"ตรีนุช"แจงครม.ปรับเพิ่มงบฯ"เรียนฟรี15 ปี"ครอบคลุมอะไรบ้าง เช็คเลย
"ตรีนุช" แจงครม.เห็นชอบเพิ่มเงินอุดหนุนรายหัวนักเรียน อนุบาล-ปวช. "เรียนฟรี 15ปี" ผูกพันต่อเนื่อง 4 ปีวงเงิน 8,066 ล้านบาท แบ่งเบาภาระนักเรียนได้ 11.5 ล้านคน ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง เช็คเลย
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานในวันนี้ (26 กรกฎาคม 2565 )ครม.เห็นชอบปรับเงินอุดหนุนรายหัวนักเรียน แบบขั้นบันได 4 ปี รวมวงเงิน 8,066 ล้านบาท แบ่งเบาภาระนักเรียนได้ 11.5 ล้านคน ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ขอปรับอัตราเงินอุดหนุนรายหัวตามความจำเป็นพื้นฐาน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้เรียนและเพิ่มศักยภาพ สถานศึกษาในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
วันที่ 26 กรกฎาคม 2565 นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า ครม.มีมติเห็นชอบการปรับอัตราเงินอุดหนุนรายหัวตามความจำเป็นพื้นฐาน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้เรียนและเพิ่มศักยภาพสถานศึกษาในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน 15 ปี “เรียนฟรี 15ปี” ตั้งแต่ระดับก่อนประถมศึกษา ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอนปลาย และประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ทั้งสถานศึกษาของรัฐและเอกชน ครอบคลุมการศึกษาในระบบ นอกระบบ และการศึกษาทางเลือก โดยปรับเพิ่มแบบขั้นบันไดต่อเนื่อง 4 ปี งบประมาณตั้งแต่ปี พ.ศ. 2566-2569 ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ
นางสาวตรีนุช กล่าวต่อว่า การปรับอัตราเงินอุดหนุนรายหัวที่ปรับเพิ่มขึ้น สามารถจำแนกตามรายการค่าใช้จ่ายดังนี้ ได้แก่
ค่าใช้จ่ายด้านผู้เรียน มี 2 ส่วน คือ
- 1.ค่าอุปกรณ์การเรียน ปรับเพิ่มตามผลการศึกษาค่าใช้จ่ายจริงสำหรับอุปกรณ์การเรียนพื้นฐาน ซึ่งอ้างอิงราคาขายร้านสหกรณ์โรงเรียน โดยจัดให้ผู้เรียนการศึกษาขั้นพื้นฐานทุกคน ตั้งแต่ปี 2566 และคงอัตราเดิมในปีต่อไป
- 2.ค่าเครื่องแบบ ปรับตามผลการศึกษาค่าใช้จ่ายจริงสำหรับเครื่องแบบนักเรียน 1 ชุด ประกอบด้วยเสื้อ กางเกง หรือกระโปรง โดยให้ผู้เรียนทุกคนมีเครื่องแบบครบ 1 ชุด และเพิ่มเติมอีก 1 ชุดเฉพาะผู้เรียนยากจนที่ผู้ปกครองถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
สำหรับค่าใช้จ่ายด้านสถานศึกษา ได้แก่
1.ค่าจัดการเรียนการสอน 2.ค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ทั้งในระบบและนอกระบบ ให้ใช้วิธีทยอยปรับเพิ่มอัตราแบบขั้นบันไดต่อเนื่อง 4 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2566–2569 ซึ่งปัจจุบันหรือปีงบฯ 2565 ให้เงินอุดหนุนประมาณ 46,482 ล้านบาท ปีงบฯ 2566 จะเพิ่มขึ้น 2,259 ล้านบาท เป็นอุดหนุน 48,741 ล้านบาท จากนั้นทยอยปรับเพิ่มขึ้นแบบขั้นบันไดในลักษณะงบประมาณผูกพันต่อเนื่อง โดยในปีที่ 4 หรืองบฯปี 2569 จะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 8,066 ล้านบาทเศษ เป็นอุดหนุน 54,548 ล้านบาท
“ครม.ได้อนุมัติในหลักการให้เพิ่มอัตราเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายหัวการศึกษาขั้นพื้นฐาน ครอบคลุม 4 รายการ ได้แก่ 1.ค่าจัดการเรียนการสอน เพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 60 2.ค่าอุปกรณ์การเรียน เพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 17 3.ค่าเครื่องแบบนักเรียน จากเดิมได้ไม่เต็มชุดก็ได้เต็ม 1 ชุด และเพิ่มอีก 1 ชุดสำหรับเด็กยากจน และ 4.ค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน เพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 30 จากที่ทั้ง 4 รายการไม่ได้มีการปรับเพิ่มอัตราเงินอุดหนุนมานานกว่า 10 ปี โดยปรับครั้งล่าสุดในปี 2553
ขณะที่ปัจจุบันราคาสินค้าเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งการเพิ่มอัตราเงินอุดหนุนครั้งนี้จะช่วยแบ่งเบาภาระรายจ่ายของนักเรียน จำนวนกว่า 11.5 ล้านคน และลดความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ครอบครัวนักเรียนยากจนลงได้ รวมทั้งจะช่วยเพิ่มศักยภาพของสถานศึกษาในการจัดและพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วย สำหรับเงินอุดหนุนค่าหนังสือเรียนที่ผ่านมาได้ปรับเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว” นางสาวตรีนุชกล่าว
ทั้งนี้ ทั้ง4รายการ เนื่องจากไม่ได้มีการปรับเพิ่มอัตราเงินอุดหนุนฯ มานานกว่า10ปี โดยปรับครั้งล่าสุดในปี2553ขณะที่ปัจจุบันราคาสินค้าเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งการเพิ่มอัตราเงินอุดหนุนฯครั้งนี้ จะช่วยแบ่งเบาภาระรายจ่ายของนักเรียน จำนวนกว่า11.5ล้านคน และลดความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ครอบครัวนักเรียนยากจนลงได้
รวมทั้งจะช่วยเพิ่มศักยภาพของสถานศึกษาในการจัดและพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วย ซึ่งเงินอุดหนุนค่าหนังสือเรียนที่ผ่านมาได้ปรับเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงการปรับเพิ่มงบอาหารกลางวันของนักเรียน นางสาวตรีนุช กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ ศธ.ให้ความสำคัญมาโดยตลอด ซึ่งขณะนี้ ศธ.ได้เสนอเรื่องไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อที่จะเสนอให้ ครม.พิจารณา คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้
ติดตามกระแสรายวัน คมชัดลึก ได้ที่