สปิริต "อนุทิน" ให้กำลังใจ "บิ๊กตู่" ปัด "เลขาธิการพปชร." ย้ายซบ "ภูมิใจไทย"

เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ภายหลังการประชุม คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. นาย อนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยถึงกรณีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ได้เข้าประชุมครม.ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า พลเอกประยุทธ์ ไม่ได้ไปไหนเข้าประชุมผ่านระบบ video conference ทุกอย่างราบรื่นดี ซึ่งที่ผ่านมาตนได้ให้กำลังใจ พลเอกประยุทธ์ในฐานะ พรรคร่วมรัฐบาล เพราะใครที่อยู่ในรัฐบาล เราก็อยากเห็นอยู่ครบเทอม และขณะนี้ยังเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงาน ก็ต้องแสดงสปิริต ขอให้มีความเข้มแข็งและประคองสถานการณ์ไปได้ อย่างไรก็ตามทุกคนก็ต้องเคารพกฎหมาย 

นอกจากนี้ยังมีคุยเรื่องงานต่างๆ ซึ่งพลเอกประยุทธ์ฝากให้ดูแลแขกบ้านแขกเมืองให้ดี ในช่วงของการประชุมเอเปค และดูแลเรื่องโรคระบาดให้เรียบร้อย เพราะยังถือว่าเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ เป็นการพูดคุยกัน ไม่มีเรื่องสั่งการ 

ส่วนส่วนที่มีภาพปรากฏว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาราชการนายกรัฐมนตรี นั่งเก้าอี้ประธานการประชุมครม. ไม่ได้นั่งเก้าอี้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น พลเอกประวิตรก็ทำหน้าที่ประธานได้อย่างสมบูรณ์ ดำเนินการด้วยความเรียบร้อย 

นายอนุทิน ยังกล่าวด้วยว่า ในที่ประชุมนายวิษณุ ชี้แจงว่า ครม.ยังสามารถบริหารราชการแผ่นดินต่อ พร้อมแจงลำดับรักษาการนายกรัฐมนตรีให้ทุกคนรับทราบ ทั้งนี้ยังไม่ได้รับการประสานเรื่องการปรับครม.แต่อย่างใด และความสัมพันธ์ในพรรคร่วมรัฐบาลยังดี ยังเพิ่งนัดรับประทานอาหารกันอยู่

ส่วนกรณีที่นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ถูกศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็เหมือนกันใครมีคดีก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาลไม่มีข้อยกเว้น หากมีเหตุจำเป็นเกิดขึ้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการก็ต้องบริหารจัดการในส่วนของนางกนกวรรณ 

มีกระแสข่าวนายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ จะย้ายไปพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน กล่าวว่า  ตนยังไม่ทราบ ไม่ได้คุยกัน และไม่เชื่อว่าจะเกิดขึ้น เพราะไม่มีเหตุผลอะไร พึ่งมารู้จากสื่อมวลชน และขออย่าพึ่งไปคิด พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคใหญ่ นายสันติเป็นถึงเลขาธิการพรรคใครจะไปกล้า ส่วนอาจจะมาเสริมพรรคภูมิใจไทยให้แข็งแรงขึ้นหรือไม่ มองว่า ทุกพรรคจะต้องต่อสู้ด้วยนโยบาย และความตั้งใจที่จะทำงานรับใช้ประชาชน ถือเป็นการต่อสู้ที่ดี ไม่ใช่ต่อสู้ว่าพรรคไหนห้ามเข้าพื้นที่ไหน ตรงนี้ต้องใจกว้าง เช่น ใครมา จ.บุรีรัมย์ก็ต้องให้เขาได้มานำเสนอสิ่งที่จะทำให้กับประชาชน