ข่าว

"ฝีดาษวานร" มาแรง กรมควบคุมโรค เตือน งดหลับนอนกับ คนแปลกหน้า

"ฝีดาษวานร" มาแรง กรมควบคุมโรค เตือน งดหลับนอนกับ คนแปลกหน้า

30 ก.ค. 2565

กรมควบคุมโรค เข้มมาตรการคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศ พร้อมเตือนกลุ่มเสี่ยงลดการสัมผัสใกล้ชิดและมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ไม่รู้จัก จะช่วยลดการแพร่ระบาดของโรค "ฝีดาษลิง" ได้

วันนี้ (30 กรกฎาคม 2565) นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรค "ฝีดาษลิง" พบการระบาดในยุโรปส่วนใหญ่เกิดในกลุ่มชายรักชาย โดยเฉพาะผู้ที่มีคู่นอนหลายคน ซึ่งหากมีการป้องกันที่ถูกต้องและปฏิบัติตัวเพื่อลดความเสี่ยงโดยการไม่สัมผัสใกล้ชิดและมี เพศสัมพันธ์ กับคนแปลกหน้า จะสามารถป้องกันการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษวานรได้  สถานการณ์โรคฝีดาษวานรทั่วโลก (ข้อมูล ณ วันที่ 29 ก.ค. 65) มีผู้ป่วยยืนยันทั่วโลก 22,485 ราย พบเพิ่มขึ้นเป็น 79 ประเทศ

 

โดยพื้นที่การแพร่ระบาดส่วนใหญ่พบอยู่ในแถบทวีปยุโรป ประเทศที่มีผู้ป่วยสูง 5 ลำดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 4,906 ราย สเปน 4,298 ราย เยอรมัน 2,595 ราย สหราชอาณาจักร 2,546 ราย ฝรั่งเศส 1955 ราย และมีผู้เสียชีวิต 5 ราย อยู่ในแอฟริกาทั้งหมดซึ่งเป็นผู้ที่มีโรคร่วม

สำหรับสถานการณ์ "ฝีดาษลิง" ในประเทศไทย ผู้ป่วยรายที่ 1 เป็นชายชาวไนจีเรีย อายุ 27 ปี เริ่มป่วย วันที่ 9 ก.ค. 65 ผลตรวจยืนยันวันที่ 18 ก.ค. 65 และหลบหนีไปกัมพูชาวันที่ 21 ก.ค. 65 ปัจจุบันแผลแห้งตกสะเก็ดแล้ว ผลตรวจเป็นสายพันธุ์ Western African A.2 และจากการเฝ้าระวังผู้สัมผัสโรคในพื้นที่ภูเก็ตและผู้ที่พบปะในสถานบันเทิงรวมกว่า 50 ราย ยังไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ในพื้นที่

 

ส่วนผู้ป่วยรายที่ 2 เป็นชายไทยอายุ 47 ปี ติดเชื้อจากชายต่างชาติ มีอาการวันที่ 15 ก.ค. 65 เป็นตุ่มหนองที่อวัยวะเพศและใบหน้าแขนขา วันที่ 26 ก.ค. 65 ไปรักษาที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล วันที่ 27 ก.ค. 65 ผลตรวจ PCR ยืนยันโรคฝีดาษวานรวันที่ 28 ก.ค. 65 และผลตรวจวิเคราะห์พบเป็นสายพันธุ์ Western African B.1 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่กำลังระบาดในแถบประเทศยุโรป กำลังติดตามชายชาวยุโรปที่มีเพศสัมพันธ์ ด้วยและคาดว่าเป็นผู้แพร่เชื้อ

 

 

โดยขณะนี้ทีมสอบสวนโรคได้ทำการฆ่าเชื้อในบ้านของผู้ป่วยแล้ว พร้อมเก็บตัวอย่างจากผู้สัมผัสในบ้าน 2 หลัง รวม 17 คน เพื่อส่งตรวจในวันที่ 29 ก.ค. 65 ผลตรวจออกมาแล้ว 16 ราย ผลเป็นลบ และรอผลตรวจอีก 1 ราย ทั้งนี้ต้องเฝ้าระวังต่อจนครบ 21 วัน

 

ทั้งนี้ โรค "ฝีดาษลิง" ไม่ได้ติดต่อง่าย ขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention : UP  ล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจลบ่อยๆ สวมหน้ากากอนามัย และโดยเฉพาะผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ขอให้เพิ่มความระมัดระวัง ลดการสัมผัสใกล้ชิดกับคนแปลกหน้า หรือหลีกเลี่ยงการมี เพศสัมพันธ์ กับคู่นอนที่ไม่รู้จัก เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อฝีดาษวานร หากมีอาการป่วยสงสัย สามารถติดต่อสถานพยาบาลใกล้บ้านเพื่อรับการตรวจหาเชื้อได้ทันที สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422