"ชลประทาน" เตือน ฝนตกท้าย เขื่อนสิริกิติ์ ทำ แม่น้ำน่าน สูงพรวดเดียวเกือบ 2 ม.

4 ต.ค.2565  นายชำนาญ ชูเที่ยง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิษณุโลก เปิดเผยว่า เนื่องจากมีปริมาณฝนตกหนัก ในพื้นที่ท้ายเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ ทำให้มีปริมาณน้ำสาขา ไหลลงแม่น้ำปริมาณมาก ส่งผลทำให้แม่น้ำน่านที่ไหลผ่าน อ.พรหมพิราม อ.เมือง และ อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก มีระดับน้ำและปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น อย่างต่อเนื่อง

 

โดยเมื่อวันที่ 3 ต.ค. 65 เวลา 21.00 น.แม่น้ำน่าน ที่สถานีวัดน้ำ N.5A บริเวณสะพานเอกาทศรถ อ.เมือง จ.พิษณุโลก วัดระดับน้ำได้ 7.26 เมตร (ต่ำกว่าตลิ่ง 3.11 เมตร) ปริมาณน้ำไหลผ่าน 833.20 ลบ.ม/วินาที  จึงแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยริมแม่น้ำน่าน, ชุมชน และ แพร้านอาหาร, กลุ่มผู้เลี้ยงปลาในกระชัง, สถานีสูบน้ำไฟฟ้าเพื่อการประปา และ เกษตร ระมัดระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมในระดับน้ำแม่น้ำน่านที่เพิ่มระดับสูงขึ้นในช่วงนี้

 

 

 

 

 

 

 

และล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. ที่ผ่านมา ระดับน้ำใน  แม่น้ำน่าน เมืองพิษณุโลก  อยู่ที่ 7.88 เมตร ปริมาณน้ำไหลผ่าน 879.70 ลบ.ม/วินาที เป็นระดับที่เพิ่มเร็วมาก จากเมื่อวานนี้เวลา 07.00 น. 3 ต.ค.65 แม่น้ำน่านช่วงไหลผ่านเมืองพิษณุโลกอยู่ที่ 5.81 เมตร เท่านั้น ( ระดับตลิ่ง 10.37 ม. )

 

อย่างไรก็ตาม แม่น้ำน่านจะไปไม่ขึ้นไปถึงระดับวิกฤติล้นตลิ่ง เหมือนปีน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 เนื่องจากอยู่ในช่วงปลายฤดูฝนแล้ว และเขื่อนสิริกิติ์ ยังสามารถรองรับน้ำได้อีกมาก 
 

 

 

 

 

และจากสถานการณ์ที่แม่น้ำน่านช่วงไหลผ่านเมืองพิษณุโลกเพิ่มระดับอย่างรวดเร็วนั้น ส่งผลให้ชาวแพที่เป็นบ้านพักเรือนแพ รวมถึงแพร้านอาหาร ต่างได้รับผลกระทบมาก ตลอดทั้งคืนที่แม่น้ำน่านสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวแพจะต้องคอยปรับระดับแพ ปรับเชือกที่ผูกกับแพไว้ริมตลิ่ง ปรับระดับสายไฟฟ้าที่ต่อเชื่อมมากับแพ และทำทางเดินเชื่อมขึ้นฝั่ง ซึ่งจากระดับน้ำที่เพิ่มสูงมาก มีปัญหาเรื่องต้นไม้ใหญ่ริมตลิ่ง ที่เป็นอุปสรรคต่อการปรับระดับแพ

 

 

 

 

ทั้งนี้ เทศบาลนครพิษณุโลก จัดรถประชาสัมพันธ์ ตระเวนออกประกาศแจ้งเตือนชาวแพ ให้เฝ้าระวังระดับน้ำ เนื่องจากจะยังเพิ่มขึ้นได้อีก และรับทราบปัญหาหาแนวทางช่วยชาวแพที่มีต้นไม้และวัชพืช เป็นอุปสรรคต่อการปรับระดับแพ 

 

 

 

 

 

ขณะที่เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (3 ต.ค.2565)     นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยนายชำนาญ ชูเที่ยง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดพิษณุโลก ลงพื้นที่ตรวจสอบปริมาณน้ำในแม่น้ำยมสายเก่า หรือ คลองเมม บริเวณพื้นที่ หมู่ 8 ต.ท่าช้าง หมู่ที่ 9 ตำบลหนองแขม หมู่ 11,12 ตำบลพรหมพิราม ตำบลพรหมพิราม อำเภอพรหมพิราม เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าว ต้องรับน้ำต่อจาก จ.สุโขทัย ลงพื้นที่คลองเมมสายเก่า ซึ่งมีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นบางจุดไหลบ่าท่วมถนนภายในหมู่บ้านและเข้าบ้านเรือน พื้นที่ทางการเกษตร

 

 

 

 

โดยผู้ว่าฯ เปิดเผยว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจะเพิ่มสูงสุดภายใน 2 วัน คาดจะมีระดับน้ำ เพิ่มสูงขึ้นประมาณ 30 เซนติเมตร ย้ำให้ทุกฝ่ายร่วมกันดำเนินการเสริมคันดินป้องกันมวลน้ำอย่างเร่งด่วน

 

 

 

 

 

โดย สำนักงานชลประทานพิษณุโลก จะได้ส่งเครื่องจักรกล ปฏิบัติงานเสริมคันดินกั้นน้ำเพื่อป้องกันน้ำล้นคันคลองเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตร เตรียมพร้อมรับน้ำหลาก บริเวณพื้นที่ จุดท้าย ปตร.กม.77+883 บริเวณ ม.7 ต.วังวน อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ซึ่งอยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษายมน่าน ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการให้การสนับสนุนช่วยเหลือ โดยมีรถเข้าดำเนินการทั้งหมด 8 คัน เป็นของ ชลประทาน 6 คัน อบจ.1 คัน , อบต.พรหมพิราม 1 คัน กระจายตามจุดต่างๆ ระยะทาง 4 กม. 

 

 

มงคลเชาวราช ทั่งมั่งมี   ผู้สื่อข่าว จ.พิษณุโลก

 

 

เพื่อไม่พลาด ข่าวสารต่างๆ คมชัดลึก ไปที่
Website -  www.komchadluek.net
Facebook - https://www.facebook.com/komchadluek