เศร้าใจ 2 เยาวชน ออกอาละวาด "ขโมย" จยย. ฟังเหตุผลที่ทำแล้วถึงกับอึ้ง | คมชัดลึก

 26 ก.ค.2565 จากกรณีที่มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น  2 คน ออกอาละวาดขโมยรถจักรยานยนต์ บริเวณบ้านน้ำลัด ต.แม่ยาว และ ต.ริมกก. อ.เมืองเชียงราย ตั้งแต่คืนวันที่ 23 เวลา 02.30 น. และ วันที่ 24 เวลา 20.58 น. ที่ผ่านมา ซึ่งกล้องวงจรปิด สามารถจับภาพใบหน้า ขโมย ทั้ง 2 คนได้  มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความ สถ.เมืองเชียงราย และ สภ.แม่ยาว 

 

ล่าสุด พ.ต.อ.กิติพงษ์ สุขวัฒนพันธุ์ ผกก.เมืองเชียงราย ได้สั่งการให้ ร.ต.อ.สุรพัศ ธรรมปัญญา รอง สว.สส.สภ.เชียงราย นำชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงราย ลงพื้นที่สืบหาตัวผู้ต้องหา กระทั่งเมื่อช่วงเช้าวันที่ 26 ก.ค. ทราบว่า คนร้ายทั้ง 2 คนเป็นเด็กเยาวชน 2 คน มี 1 คนยังเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย และอีก 1 คนไม่เรียนหนังสือ จึงได้ไปนำตัวเยาวชนทั้ง 2 คน มาที่ สภ.เมืองเชียงราย 

 

 

 

 

 

 

จากการสอบปากคำ ทั้งเยาวชนทั้ง 2 คน ให้การยอมรับสารภาพว่า เป็นบุคคลเดียวกับที่ปรากฎในกล้องวงจรที่ได้ไปก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์จริง  ทราบชื่อ ด.ช.เว่น (นามสมมุติ)  อายุ 15 ปี อาศัยอยู่ในเมืองเชียงราย พ่อแม่แยกทางกัน ปัจจุบันอยู่กับพ่อ ปัจจุบันไม่ได้ไปเรียนหนังสือ และอีกคนชื่อ ด.ช.โอ (นามสมมุติ)  อายุ 13 ปี อยู่ในเขต ต.แม่ยาว อาศัยอยู่กับปู่อายุ 80 ปี ที่ ต.แม่ยาว พ่อเสียชีวิตไปนานแล้ว ส่วนแม่ให้มาอยู่กับปู่ ก่อนที่จะไปอยู่บนดอย 

 

 

 

 

วันที่ก่อเหตุ ดช.เว่น ได้ปั่นจักรยานจากตัวเมืองเชียงราย มาหา ด.ช.โอ ระยะทางประมาณ 6 กม. ที่เขตพื้นที่ ต.แม่ยาว และได้พูดคุยกันซักพักใหญ่ ก็ได้ชักชวนกันไปขโมยจักรยานยนต์ ตามสถานที่ ที่ก่อเหตุ ขณะที่ก่อเหตุกล้องวงจรปิดสามารถจับใบหน้าทั้ง 2 คนได้ จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวทั้ง 2 คนได้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

จากการสอบถามเด็กชาย ทั้ง 2 คน ให้การว่า ได้ขอผู้ปกครองซื้อรถจักรยานยนต์ให้หลายครั้งแล้ว แต่ไม่ยอมซื้อให้ ซึ่งปัจจุบัน ด.ช.เว่น จะเดินทางด้วยการปั่นจักรยาน จึงอยากจะมีจักรยานยนต์ขับขี่ เหมือนเพื่อนคนอื่นเขา ส่วน ดช.โอม ซึ่งอยู่กับปู่วัย 80 ปี ขอปู่และขอแม่ ซื้อจักรยานยนต์ให้หลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่ยอมซื้อให้ ซึ่งตนเองต้องปั่นจักรยานไปโรงเรียนทุกวัน จึงอยากมีจักรยานยนต์ขับขี่ไปโรงเรียนเหมือนเพื่อนบ้าง

 

 

 

 

จึงได้ชักชวนกันไปขโมยจักรยานยนต์  ซึ่งทั้ง 2 คน ให้การว่า ไม่ได้นำรถจักรยานยนต์ไปขายแต่อย่างใด เพียงแต่อยากจะไปขับขี่เหมือนเพื่อน ๆ เท่านั้น โดยทั้ง 2 คนใช้วิธีการขโมยจักรยานยนต์ โดยใช้กุญแจที่รุ่นเดียวกันลองบิดไปมา หากเปิดออกก็สตาร์ทไปเลย ส่วนใหญ่จะเลือกรถที่ไม่ได้ล็อกคอ

 

 

จากนั้น เจ้าหน้าที่ ชุดสืบ สภ.เมืองเชียงราย สามารถไปยึดรถจักรยานยนต์ของกลางได้ที่ ซุกซ่อนอยู่ใต้สะพานลอย พญาเม็งราย และอีกคันอยู่หลังอู่ซ่อมรถแห่งหนึ่ง  ทั้งนี้ การสอบปากคำ ยังต้องให้ทาง พม.พัฒนาสังคมของมนุษย์ จ.เชียงราย พนง.อัยการ  จิตแพทย์ และสหวิชาชีพ เข้าร่วมสอบปากคำด้วย 

 

 

สราวุธ คำฟูบุตร  ผู้สื่อข่าว จ.เชียงราย

 

ติดตาม คมชัดลึก ได้ที่ 
Instagram: https://www.instagram.com/komchadluek_online/
YouTube: https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w