ข่าว

"RSV" เปิดฤดูระบาดสุดโหด ดับแล้ว 1 ราย หมอเตือน เด็กมี โรคประจำตัว ต้องระวัง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"หมอจิรรุจน์" ระบุ "RSV" เปิดฤดูระบาดสุดโหด พบเสียชีวิตแล้ว 1 ราย เตือน เด็กที่มี โรคประจำตัว ต้องระวัง มีความเสี่ยงสูงที่จะอาการรุนแรงมาก

"หมอจิรรุจน์" - นพ.จิรรุจน์ ชมเชย กุมารแพทย์เชี่ยวชาญโรคระบบหายใจและบำบัดวิกฤต โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Jiraruj Praise โดยกล่าวถึงสถานการณ์การระบาด "RSV" ซึ่งล่าสุด พบเสียชีวิตแล้ว 1 ราย เป็นการเปิดเกมส์ในฤดูระบาดในเมืองโคราชที่โหดมาก โดยกลุ่มที่มี โรคประจำตัว อย่างเช่นเคสนี้ มีความเสี่ยงสูงที่จะอาการรุนแรงมาก ถ้าไม่หยุดการระบาดนี้ เคสที่ 2 3 4 ตามมาแน่นอน เพราะเรามี เด็ก ที่มี โรคประจำตัว หลายอย่าง รักษาอยู่เป็นจำนวนมาก และกลุ่มนี้ก็ได้รับผลกระทบโดยตรง

 

ใครบ้างที่เสี่ยงเจออาการรุนแรง?

 

- อายุน้อยกว่า 1 ปี
- โรคหอบหืด โรคปอดเรื้อรัง
- โรคหัวใจแต่กำเนิด
- โรคภูมิคุ้มกันผิดปกติ
- โรคระบบประสาทผิดปกติ
- โรคความผิดปกติทางพันธุกรรม เช่น ดาวน์ซินโดรม

 

เด็ก โตๆ ที่ไปโรงเรียนอาจไม่มีปัญหา เป็นเพียงแค่หวัดเล็กน้อย หรือเพียง ไอมีเสมหะมาก แต่หากเด็กเหล่านี้ นำเชื้อกลับไปติดเด็กในกลุ่มดังกล่าว คงไม่ต้องบรรยายต่อเลยนะครับ ซึ่งผู้ปกครองท่านใดที่ลูกเคยป่วยด้วยเชื้อนี้แล้ว คงจะทราบดีว่า เด็กจะได้รับความทุกข์ทรมานมากขนาดไหน หากอาการรุนแรงตอนช่วงยุค โควิด ระบาด เรายังไม่เจอเด็กที่เสียชีวิต หรือได้รับความเจ็บป่วย อย่างทุกข์ทรมานจากระบบหายใจล้มเหลว บ่อยเท่าช่วงนี้เลยโควิด จางลงไปแล้ว ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าเราละเลยการป้องกัน แล้วปล่อยให้เชื้อไวรัสในระบบหายใจ อย่างเช่น "RSV" ระบาดแบบนี้เด็กในกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว รวมถึงผู้สูงอายุ ก็มีความเสี่ยงที่จะป่วยอาการรุนแรง และเสียชีวิตได้เช่นเดียวกัน

 

ปัจจุบันเชื้อตัวนี้ อยู่กับเรามาหลายสิบปี ยังไม่มี ยารักษา ไม่มี วัคซีน ป้องกัน ดังนั้นการรักษาจึงเป็นการประคับประคองล้วนๆ

 

ส่วนการป้องกันก็แบบเดิม คือ สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ ไม่ปล่อยให้เด็กที่ป่วยมีไข้ไม่สบายเข้าไปในเนอสเซอรี่ ส่วนเด็กโตที่ป่วยหรือไม่สบาย คนสวมหน้ากากล้างมือ และไม่ไปสัมผัสเด็กเล็กหรือเด็กที่มีความเสี่ยง ต่อการติดเชื้อแล้วมีอาการรุนแรง

 

คำแนะนำเบื้องต้นในการ ดูแลบุตรหลาน หากติดเชื้อ "RSV" เมื่อติดเชื้อในเด็กอายุน้อยๆ เช่นต่ำกว่า 2 ปี หากสงสัยว่าติดเชื้อ "RSV" และมีน้ำมูกมาก

 

1. พยายามหลีกเลี่ยงการใช้ยาลดน้ำมูกทุกชนิด เพราะยาจะทำให้น้ำมูกเหนียว และเสมหะเหนียว หากมีการติดเชื้อในหลอดลม เสมหะจะมีปริมาณมากและเหนียว ทำให้ไอออกยากมากขึ้น และอาจเป็นสาเหตุให้ต้องไปนอนโรงพยาบาลพ่นยาและดูดเสมหะ

 

2. ใน เด็กเล็ก ที่ป่วยและมีประวัติสัมผัส ผู้ป่วย "RSV" ชัดเจน หากอาการหลักอยู่ที่จมูกและคอหอย เช่น น้ำมูกมาก อาการไอส่วนใหญ่จะเป็นจากน้ำมูกไหลลงคอ หากยังไม่หายใจหอบ ควรหลีกเลี่ยงการพ่นยาละอองฝอยโดยไม่จำเป็น เพราะละอองฝอยขนาดเล็กนี้ อาจเป็นเหตุนำพาเชื้อจากโพรงจมูกส่วนบน ลงไปยังจมูกส่วนล่างผ่านการพ่นยา ยิ่งถ้าเด็กไม่ให้ความร่วมมือในการพ่น ร้องหรือสำลักระหว่างพ่นยา ก็ยิ่งมีโอกาส พาเชื้อลงสู่ทางเดินหายใจส่วนล่าง

 

เว้นแต่มีอาการของหลอดลมหดเกร็ง หายใจมีเสียงวี๊ด จากการตรวจร่างกาย อันนี้ก็อาจจำเป็นจะต้องใช้ยาพ่นละอองฝอย ซึ่งขอให้อยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ ผู้ดูแลณจุดนั้น สิ่งสำคัญนั่นคือ ควรเน้นเรื่องการเคลียร์ น้ำมูกในโพรงจมูก ผมย้ำเรื่องนี้เสมอ ทันทีที่มีน้ำมูก

 

3. ในช่วงที่มีการติดเชื้อ อย่าให้ขาดน้ำเป็นเด็ดขาด พยายาม ดื่มน้ำ หรือจิบน้ำให้บ่อยๆ เพราะ ภาวะขาดน้ำ จะยิ่งทำให้เสมหะแห้งและเหนียว ทำให้การไอเอาเสมหะออกมาทำได้ยาก อาจเป็นเหตุให้เด็กต้องไปรับการรักษาในโรงพยาบาล

 

4. จัดการกับภาวะไข้สูงอย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่ของเด็กที่ติดเชื้อ "RSV" จุดเริ่มต้นมักมีอาการ ไข้สูง ซึ่งไข้ที่สูง จะเป็นเหตุให้มีกระบวนการเมตาบอลิซึมที่สูงขึ้น มีการเพิ่มขึ้นของ คาร์บอนไดออกไซด์ หากการหายใจได้ไม่ดี อันเนื่องมาจากทางเดินหายใจ อักเสบบวมเสมหะมาก จากการติดเชื้อ การระบายก๊าซดังกล่าวจะทำได้แย่ลง และอาจทำให้อาการเด็กทรุดหนัก การลดไข้จึงเป็นสิ่งสำคัญ และควรรีบทำโดยเร็ว วิธีการก็คือพื้นฐานเลยครับ การเช็ดตัว การใช้ยาลดไข้ พาราเซตามอล ในขณะที่เหมาะสม จะสามารถบรรเทาอาการไข้ ช่วยลดความรุนแรงของตัวโรคลงได้ครับ

 

4 ข้อนี้ เป็นหลักการพื้นฐานในการดูแล ที่ผมแนะนำผู้ป่วย และใช้มาตลอดในระยะเวลานับ 10 ปี ที่ผมได้ดูแลผู้ป่วย และดูแลลูกของผมเองเมื่อติดเชื้อ หากทำได้ทุกอย่างแล้วไม่ดีขึ้น มีอาการหายใจหอบมากขึ้น หายใจอกบุ๋ม กินได้น้อย ไม่ยอมกินโดยเฉพาะน้ำและนม แนะนำว่าควรไปพบแพทย์โดยด่วนนะครับ

 

ผ่านมาเกือบ 2 อาทิตย์แล้ว สำหรับการระบาด ของเชื้อ "RSV" ในระลอกนี้ อดทนไว้ครับ ในอีก 2 อาทิตย์ข้างหน้า น่าจะเริ่มเบาบางลง ซึ่งก็จะตรงกับช่วงปิดเทอมพอดี เป็นลักษณะที่พบมานานแล้วครับ

 

ที่มา : Jiraruj Praise

 

ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่
Facebook : https://www.facebook.com/komchadluek/
YouTube : https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w


เช็กรายชื่อศิลปินเข้าชิง "คมชัดลึก ลูกทุ่ง Awards 2565" ใครคือ 6 Candidate กับ 8  สาขา Popular Vote ได้ที่นี่


(https://awards.komchadluek.net/#)

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ