บินแอร์เอเชียหยุดวิ่งกลางรันเวย์ไต้หวันลืมเปิดไฟรันเวย์ | คมชัดลึก

เมื่อช่วงเช้าวันที่ 17 มีนาคม เกิดเหตุเครื่องบินสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่เอฟดี 3321 อุบลราชธานี-สุวรรณภูมิ เกิดขัดข้องขณะวิ่งอยู่บนแท็กซี่เวย์ กัปตันต้องหยุดเครื่องบินกะทันหัน ทำให้ผู้โดยสารตกใจส่งเสียงหวีดร้องดังลั่น แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

 นายกิตติชัย สัจจลักษณ์ ผอ.ท่าอากาศยานจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ขณะเครื่องบินลำดังกล่าวกำลังวิ่งอยู่บนแท็กซี่เวย์ พอใกล้ถึงจุดกลับ คาดว่านักบินลืมมองสัญลักษณ์และป้ายที่แจ้งให้ทราบว่า มีพื้นรันเวย์บางส่วนปิดซ่อมแซม ขณะเครื่องกำลังจะวิ่งออกไปยังรันเวย์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่หอบังคับการบินจึงได้แจ้งเตือนไปยังนักบิน ทำให้ต้องเบรกเครื่องกะทันหัน ก่อนเข้าไปยังรันเวย์ที่ทำการซ่อมแซม และต้องจอดแน่นิ่งอยู่เช่นนั้น ก่อนประสานขอรถมาลากเครื่องบินออก แล้วจึงขึ้นบินนำผู้โดยสารมุ่งหน้าไปยังสนามบินสุวรรณภูมิได้ตามปกติในเวลา 10.20 น.

 วันเดียวกัน ฝ่ายสื่อสารองค์กรแอร์เอเชีย ชี้แจงว่า กรณีเกิดความล่าช้าของเที่ยวบินดังกล่าว เกิดจากลานบินที่สนามบินอุบลราชธานีมีการปรับปรุงบางส่วน กัปตันผู้ควบคุมการบินจึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการแท็กซี่และนำเครื่องขึ้น แต่ขณะทำการเลี้ยวเพื่อตั้งลำเครื่องบินได้เข้าไปในบริเวณบางส่วนที่มีการปรับปรุงซ่อมแซม จึงต้องรอรถลากเครื่องบิน เพื่อไปตั้งลำขึ้นบินใหม่ทำให้เที่ยวบินล่าช้าประมาณ 30 นาที โดยเครื่องบินไม่ได้รับความเสียหาย และผู้โดยสารทั้งหมดปลอดภัยดี

สนามบินไต้หวันลืมเปิดไฟรันเวย์ให้เครื่องบินเจแปน

หนังสือพิมพ์ลิเบอร์ตี้ ไทม์ส ของไต้หวัน รายงานว่า สำนักงานบริหารการบินพลเรือนของไต้หวันหรือ CAA ได้มีแผนจะลงโทษทางวินัยต่อเจ้าหน้าที่ประจำหอบังคับการบิน ที่ลืมเปิดไฟบนรันเวย์ให้สายการบินของญี่ปุ่นที่กำลังจะลงจอด ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือราว 230 คน ต้องตกอยู่ในอันตราย

รายงานระบุว่า สายการบินเจแปน แอร์ไลน์ส หรือ JAL เที่ยวบินที่ 657 จากกรุงโตเกียว ที่กำลังจะลงจอดที่สนามบินเกาชิง ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดอันดับที่ 2 ของไต้หวัน เมื่อเวลา 22.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งนักบินของ JAL ได้แจ้งให้ผู้ควบคุมบังคับหอบังคับการบิน ประจำสนามบินเกาชิงเคลียร์รันเวย์สำหรับลงจอด และในขณะที่เครื่องบินอยู่เหนือพื้นดินเพียง 90 เมตร และห่างจากรันเวย์ 1,600 เมตร นักบินได้แจ้งว่า รันย์เวย์ยังคงมืดสนิท ขณะที่เจ้าหน้าที่ควบคุมหอบังคับการบิน กลับสั่งให้นักบินเชิดหัวเครื่องบินขึ้นและบินวนกลับมาหาทางลงจอดรอบใหม่ แต่ภายหลังเจ้าหน้าที่ควบคุมหอบังคับการบิน เพิ่งตระหนักว่า ผิดพลาดและรีบเปิดไฟรันเวย์ทันที ส่วนเครื่องบินลงจอดอย่างปลอดภัย

เจ้าหน้าที่ของ CAA เปิดเผยว่า ตอนที่เครื่องบินจะลงจอด มีเจ้าหน้าที่ประจำหอบังคับการบินปฏิบัติหน้าที่เพียง 2 คน และมีเที่ยวบินไม่กี่เที่ยวที่ลงจอดตอนกลางคืน ที่สนามบินเกาชิงและขณะเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งไปเข้าห้องน้ำ ส่วนอีกคนหนึ่งกำลังรับโทรศัพท์ แต่ CAA
ยังคงสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะจัดประชุมเพื่อตัดสินในอีกครั้งว่าจะลงโทษผู้ที่รับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไร