คุก 1 ปีครึ่ง ชดใช้ 11 ล้าน "แม่มะกัน" จัดฉากถูกลักพาตัวแบบเล่นเองเจ็บจริง

 

เชร์รี พาพินี  แม่ลูกสอง วัย 39 ปี  ถูกศาลในรัฐแคลิฟอร์เนียตัดสินลงโทษ จำคุก 18 เดือน และคุมประพฤติหลังปล่อยตัวอีก 3 ปี จากความผิดข้อหาให้การเท็จ และฉ้อโกงทางไปรษณีย์  กรณีที่เธอเจตนาวางแผนและจัดฉากลักพาตัว 

 

การลักพาตัวลวงโลก  เริ่มขึ้นเมื่อเธอหายตัวไปอย่างเป็นปริศนาขณะออกไปวิ่งออกกำลังกาย ใกล้บ้านในเมืองเรดดิ้ง รัฐแคลิฟอร์เนีย  เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2559  ปฏิบัติการค้นหานาน  3 สัปดาห์ เป็นข่าวใหญ่ในสหรัฐอเมริกา  ก่อนมีคนไปพบเธอในสถานที่แห่งหนึ่งในชนบท ห่างจากบ้านของเธอ 240  กม. ในสภาพถูกมัด และได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง รวมถึงจมูกบวม  มีแผลเหมือนถูกของร้อนนาบที่ไหล่  เธอบอกตำรวจว่า ถูกสตรีพูดภาษาสเปน ใช้ปืนจี้บังคับลักพาตัว และถูกคนที่ลักพาตัวทำร้าย   

 

 

 

 

 

สำนักงานสืบสวนกลาง (เอฟบีไอ)  เปิดสอบสวนหาตัวคนร้ายอย่างเข้มข้น ปล่อยภาพสเก็ตช์รูปพรรณสัณฐานของผู้ต้องสงสัยตามคำบอกเล่าของเธอ กระนั้น  พนักงานสอบสวนไม่ทราบมูลเหตุจูงใจและไม่เคยจับกุมใครได้ 

 

กระทั่งปี 2563  พนักงานสวนเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของผู้ชายคนหนึ่งที่พบบนเสื้อผ้าของพาพินี  นำมาตรวจโดยใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า ระบบพันธุกรรมสืบสาแหรก  (genetic genealogy)  ผลตรวจเชื่อมโยงกับคนในครอบครัวอดีตคนรักของเธอ จากนั้น   ทีมสอบสวนเก็บตัวอย่างจากอดีตแฟนของเธอมาตรวจยืนยันความสอดคล้อง และนำตัวเขามาสอบปากคำ ซึ่งที่สุด เจ้าตัวก็ยอมรับว่า เป็นคนที่ช่วยพาพินีหลบหนีจากความสัมพันธ์ย่ำแย่ในครอบครัว  เขาเปิดเผยด้วยว่า พาพินีทำร้ายตัวเอง ตัดผมตัวเอง และขอให้เขาใช้ไม้ร้อน ๆ ทำรอยแผลบนไหล่ เพื่อทำให้การจัดฉากสมจริง  

 

 

 

แม้เจ้าหน้าที่ได้หลักฐานใหม่ และเตือนว่าการให้การเท็จ เป็นอาชญากรรม แต่เธอยังยืนกรานว่าถูกสตรีพูดภาษาสเปนลักพาตัว และไม่เคยพบกับอดีตแฟนหนุ่ม  

 

ในที่สุด เธอถูกแจ้งข้อหาเมื่อมีนาคมปีนี้ และยอมรับสารภาพ   ศาลตัดสินให้เธอมีความผิดเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และตัดสินลงโทษเมื่อวันที่ 18 ก.ย. นอกจากโทษจำคุกแล้ว  เธอยังต้องชดใช้เงินคืนให้กับคณะกรรมการชดเชยเหยื่อรัฐแคลิฟอร์เนีย สำนักงานประกันสังคม สำนักงานนายอำเภอชาสตา และเอฟบีไอ รวม 309,902 ดอลลาร์ (11.4 ล้านบาท) ภายในวันที่ 8 พ.ย.   

 

ขณะก่อเหตุพิสดารพันลึก พาพินีแต่งงานกับ คีท พาพินี มีลูกด้วยกัน 2 คน แต่สองวันหลังถูกตัดสินมีความผิด สามีตัดสินใจฟ้องหย่า 

 

อัยการ กล่าวว่า คนทั้งชุมชนเชื่อเรื่องราวที่เธอกุขึ้น ทั้งยังต้องหวาดผวากับสตรีพูดภาษาสเปน ลักพาตัวผู้หญิงไปขาย  เธอยืนกรานว่าเป็นเรื่องจริงและรับเงินจากกองทุนชดเชยเหยื่อและประกันสังคมเป็นเวลาหลายปี สะท้อนว่าเธอไม่ได้รู้สึกสำนึกผิด และแม้เอฟบีไอมีหลักฐานยืนยัน แต่ก็ยังโกหก   โดยไม่นำพาว่าได้ก่อความเดือดร้อนให้กับใครบ้าง พนักงานสอบสวนของรัฐและส่วนกลางต้องทุ่มทรัพยากรที่มีอย่างจำกัด เพื่อหาความจริงเกือบ 4 ปี 

 

พาพินี เธอระบุในแถลงการณ์หลังศาลตัดสินเมื่อเมษายนว่า เธอกำลังรักษาโรควิตกกังวล ซึมเศร้าและ PTSD  ที่เริ่มเป็นในปี 2559  เธอรู้สึกละอายใจ  และเสียใจอย่างยิ่งที่ทำให้ครอบครัวและเพื่อนฝูงต้องทุกข์ใจ  ทำให้พลเมืองดีทุกคนที่พยายามช่วยเหลือเธอ ต้องเดือดร้อนอย่างไม่จำเป็นเพราะเรื่องราวที่เธอกุขึ้น เธอสัญญาว่าจะพยายามใช้เวลาที่เหลือของชีวิตแก้ไขเยียวยาในสิ่งที่ทำลงไป