ข่าว

ขยายผลจับ "นายทุนจีน" ปลอมบัตร ปชช.ไทย ล่าสุดพบ เอี่ยว "แก๊งคอลเซ็นเตอร์"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตำรวจขยายผลจับ "นายทุนจีน" ธุรกิจสีเทา ล่าสุดสืบสวนพบ ปลอมบัตร ปชช. รวมถึงเอี่ยว "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ประเทศเพื่อนบ้าน ยึดทรัพย์กว่า 300 ล้านบาท

จากกรณีที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. เปิดปฎิบัติการกวาดล้าง "กลุ่มนายทุนจีนผิดกฎหมาย"  และ มีการตรวจค้นบ้านพัก จับกุมผู้ต้องหาหลายราย และยึดทรัพย์ ที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด มาตรวจสอบข้อเท็จจริง จนกระทั่ง เกิดกระแสดราม่าในโลกออนไลน์ ว่ามี "อดีตรัฐมนตรี" เข้าไปเกี่ยวข้อง กับวงการสีเทา หรือ ให้การช่วยเหลือ กลุ่ม "นายทุนจีน" นั้น

 

ล่าสุดวันนี้ (3 พฤศิจิกายน 2565) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล พร้อมด้วย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) , พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี , พล.ต.ต. วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวถึงปฏิบัติการ “ล้มไม้ค้ำ ลิดกิ่งก้าน” จับกุมผู้ต้องหา 15 ราย แบ่งเป็นคนไทย 5 ราย , คนจีน 10 ราย พร้อมยึดของกลาง มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เปิดเผยว่า "นายทุนจีน" ผู้ต้องหารายสำคัญในคดีนี้ คือ นายหลิน ไม่สามารถพูดไทย แต่มีบัตรประชาชนไทย ซึ่งเป็นที่ผิดสังเกต ตำรวจจึงนำบัตรประชาชน ที่นายหลิน ครอบครอง ไปตรวจสอบ กับทะเบียนราษฎร์ ปรากฎว่าใบหน้า ไม่ตรงกับผู้ต้องหา เชื่อว่าเป็นการปลอมบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งตำรวจได้สืบสวน จนพบว่า เจ้าของบัตรตัวจริง เป็นชาวไทย และยังมีชีวิตอยู่ ประกอบอาชีพเก็บข้าวโพด อยู่ที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ นอกจากนี้ ตำรวจได้ตรวจสอบ บันทึกการเข้าออก ประเทศ จากพาสปอร์ต ของนายหลิน ที่ยึดไว้ พบว่ามีการเดินทางเข้าออก ไทย-กัมพูชา 25 ครั้ง และ เข้า-ออก มาเลเซียอีก 12 ครั้ง และ ยังพบความเชื่อมโยงกับกลุ่ม "คิงโรมัน" จึงเชื่อว่านายหลิน เป็นขบวนการ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ที่ใช้ประเทศไทย เป็นที่พักอาศัย

 

บิ๊กต่อ และ บิ๊กโจ๊ก นำกำลังตรวจค้นที่พักคนจีน

 

ส่วนกรณี ที่นายชูวิทย์ แฉว่ามี 5 แก๊งค์ คนจีนสีเทา มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังนั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ระบุว่า กำลังอยู่ในระหว่างการสืบสวน ยืนยันว่า จับกุมได้แล้ว 2 ใน 5 กลุ่ม ส่วนกรณีที่บอกว่า "อดีตรัฐมนตรี" อยู่เบื้องหลัง ยังไม่พบความเชื่อมโยง ส่วนที่อ้างว่า ตัวการใหญ่ อักษรย่อ ต. กับ ห. มีความสนิทสนมกับ นายตำรวจ และ นักการเมืองดัง เบื้องต้นยังไม่พบความเชื่อมโยง ซึ่งต้องใช้เวลาสืบสวนสักระยะ

สำหรับการปิดล้อมครั้งนี้ ตำรวจตรวจค้น 3 จุดเป้าหมาย ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพื้นที่ของเครือข่าย "นายทุนจีน" จีนสีเทา 

จุดที่ 1 เป็นบ้านพักหลัง ในเขตประเวศ พบชาวจีน 5 คน และ คนไทย 3 คน พร้อมทรัพย์สินหลายรายการ เช่น รถยนต์ 3 คัน รถจักรยานยนต์ ดูคาติ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สุราต่างประเทศกว่า 50 ขวด โทรศัพท์มือถือ 13 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค 3 เครื่อง และ เงินสด 7 ล้านบาท

 

จุดที่ 2 เป็นบ้านพักในหมู่บ้านหรู เขตประเวศ พบชายชาวจีน 1 คน และคนไทย 2 คน พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินอีกหลายรายการ

 

และ จุดที่ 3 เป็นคอนโดฯ บริเวณซอยสุขุมวิท 39 พบชาวจีน 4 คน พร้อม ยึดทรัพย์สิน เช่น เงินสด 28 ล้านบาท , กระเป๋าแบรนเนมหรู 8 ใบ

 

ทรัพย์สินที่ตรวจยึด

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ