หญิงมะกันแชร์ประสบการณ์ ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับใคร แต่ก็ติดได้ "ฝีดาษลิง" 

 

คามีล ซีตัน หญิงสาวชาวอเมริกัน จากเมืองมาเรียตตา รัฐจอร์เจีย สังเกตเห็นตุ่มนูนหลายจุดบนใบหน้าครั้งแรกเมื่อ 11 กรกฎคม แต่คิดว่าน่าจะเป็นสิวและไม่ได้สนใจ  แต่ในคืนเดียวกัน ตุ่มพวกนั้นเปลี่ยนเป็นสีขาว จึงฉุกคิดว่าน่าจะมีอะไรผิดปกติ  ไม่กล้าออกจากบ้าน สั่งของกินของใช้ไปส่งแทน  ก่อนตัดสินใจไปรพ.ตรวจแลบเมื่อ 16 ก.ค. หลังจากมีไข้และตุ่มลามทั่วใบหน้าอย่างรวดเร็ว และได้รับการยืนยันหลายวันหลังจากนั้นว่า เธอป่วยเป็นฝีดาษลิง เป็นหญิงคนแรกที่ติดไวรัสนี้ในรัฐจอร์เจีย

 

แม้แพทย์ระบุว่ากลุ่มเสี่ยงติดเชื้อคือชายรักชาย เพราะไวรัสฝีดาษลิงแพร่ผ่านการสัมผัสผิวหนังระหว่างบุคลต่อบุคคล แต่ซีตันระบุว่า เธอไม่ได้มีสัมพันธ์ทางเพศก่อนติดเชื้อ  และเชื่อว่า  เธอติดไวรัสจากการสัมผัสแตะต้องธนบัตร ที่ปั๊มน้ำมันที่เธอทำงานอยู่   “ฉันจับเงินจำนวนมาก กฎสวมแมสก์ก็ยกเลิกแล้ว เราจึงไม่สวมแมสก์และถุงมือตอนทำงาน  ฉันไม่ได้ระวัง จับหน้าจับตาและร่างกาย”     

 

ฝีดาษลิง แพร่ผ่านการสัมผัสทางผิวหนังระหว่างบุคคลต่อบุคคลเป็นเวลานาน แต่ก็อาจแพร่ได้ผ่านละอองฝอยขนาดใหญ่  แพทย์หญิงลินดา แยนซีย์ ผู้เชี่ยวชาญโรคติดต่อ โรงพยาบาลเมมโมเรียล เฮอร์มานน์ กล่าวว่า เป็นไปได้ที่ฝีดาษลิงจะแพร่ผ่านสิ่งของ  เพราะไวรัสมีชีวิตอยู่ได้หลายวันในบางสภาพแวดล้อม มีผู้ป่วยหญิงรายหนึ่งในสหรัฐ ติดเชื้อจากผ้าปูที่นอน ที่เธอรับจ้างซักให้กับที่พักแห่งหนึ่ง “ดังนั้น การจับต้องสิ่งของนานๆ อย่างเงิน ลูกบิดประตู รถเข็นช้อปปี้ง มีโอกาสรับเชื้อได้”  

(ซีตัน เปิดขอระดมทุนช่วยเหลือ โดยระบุว่า เธอทำงาน 45 ชม.ต่อสัปดาห์เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว แต่เมื่อป่วยฝีดาษลิง จึงทำงานไม่ได้เกือบ 1 เดือน เงินที่หาได้สำหรับจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ค่าเทอมลูก ต้องนำมาจ่ายเป็นค่ารักษาตัว)   

 

 

ซีตัน กล่าวว่า เธอไม่รู้เรื่องฝีดาษลิง กระทั่งติดเชื้อ และอาการลุกลามไวมากระหว่างกักตัวที่บ้าน นอกจากมีตุ่มแผล ยังเป็นไข้ มีผื่นคัน ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดข้อกระดูกและกล้ามเนื้อ เธอทำความสะอาดฆ่าเชื้อทุกอย่าง ล้างมือทุก 15 นาที เธอเป็นแผลบนใบหน้าราวสัปดาห์ครึ่ง ก่อนเริ่มดีขึ้น แต่แผลเริ่มโผล่ตามที่ต่าง ๆ ทั่วตัว ตุ่มแผลบนมือเต็มไปหมด  แทบจะใช้มือทำอะไรไม่ได้เลย แม้แต่จับมือถือและพับผ้า  รู้สึกเจ็บมาก

 

เธอบอกว่าการต่อสู้กับอาการฝีดาษลิง เหมือนเล่นเกมรอ  แพทย์ไม่ได้ให้วัคซีน หรือจ่ายยาต้านไวรัสใด ๆ  จ่ายแค่ยาแก้อักเสบ และสเตียรอยด์ เพราะผลตรวจพบเธอติดเชื้อในคอด้วย ส่วนอาการฝีดาษลิง แพทย์ให้แค่ยาแก้ไข้เท่านั้น  

 

กระบวนการหายจากฝีดาษลิง กินเวลาตั้งแต่ 2-4 สัปดาห์  บางคนอาจดีขึ้นในสัปดาห์เดียว กรณีของเธอ ใช้เวลาราว 3 สัปดาห์ครึ่ง ตลอดเวลานี้ มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานควบคุมโรค (ซีดีซี) ช่วยดูอาการ เธอส่งรูปให้ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง  เจ้าหน้าที่ซีดีซีแจ้งว่าเธอพ้นระยะแพร่เชื้อแล้วเมื่อ 1 ส.ค. แต่ยังรู้สึกไม่วางใจพอที่จะนำลูกสาว 3 ขวบกลับมาบ้าน  

 

ซีตัน บอกด้วยว่า  สองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่หนักมากในแง่อารมณ์ความรู้สึก เธอออกมาบอกเล่าประสบการณ์เพื่อให้คนที่คิดว่าไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงสูง ได้เข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้มากขึ้น  อยากให้ทุกคนกลับมาสวมแมสก์ใส่ถุงมืออีกครั้ง และอยากให้ทุกคนรู้ว่าฝีดาษลิงกำลังแพร่ระบาด  ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ  

 
ที่มา People   CBS