ข่าว

สื่อสะพัด "ตระกูลเกลเซอร์" ปักป้ายขาย "แมนยู" ฟันกำไรอื้อ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สื่อผู้ดี รายงาน "ตระกูลเกลเซอร์" เจ้าของทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปักป้ายขาย ปีศาจแดง เตรียมฟันกำไรเห็น ๆ

"ตระกูลเกลเซอร์" เจ้าของทีม "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ทีมดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตั้งราคา ขายทีม เอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจาก ออกสตาร์ท ฤดูกาล 2022-2023 ด้วยผลงานย่ำแย่ที่สุดในรอบ 30 ปี ทำให้เจ้าของสโมสรจาก ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เข้าเทคโอเวอร์ทีม เตรียมขายทีมเป็นเงินกว่า 4,000 ล้านปอนด์ ซึ่งฟันกำไลเห็น ๆ 

โดย "express " สื่อจากแดนผู้ดี ประเทศอังกฤษ เปิดเผยว่า "ตระกูลเกลเซอร์" เจ้าของทีม "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ทีมในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ตั้งราคา ขายทีม และถูกคาดการณ์ว่าอาจมีมูลค่าสูงกว่าจำนวนเงิน 4,000 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 1.7 แสนล้านบาทไทย เลยทีเดียว  

 

ซึ่งอาจมีผลมาจาก "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ภายใต้การดูแลของ  "ตระกูลเกลเซอร์" เจ้าของทีม ไม่ส่งผลประสบความสำเร็จต่อทีม โดยขณะที่ทีมมีรายได้เข้ามา โดยเมื่อช่วงหลังเกม "แมนยู" เปิดฤดูกาลพ่ายแพ้ให้กับ ไบรท์ตัน 1-2  แฟนบอล ปีศาจแดง กลับมาประท้วงอีกครั้ง โดยมีป้ายกล่าวว่า " ต่อสู้กับพวกละโมบ ต่อสู้เพื่อ ยูไนเต็ด ต่อสู้กับ เกลเซอร์ "  แฟนบอล ปีศาจแดง แสดงแผ่นผ้าพร้อมตะโกนคำว่า " เราต้องการให้ เกลเซอร์ ออกไป

สื่อสะพัด "ตระกูลเกลเซอร์" ปักป้ายขาย "แมนยู" ฟันกำไรอื้อ

ทั้งนี้ ผลงานของ "แมนฯ ยูไนเต็ด" ปัจจุบัน ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ  พ่าย 2 นัดรวด โดยเป็นการ เปิดบ้านพ่าย ไบรท์ตันฯ 1-2 และ บุกไปพ่าย เบรนท์ฟอร์ด แบบขาดลอย 0-4  

 

 

อย่างไรก็ตาม "ตระกูลเกลเซอร์" เข้ามาครอบครอง "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ตั้งแต่ปี 2005 ด้วยราคา 790 ล้านปอนด์ จนถึงตอนนี้ก็เป็นระยะเวลา 17 ปีเต็ม โดยมีความพยายามที่จะขายสโมสรมาแล้วเมื่อปีที่แล้ว แต่ยังไม่มีใครให้ความสนใจเพราะมองว่าราคานี้เป็นราคาที่สูงจนเกินไป 

สื่อสะพัด "ตระกูลเกลเซอร์" ปักป้ายขาย "แมนยู" ฟันกำไรอื้อ

 

ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่
เพิ่มเพื่อน Line: https://lin.ee/qw9UHd2
YouTube Official : https://youtube.com/user/KOMCHADLUEK 
 

เช็กรายชื่อศิลปินเข้าชิง "คมชัดลึก ลูกทุ่ง Awards 2565" ใครคือ 6 Candidate กับ 8  สาขา Popular Vote ได้ที่นี่   

 (https://awards.komchadluek.net/#)

ที่มา : express

CREDIT PHOTO  : Twitter@ManUtd , footballz

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ