อิตาลีขุดเจอแวมไพร์สาวในเวนิส | คมชัดลึก

สำนักข่าวเอพีรายงานเมื่อวันเสาร์ (14 มี.ค.) อ้างการเปิดเผยของนายแมททิโอ บอร์รินี นักโบราณคดีด้านนิติเวช และนักมานุษยวิทยา ประจำมหาวิทยาลัยฟรอเรนซ์ ที่ระบุว่า เป็นผู้ขุดพบศพหญิง ซึ่งคาดว่าจะมีอายุราวคริสต์ศตวรรษที่ 16 และถูกนำอิฐวางขวางขากรรไกรเอาไว้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เชื่อว่า เธอถูกฝังโดยพิธีกรรมที่คนสมัยนั้นเชื่อว่าเธอเป็นแวมไพร์
 นายบอร์รินีกล่าวว่า แวมไพร์ไม่มีอยู่จริง แต่จากการศึกษาหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่า ผู้คนในยุคนั้นเชื่อว่า แวมไพร์มีตัวตนอยู่จริง และนี่เป็นครั้งแรกที่พบหลักฐานพิธีกรรมที่ใช้ปราบแวมไพร์ โดยผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ตำนานผีดูดเลือดนี้เป็นส่วนผสมของความเชื่องมงายของคนในยุคนั้นเรื่องโรคที่แพร่ระบาด และสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายหลังจากที่เสียชีวิตไปแล้ว โดยโครงกระดูกนี้พบครั้งแรกเมื่อปี 2549 ที่เกาะลัซซาเร็ตโต นูโว ทางเหนือของเมืองเวนิส ซึ่งศพอยู่ท่ามกลางศพอื่นๆ ที่ถูกฝังรวมกันหลังเกิดโรคแพร่ระบาดในเมืองเวนิสเมื่อปี พ.ศ.2119
 นายบอร์รินีกล่าวอีกว่า อักขระยุคกลางแสดงให้เห็นว่า ความเชื่อเรื่องแวมไพร์ถูกกระตุ้นโดยการที่ศพเน่าเปื่อย ซึ่งระหว่างการระบาดของโรคนั้น หลุมศพมักจะถูกขุดขึ้นมาใหม่อีกเพื่อฝังศพใหม่ๆ ลงไป และผู้ขุดคงเห็นว่าศพที่อยู่เก่าๆ นั้นพองอืด มีเลือดไหลออกจากปาก และมีช่องโหว่ที่อธิบายไม่ได้อยู่บนผ้าที่ใช้คลุมหน้าศพ ทำให้เชื่อว่าศพนั้นเป็นแวมไพร์ ยังมีชีวิตอยู่ด้วยการดื่มเลือด กัดผ้าคลุมศพออก ท่องคาถาให้โรคร้ายยิ่งระบาดออกไปเพื่อเพิ่มอำนาจของตัวเอง ส่วนการที่เอาอิฐมาวางขวางขากรรไกร เพราะเชื่อว่าการใช้หมุดปักที่หัวใจคงไม่พอ และการวางอิฐไว้จะทำให้แวมไพร์ตนนี้อดตาย