กรมชลประทาน ชะลอการระบายน้ำ "เขื่อนเจ้าพระยา" ลดผลกระทบ พื้นที่ท้ายเขื่อน ส่งผลให้ 3 จังหวัดเหนือเขื่อน ชัยนาท อุทัยธานี นครสวรรค์ ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น
6 ต.ค.2565 จากสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำเจ้าพระยา ในช่วงวันที่ 3 - 9 ต.ค. 2565 ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี ประมาณ 400 ล้าน ลบ.ม. กรมชลประทาน จำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อรักษาเสถียรภาพความมั่นคงของเขื่อน โดยจะทยอยปรับจาก 600 ลบ.ม./วินาที เป็น 800 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะส่งผลให้ พื้นที่ริมแม่น้ำป่าสัก ด้านท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ถึง เขื่อนพระราม 6 ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นระดับ 0.40 - 1.00 ม. และ บริเวณท้ายเขื่อนพระราม 6 ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้น 0.40 - 0.60 ม.
และจุดบรรจบแม่น้ำเจ้าพระยา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้น 0.25 – 0.50 ม. ทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่าน อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่ในเกณฑ์ 3,300 – 3,500 ลบ.ม./วินาที และส่งผลให้เกิดน้ำไหลย้อนเข้ามาในแม่น้ำน้อยทำให้ระดับแม่น้ำน้อยเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับลุ่มน้ำยมเกิดน้ำป่าไหลหลาก ขณะเดียวกัน ทางกรมชลประทาน ได้หน่วงน้ำโดยการผันน้ำเข้าไปเก็บในทุ่งบางระกำเต็มความจุแล้ว และยังมีน้ำจากแม่น้ำปิงไหลมารวมกับแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น
ดังนั้น เพื่อเป็นการลดผลกระทบน้ำท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาจาก จ.ชัยนาท ถึงสมุทรปราการ จึงจำเป็นต้องบริหารจัดการน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ 2,700 – 2,800 ลบ.ม./วินาที
ซึ่งจะส่งผลกระทบให้ระดับน้ำด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยาบริเวณ อ.เมืองชัยนาท และมโนรมย์ จ.ชัยนาท และ อ.เมืองอุทัยธานี จ.อุทัยธานี จ.นครสวรรค์ อ.พยุหะคีรี เพิ่มสูงขึ้นประมาณ 0.30 เมตรเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 0.30 เมตร
ติดตามข่าวสาร คมชัดลึก อื่นๆ ได้ที่
Facebook - https://www.facebook.com/komchadluek
LineToday - https://today.line.me/th/v2/publisher/100057
ข่าวที่เกี่ยวข้อง