ข่าว

"ชลประทาน" รับ "พายุโนรู" ทำอีสานอ่วมสุด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ชลประทาน" รับ "พายุโนรู" อีสานรับผลกระทบมากที่สุด โดยเฉพาะที่ "อุบลราชธานี" ล่าสุด "ลำน้ำมูล" เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมชาวบ้านที่อยู่ริมน้ำ 2 อำ เภอ เดือดร้อนเกือบ 40 หมู่บ้าน

ดร.ธเนศร์ สมบูรณ์ ผอ.สำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา  กรมชลประทาน เปิดเผยสถานการณ์ "พายุโนรู" ที่กำลังจะเข้าไทยในวันที่ 28 กันยายนนี้ กับ ทีมข่าว "คมชัดลึกออนไลน์"  ว่า อิทธิพลของ "พายุโนรู" จะส่งผลทั่วทุกภาคของประเทศ  แต่พื้นที่ที่ได้รับกระทบมากที่สุดน่าจะเป็นภาคอีสาน โดยเฉพาะพื้นที่ที่มี "ล้ำน้ำชี -ลำน้ำมูล" ไหลพาดผ่าน และหนักสุดน่าจะเป็นจังหวัดอุบลราชธานี ที่เป็นจุดบรรจบของทั้ง 2 ลำน้ำสายหลักในภาคอีสาน 
 

โดยสถานการณ์ลำน้ำมูลล่าสุดวันนี้ (26 กันยายน 2565 ) เวลา 18.00 น. ที่จังหวัดอุบลราชธานี พบว่า ฝั่งขวาหรือฝั่งอำเภอเมืองอุบลราชธานี ระดับน้ำอยู่ที่ประมาณ  113 ม.(ทรก.) สูงกว่าระดับตลิ่ง 0.47 เมตร ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนริมลำน้ำมูลได้รับรับผลกระทบแล้ว 17 ชุมชน ประมาณ 293 ครัวเรือน  

 

ขณะที่ฝั่งซ้าย หรือฝั่งอำเภอวารินชำราบ ระดับน้ำอยู่ที่ประมาณ 112 ม.(รทก.) สูงกว่าตลิ่ง1.47 เมตร ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนที่อาศัยอยู่ริมน้ำได้รับผลกระทบแล้ว 19 หมู่บ้าน ประมาณ 469 ครัวเรือน 

 

ส่วนจุดวัดระดับน้ำ สถานี M7 สะพานเสรีประชาธิปไตย ที่ลำน้ำมูลไหลผ่านทั้ง 2 อำเภอ ล่าสุดวันนี้ (26 กันยายน 2565 ) เวลา 18.00 น. อยู่ที่ 113.34 ม.(รทก.) สูงกว่าเมื่อวาน (25 กันยายน 2565 ) 0.14 เมตร  ซึ่งเลยจุดวิกฤติ(112.ม.(รทก.)) ประมาณ 1.34 ม.(รทก. ) ระดับน้ำไหลผ่านอยู่ที่ประมาณ 3000 ลบ.ม./วินาที 

หากเทียบกับเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อช่วงเดือนกันยายน ปี 2562  พบว่าขณะนั้น จุดวัดระดับน้ำ สถานีM 7  สะพานเสรีประชาธิปไตย  อยู่ที่ประมาณ 116 ม.(รทก.) สูงกว่าปีนี้ถึง 2.50 ม.  ปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ประมาณ 5200 ลบ.ม./วินาที 

 

ส่วนพื้นที่เศรษฐกิจ ที่อยู่ในอำเภอเมืองอุบลราชธานี  ก็สูงกว่าระดับตลิ่งลำน้ำมูลกว่า 4 เมตร ยืนยันไม่กระทบอย่างแน่นอน 

 

เบื้องต้น ดร.ธเนศร์ ยืนยันว่า สถานการณ์น้ำในปีนี้ใน จ.อุบลราชธานี  น่าจะไม่รุนแรงเท่าปี 2562 อย่างแน่นอน โดยคาดการณ์ว่าหากปริมาณน้ำฝนไม่เกิน 180 มิลลิเมตร น้ำในลำน้ำมูลก็จะเพิ่มขึ้นจากเดิมไม่เกิน 1 เมตร 

 

นอกจากนี้ เมื่อปี 2562 มีพายุเข้ามาติดต่อกัน 2 ลูก และเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน และรุนแรงที่สุดคือวันที่ 13 กันยายน แต่หากเทียบกับปีนี้ พบว่า พายุได้เข้ามา ในช่วงปลายเดือนกันยายน เทียบง่ายๆก็คือ เหลืออีกเพียงไม่กี่วันก็จะหมดฤดูฝน และจากการประเมิณสถานการณ์แล้วก็คาดว่าเลวร้ายที่สุดระดับน้ำจะสูงกว่าไม่เกิน 1 เมตร 

 

นอกจากนี้ นายเศรษฐพงศ์ ภิงคารวัฒน์ ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำ สำนักงานชลประทานที่ 7   ก็ได้เปิดเผยกับทีมข่าว "คมชัดลึกออนไลน์" ว่า  ลำน้ำมูล ที่ จังหวัดอุบลราชธานี อยู่ในเกณฑ์วิกฤต  และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง  เพราะขณะนี้ยังมีฝนตกลงมาในพื้นที่ ประกอบกับพายุโนรู  จะเคลื่อนตัวเข้าไทย ในวันที่ 28 กันยายนนี้ ทางภาคอีสาน 

 

เบื้องต้นได้เตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำ ด้วยการ ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ จำ นวน 140 เครื่อง เครื่องสูบน้ำ ระบบไฮโดรโฟล จำ นวน 1 เครื่อง และเครื่องสูบ น้ำ ขนาด 8 นิ้ว จำ นวน 2 เครื่อง ที่ บริเวณสะพานพิบูลมังสาหาร (แก่งสะพือ) นอกจากนี้ยังติดตั้งเครื่องผลักดันเพิ่มเติมที่สะพานโขงเจียม อีก 200 เครื่อง  เพื่อเร่งผลักดันน้ำ จากลำ น้ำ มูลลงสู่แม่น้ำโขงโดยเร็วที่สุด ลดผลกระทบต่อพื้นที่ทั้งในเขตชลประทานและนอกเขตชลประทาน 


ในการนี้ สำนักงานชลประทานที่ 7 ได้เน้นย้ำให้โครงการชลประทานในสังกัด เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์น้ำ อย่างใกล้ชิด และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมขัง โดยเตรียมพร้อมในการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ กระสอบทราย ในบริเวณพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ติดริม ลำน้ำมูล รวมถึงเตรียมแผนเผชิญเหตุรับสถานการณ์น้ำหลาก ซึ่งได้มีการเตรียมการก่อนเกิดภาวะวิกฤต มีการเตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ รวมถึงความพร้อมของระบบสื่อสารสำรองเพื่อบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือ รวมถึงประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ให้รับทราบล่วงหน้า เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนให้น้อยที่สุด 

 

รวมทั้ง ดำเนินการตามมาตรการรับมือฤดูฝน ปี2565 ที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กำหนดอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนต้องการความช่วยเหลือสามารถร้องขอไปยังโครงการชลประทานในพื้นที่ หรือโทรสายด่วน 1460 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

 


นอกจากนี้ ดร.ธเนศร์  ยังได้กล่าวถึง สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.ขอนแก่นในวันนี้ (26 กันยายน 2565 ) ว่า เป็นน้ำจากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องตลอดทั้งคืน โดยวัดปริมาณน้ำฝนสูงถึง 180 มิลลิเมตร ทำให้เกิดน้ำท่วมในเขตเทศบาลนครขอนแก่นหลายจุด โดยเฉพาะน้ำที่ท่วมขังบริเวณพื้นที่ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมืองขอนแก่น ปริมาณน้ำมีมากกว่า 4 แสนลูกบาศก์เมตร ทำให้น้ำไหลลงสู่บึงหนองโคตรได้ช้า เพราะปริมาณน้ำในบึงหนองโคตรมีมากเช่นกัน 

 

ส่วนอีกพื้นที่ ก็คือ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ที่ขณะนี้ น้ำในเขื่อนพิมายได้เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร รวมถึงที่พักอาศัยของประชาชนที่อยู่ริมน้ำแล้ว 


ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่
เพิ่มเพื่อน Line: https://lin.ee/qw9UHd2
Facebook : https://www.facebook.com/komchadluek/
เช็กรายชื่อศิลปินเข้าชิง "คมชัดลึก ลูกทุ่ง Awards 2565" ใครคือ 6 Candidate กับ 8  สาขา Popular Vote ได้ที่นี่   
(https://awards.komchadluek.net/#)

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ