ข่าว

รวบ 3 เกลอ "ขโมยลิฟท์" ยกชำแหละ แยกเป็นชิ้น ๆ ขายร้านของเก่า

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รวบ 3 คนร้าย "ขโมยลิฟท์" สารภาพตัดเป็นชิ้น ๆ ขายร้านของเก่า ตร.คุมทำแผน เจอเจ้าของ ยัวะจัด กระโดดเตะ มั่นใจคนร้ายมีมากกว่านี้ จี้ตำรวจขยายผลถึงตัวการ

5 พ.ย.2565 จากกรณี นายเนตรวิสิฐ  (สงวนนามสกุล)  อายุ 54 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เข้าแจ้งความที่ สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง ว่าถูกคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์สิน ภายในโครงการ ก่อสร้างอาคาร 5 ชั้น ริมถนนสาย 363 ใกล้สี่แยกเนินสำลี ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง ประกอบด้วย ลิฟท์ 2 ตัว เครื่องปรับอากาศ กล้องวงจรปิด กระจก และสายไฟฟ้า มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท 

 

โดยขณะเข้าตรวจสอบอาคารพบคนร้ายกำลังงัดมอเตอร์ของลิฟท์ จึงแจ้งตำรวจมาจับกุม ทราบชื่อ นายสมชาย  (สงวนนามสกุล)  อายุ 45 ปี อ้างว่าทะเลาะกับเมียแล้วเข้ามาเก็บของเก่า ตำรวจจึงคุมตัวไปสอบสวนเพื่อขยายผลต่อไป 

 

 

 

 

รวบ 3 เกลอ "ขโมยลิฟท์" ยกชำแหละ แยกเป็นชิ้น ๆ ขายร้านของเก่า

 


ล่าสุด  พ.ต.อ.ภาสกร ไพจิตย์ ผู้กำกับการ สภ.มาบตาพุด ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.พีระวัฒน์ วงศ์ทอง รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.มาบตาพุด และ ร.ต.อ.นิธินันท์ ศรีรุต ร้อยเวรเจ้าของคดี ควบคุมตัวผู้ต้องหาที่จับได้วานนี้และจากการขยายผล สามารถจับกุมได้เพิ่มเติม รวม 3 ราย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ
    

พ.ต.ท.พีระพัฒน์ เปิดเผยว่า หลังจากที่จับกุมตัวนายสมชาย ที่กำลังก่อเหตุลักทรัพย์ในอาคารเกิดเหตุ ได้สอบสวนจนให้การรับสารภาพว่า เมื่อกลางเดือนตุลาคม มาเดินหาเศษเหล็กรอบอาคารดังกล่าว กระทั่งได้เข้าไปภายในอาคารซึ่งไม่มีคนเฝ้า แล้วได้พบกับกุญแจลิฟท์ จึงไขเข้าไปภายในลิฟท์

 

 

รวบ 3 เกลอ "ขโมยลิฟท์" ยกชำแหละ แยกเป็นชิ้น ๆ ขายร้านของเก่า

 

 

ต่อมามี นายเฉลิมวงศ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี และนายขุนพล (สงวนนามสกุล)  อายุ 38 ปี เข้ามาช่วยกันรื้อถอดลิฟท์ออกเป็นชิ้นส่วน จากนั้นใช้เลื่อยตัดเป็นชิ้นแล้วนำไปขายร้านของเก่า นำเงินมาแบ่งกัน โดยใช้เวลาชำแหละลิฟท์ประมาณ 5 วัน ต่อมาจึงจับกุมตัวผู้ที่ถูกซัดทอด โดยทั้งสองคนให้การรับสารภาพตรงกันว่า ได้ร่วมกันขโมยลิฟท์และทรัพย์สินอื่นๆ โดยช่วยกันชำแหละแล้วนำใส่จักรยานยนต์ไปขายที่ร้านขายของเก่าแห่งหนึ่งใน ต.มาบตาพุด จ.ระยอง

 

 

 

รวบ 3 เกลอ "ขโมยลิฟท์" ยกชำแหละ แยกเป็นชิ้น ๆ ขายร้านของเก่า

 

 

ทั้งนี้ขณะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไปทำแผนประกอบการรับสารภาพที่อาคารเกิดเหตุ  นายเนตรพิสิฐ (สงวนนามสกุล) เจ้าของโครงการ มาร่วมติดตามการทำแผนอย่างใกล้ชิด  ช่วงหนึ่งถึงกับห้ามอารมณ์ไม่อยู่ ใช้ขาเตะไปที่ตัวของหนึ่งในผู้ต้องหา จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาห้าม 

 

 

รวบ 3 เกลอ "ขโมยลิฟท์" ยกชำแหละ แยกเป็นชิ้น ๆ ขายร้านของเก่า

 

 

พ.ต.ท.พีระพัฒน์ กล่าวด้วยว่า จากการสอบผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย และพยานหลักฐาน เชื่อว่าผู้ก่อเหตุมีเพียง 3 คน โดยใช้เวลาหลายวันในการก่อเหตุ ทั้งกลางวันและกลางคืน เพราะได้ไปตรวจสอบที่ร้านของเก่า เจ้าของร้านก็ยืนยันว่าทั้ง 3 คนเอาเศษเหล็กมาขายจำนวนมาก แต่เศษชิ้นส่วนลิฟท์ที่ซื้อมาได้นำส่งขายโรงหลอมหมดแล้ว จึงควบคุมตัวดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ในเคหะสถาน ส่วนเจ้าของร้านของเก่ากันไว้เป็นพยานโดยไม่ได้แจ้งข้อหา เพราะเป็นชิ้นส่วนที่ชำแหละแล้วไปขาย จึงไม่นับว่าเป็นการรับซื้อของโจร

 

 

รวบ 3 เกลอ "ขโมยลิฟท์" ยกชำแหละ แยกเป็นชิ้น ๆ ขายร้านของเก่า

 

 

ขณะที่นายเนตรวิสิฐ เจ้าของอาคาร เชื่อว่าคนร้ายน่าจะมีมากกว่า 3 คน และต้องใช้ยานพาหนะเข้ามาขนลิฟท์ออกไป มีร่องรอยล้อรถบรรทุกอยู่รอบอาคาร เพราะลิฟท์ 1 ตัว น้ำหนักกว่า 1 ตัน และ เหล็กที่ใช้ทำลิฟท์มีความหนามาก เลื่อยตัดเหล็กทั่วไปไม่สามารถตัดได้ จึงเชื่อว่ายกไปขายทั้งตัว เพราะลิฟท์เป็นของใหม่แกะกล่อง สามารถนำไปติดตั้งใช้งานได้เลย จึงต้องการให้มีการตรวจสอบเพิ่มเติม เพราะเชื่อว่าคนร้ายต้องเตรียมการมาอย่างดี และรู้เวลาที่คนไม่อยู่ จึงลงมือ

 

สำหรับอาคารแห่งนี้หยุดก่อสร้างไปตั้งแต่สถานการณ์โควิด19 ระบาด แต่ก็ขับรถมาดูทุกวัน จนช่วงเกิดเหตุตนเองเดินทางไปทอดกฐินหลายวัน พอกลับมาเข้าไปตรวจสอบพบว่าลิฟท์และทรัพย์สินอื่นหายไปหมดแล้ว

 

 

 

อัจฉรา-ภัทราพร วิเศษศรี    จ.ระยอง

 


เพื่อไม่พลาด ข่าวสารต่างๆ คมชัดลึก ไปที่
Website -  www.komchadluek.net
Facebook - https://www.facebook.com/komchadluek
 

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ