ข่าว

บช.น.ยัน "ไม่แทรกแซงคดี" กรณี ตร.บางพลัด อนาจาร "นักแสดงสาว"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โฆษก บช.น.ยืนยัน "ไม่แทรกแซงคดี" กรณี ตำรวจ สน.บางพลัด กระทำอนาจาร"นักแสดงสาว" เตรียมประสานเข้ารับทราบข้อกล่าวหา โทษสูงสุดถึงขั้น"ให้ออกจากราชการ"

บช.น.ยัน "ไม่แทรกแซงคดี" กรณี ตร.บางพลัด อนาจาร "นักแสดงสาว"

เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 4 สิงหาคม 2565 ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือ "บช.น." พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.ในฐานะ"โฆษก บช.น." เปิดเผยความคืบหน้ากรณี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ"ทนายตั้ม" เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พา"นักแสดงสาว" ผู้เสียหาย เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.คันนายาว ว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำแหน่ง สารวัตร สน.บางพลัด "กระทำอนาจาร" ว่า สำหรับกรณีดังกล่าว พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. ได้กำชับให้ทุกหน่วยในสังกัด ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งเครัด โดยขณะนี้ พนักงานสอบสวน สน.คันนายาว ได้รับแจ้งความและสอบปากคำผู้เสียหาย ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม รวมถึงประสานให้เพื่อนผู้เสียหายมาเป็นพยานในการสอบปากคำ และจะประสานผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหา"กระทำอนาจาร" ต่อผู้มีอายุเกินกว่า 15 ปี ภายในวันนี้ (4 สิงหาคม)

 

เบื้องต้นทางผู้ถูกกล่าวหารับว่า อยู่ในที่เกิดเหตุดังกล่าว แต่ในเรื่องพฤติการณ์ทางคดีนั้น ยังไม่ได้ให้การกับผู้บังคับบัญชาแต่อย่างใด ซึ่งคดีนี้ถือเป็นคดีที่ยอมความได้ ขึ้นอยู่กับตัวผู้เสียหาย พนักงานสอบสวนมีหน้าที่ในการรวบรวมพยานหลักฐาน และดำเนินคดีทางกฎหมาย 

พล.ต.ต.จิรสันต์  กล่าวต่อว่า ส่วนความผิดด้านวินัย วานนี้(3 สิงหาคม) พ.ต.อ.ปริญญา เหลืองอุทัย ผกก.สน.บางพลัด ได้สั่งตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง โดยมี รอง ผกก.(สอบสวน) สน.บางพลัด เป็นหัวหน้ากรรมการ หากมีมูลความผิดจะดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ทาง บช.น.ขอแสดงความเสียใจต่อผู้เสียหายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอยืนยันว่าจะทำตามกฎหมายและวินัยอย่างเคร่งครัด หากผู้เสียหายรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือไม่ความปลอดภัย สามารถแจ้งมายัง บช.น.ได้ 

บช.น.ยัน "ไม่แทรกแซงคดี" กรณี ตร.บางพลัด อนาจาร "นักแสดงสาว"

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติเบื้องต้น ยังไม่พบว่าตำรวจนายดังกล่าว เคยถูกร้องเรียนความผิดลักษณะนี้มาก่อน โดยขณะนี้เจ้าตัวได้ลาหยุดพักผ่อนตามสิทธิ์ของข้าราชการเป็นเวลา 5 วัน ทั้งนี้ หากคดีอาญามีโทษจำคุก ก็ต้องมีการดำเนินการด้านกระทำผิดวินัยร้ายแรง ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงขั้น"ให้ออกจากราชการ" และขอยืนยันว่าไม่มีการแทรกแซงแต่อย่างใด ขอเรียนว่าทุกองค์กรมีทั้งคนดีและไม่ดี อย่างไรก็ตาม นโยบายของผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นได้พยายามให้มีการฝึกอบรมทั้งยุทธวิธีและ ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม เพื่อให้ตำรวจเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จริง 

logoline