ข่าว

"ปลูกฝี" เผยข้อมูล ภูมิคุ้มกัน ฝีดาษลิง อยู่นานถึง 88 ปี เช็ค เกิดปีไหน รอด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คนเคย "ปลูกฝี" มีความหวัง หมอดื้อ เผยข้อมูล ระดับ ภูมิคุ้มกัน กัน "ฝีดาษลิง" อยู่นานถึง 88 ปี เช็คเลย คนเกิดปีไหน รอด

(8 ส.ค.2565) "หมอดื้อ" ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความ ผ่านเฟซบุ๊ค ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha ให้ข้อมูลที่น่าสนใจ และเรียกได้ว่าเป็นข่าวดี สำหรับ "โรคฝีดาษลิง" โดยระบุว่า คนปลูกฝีกันไข้ทรพิษ กัน "ฝีดาษลิง" ได้ ภูมิอยู่นาน 88 ปี

"หมอดื้อ" อ้างอิงข้อมูล เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันจากการปลูกฝี (Immunity from smallpox vaccine) ใน Am J Med (American journal of medicine) ปี 2008 ทำการวัดระดับภูมิคุ้มกันต่อฝีดาษ (Vaccinua IgG) และความสามารถในการป้องกันโรค (neutralizing Ab titer, NAb) ในประชากร 246 คน โดย 209 คน เคยได้รับการฉีดวัคซีน ฝีดาษอย่างน้อยหนึ่งครั้ง เมื่อ 13-88 ปี โดยเจาะเลือดเก็บไว้ตรวจเป็นระยะมาก่อน

 

  • 8 คน มีประวัติเป็นฝีดาษตอนเด็ก
  • 29 คน ไม่มีทั้งประวัติการติดเชื้อ หรือได้รับวัคซีนฝีดาษ

 

พบว่า ระดับภูมิคุ้มกันต่อฝีดาษไม่ลดลง แม้ในกลุ่มได้รับวัคซีนมาแล้ว 88 ปี รวมถึงระดับ NAb ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก และพบว่า titer ของระดับภูมิคุ้มกันที่สามารถป้องกันการติดเชื้อฝีดาษได้คือ 32 ซึ่งมีคนไข้มากกว่า 97% ที่มีระดับภูมิคุ้มกันระดับนี้

ปลูกฝี ระดับภูมิต้านฝีดาษลิงนาน 88 ปี

สรุปคือจากการศึกษานี้พบว่า ส่วนใหญ่คนที่เคยปลูกฝีสามารถมีระดับภูมิคุ้มกันที่ป้องกันโรคฝีดาษได้นานถึง 88 ปี โดยไม่ขึ้นกับจำนวนครั้งที่ฉีดวัคซีนกระตุ้น เพราะคนที่ได้รับวัคซีนกระตุ้นก็ไม่ได้มีระดับภูมิคุ้มกันที่สูงกว่าคนที่ฉีดเพียงครั้งเดียวอย่างมีนัยยะสำคัญ

 

 

ทั้งนี้ ข้อมูลจากอินเดีย พบว่า "ฝีดาษลิง" ช่วงระยะฟักตัว 5-21 วัน คนไข้อาจไม่มีอาการใด ๆ เลย ไม่มีไข้ ไม่เมื่อยตัว ไม่มีผื่น แต่ก็สามารถแพร่เชื้อได้แล้วทางละอองฝอยน้ำลายไอจาม (droplet) โดยประสิทธิภาพในการแพร่เชื้อแทบไม่ต่างจากระยะที่มีอาการแสดงชัดเจน และอัตราเสียชีวิตเริ่มเพิ่มขึ้นจากเดิม 1% ไปเป็น 3-6% ข้อมูลนี้เน้นว่า ต้องพิจารณาส่งตรวจ PCR จากการ swab ช่องจมูกและน้ำลายให้มากขึ้น ถ้าต้องการยุติการแพร่ระบาดให้เร็ว

ปลูกฝี ภูมิคุ้มกันโรคฝีดาษนานถึง 88 ปี

หลักสังเกตว่าตนเองเคยปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษแล้วหรือไม่อย่างไร ได้แก่

 

  1. ถ้าเป็นคนอายุมากกว่า 48 ปี ที่เกิดก่อนปี 2517 มีโอกาสสูงที่จะเคยปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการระดมปลูกฝีในช่วงนั้นเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ฝีดาษหมดไปจากประเทศไทย ส่วนใหญ่จะฉีดกันที่โรงเรียน
  2. ถ้าอายุน้อยกว่า 42  ปี คือเกิดหลังปี 2523 ถือว่าไม่เคยได้รับการปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษมาก่อน
  3. กรณีผู้ที่อายุ 43-47 ปี คือเกิดก่อนปี 2523 แต่เกิดหลังปี 2517 เป็นช่วงก้ำกึ่ง จะต้องตรวจดูแผลเป็นต่อไป
  4. ในการตรวจสอบแผลเป็น ซึ่งส่วนใหญ่จะฉีดที่ต้นแขนซ้าย

 

ในกรณีที่เป็นการปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ แผลเป็นจะเป็นลักษณะแผลแบนเรียบ หรือเป็นหลุมลงไปเล็กน้อย แต่ถ้าเป็นการปลูกฝีป้องกันวัณโรคที่เรียกว่า BCG แผลเป็นนั้นจะนูนขึ้นมา


ดังนั้น การตรวจสอบว่าตนเองเคยปลูกฝีป้องกันฝีดาษคน/ไข้ทรพิษหรือยัง ก็ใช้หลักสองประการดังกล่าวคือ ดูว่าเกิดก่อนปี 2517 และตรวจสอบว่าแผลเป็นที่เกิดขึ้น เป็นแผลที่เรียบหรือเป็นหลุมลงไปเล็กน้อย ก็ถือว่าเคยปลูกฝีป้องกันฝีดาษคนหรือไข้ทรพิษแล้ว

 

 

 

เพื่อไม่พลาด ข่าวสารต่างๆ คมชัดลึก ไปที่
Youtube - https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w
LineToday - https://today.line.me/th/v2/publisher/100057

เช็กรายชื่อศิลปินเข้าชิง "คมชัดลึก ลูกทุ่ง Awards 2565" ใครคือ 6 Candidate กับ 8  สาขา Popular Vote  https://www.komchadluek.net/entertainment/524524

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ