในนามพรรคประชากรไทย แต่ก็ต้องสอบตกอีกครั้งหนึ่ง

ชื่อของ "รองต่อ"สันธนะ กลับมาอยู่กระแสอีกครั้งหนึ่ง เมื่อถูกตำรวจ สภ.เชียงแสน จ.เชียงใหม่ จับกุมในข้อหาพกพา"อาวุธปืน"โดยไม่มีเหตุอันควร ที่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ เนื่องมาจากพบพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจ เข้าข่ายไปข่มขู่คนที่อยู่ตามชายแดน หรือคนที่ข้ามไปเล่นกาสิโนในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เหตุเกิดเมื่อปี 2552 

แม้ไม่สมหวังในสนามการเมือง แต่"รองต่อ"สันธนะ ยังคงปรากฏตัวในหน้าสื่อเป็นระยะๆ ไม่ว่าจะเป็น การนำหนังสือร้องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ"ดีเอสไอ" เอาผิดกรณีสนามม้าราชกรีฑาสโมสร ถึงความไม่โปร่งใสเกี่ยวกับการจัดแข่งม้าการกุศล ,ออกมาให้ข่าวเกี่ยวกับขบวนการ"ไซฟ่อนเงิน" จากการทุจริตในภาครัฐไปฮ่องกง รวมทั้งเคยเป็นหนึ่งในแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และถูกดำเนินคดีก่อการร้ายบุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิปี 2551 ด้วย 

ก่อนปรากฏตัวบนพื้นที่ข่าวอีกครั้ง เมื่อออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องตรวจสอบพฤติกรรม พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว(ยศในขณะนั้น) เกี่ยวข้องกับปมธุรกิจสีเทาในสนามแข่งม้า และมาก่อเหตุวิวาทกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายหลังจากปมบุกตรวจค้น"ตลาดใหม่ดอนเมือง" กรณี"เมจิกสกิน" จากนั้นยังเข้ามามีบทบาทเคียงคู่กับ "เสี่ยโป้ อานนท์" เน็ตไอดอลสายสีเทา ถึงแม้วันนี้ "เสี่ยโป้ อานนท์"จะคงอยู่ในเรือนจำ แต่เจ้าตัวก็ยังมีบทบาทตามสื่ออยู่เสมอ กระทั่งล่าสุด ก่อเหตุปะทะคารมกับ "จอมแฉ"ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ถึงสองครั้งสองครา

และนั่นคือข้อมูลคร่าวๆ ของผู้ชายชื่อ "รองต่อ"สันธนะ ประยูรรัตน์