ข่าว

ถาม "บิ๊กตู่" สมควรเป็นนายกฯหรือไม่ ผลโหวตน้อยกว่า "บิ๊กป้อม-เสี่ยหนู"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"พิชัย" ชี้ "บิ๊กตู่" สอบผ่านในสภา แต่สอบตกนอกสภา ตอกย้ำผลโหวตน้อยกว่า "บิ๊กป้อม-เสี่ยหนู" ขณะที่"จุรินทร์" คะแนนต่ำสุดในรัฐมนตรี ย้อนแย้งชอบโชว์ผลงาน

เมื่อวันที่ 26 ก.ค. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า แม้ผลการลงมติการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและอีก 10 รัฐมนตรี จะผ่าน แต่เป็นการลงมติที่สวนกับความรู้สึกของประชาชนส่วนใหญ่ ซึ่งเปิดโหวตนอกสภามีประชาชนร่วมกว่า 5 แสนคนจากคนไทยหลายประเทศปรากฏว่า 97% โหวตไม่ไว้วางใจ แถมยังมีเรื่องแจกกล้วยพร้อมหลักฐานการแจกในไลน์ที่หลุดออกมา

 

การอภิปรายฝ่ายค้านทำได้ดี เปิดโปรงโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ที่ผลโหวตปรากฏว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ กลับมีคะแนนโหวตสูงสุดได้รับความไว้วางใจ มากสุดที่ 268 คะแนน นำพลเอกประยุทธ์ถึง 12 คะแนน รองลงมาเป็นนายอนุทิน ชาญวีระกุล นำพลเอกประยุทธ์ถึง 8 คะแนน ทำให้สงสัยว่า 2 คนนี้เหมาะเป็นนายกฯ มากกว่าหรือไม่ 

 

ส่วนนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.กระทรวงพาณิชย์ โม้ว่าผลงานของตนเองดี กลับได้คะแนนโหวตต่ำสุดเพียง 241 คะแนนเท่านั้น และ รัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 3 คนได้คะแนนในระดับต่ำ น่าจะแสดงถึงผลงานที่ย่ำแย่ย้อนแย้งกับที่นายจุรินทร์โม้ และยังมีข้อครหาในการทุจริตที่ยังชี้แจงไม่ชัดเจน ซึ่งหากเป็นแบบนี้และยังอยู่ร่วมรัฐบาล โอกาสของพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งคราวหน้าจะมีน้อยมาก และอาจจะสูญพันธุ์ในหลายพื้นที่โดยเฉพาะใน กทม. ก็เป็นไปได้สูง
 

นายพิชัย มองว่า พลเอกประยุทธ์ สอบตกในเรื่องเศรษฐกิจและพลังงาน ไม่สามารถตอบข้อซักถามการอภิปรายได้ แต่กลับบอกว่าเศรษฐกิจไปได้ดี แต่ขณะที่ประชาชนกำลังลำบากกันอย่างมาก และอ้างว่าชำระหนี้ในจำนวนมากที่สุด ทั้งที่หนี้สาธารณะพุ่งทะลุ 10 ล้านล้านบาทแล้ว โดยเรื่องที่ตอบได้มั่วที่สุดน่าจะเรื่องปัญหาพลังงาน ไม่ได้ตอบเรื่องทำไมปล่อยให้ค่าการตลาดพุ่งสูง ซ้ำเติมกับค่าการกลั่นที่แพงมาก และยังแก้ตัวมั่วเรื่องค่าไฟฟ้าที่แพงเพราะเกิดจากค่าความพร้อมที่สูงถึงเดือนละ 8,000 ล้านบาท ที่ต้องจ่ายโรงไฟฟ้าที่มีกำลังผลิตเกินถึงกว่า 50% โดยอ้างว่าเป็นกำลังผลิตสำรองทั้งที่ความจริงกำลังผลิตส่วนเกิน 15% ก็เพียงพอแล้ว กำลังผลิตที่เกินนี้มีมาก่อนวิกฤตการณ์โควิดไม่ใช่เกิดจากโควิดตามที่กล่าวอ้าง สาเหตุแท้จริง เกิดมาจากการเอาใจนายทุนพลังงานที่สนิทกับพลเอกประยุทธ์ 

 

นอกจากนี้พลเอกประยุทธ์และนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ยังให้ข้อมูลย้อนแย้งกันเองเรื่องปัญหาข้อพิพาทในสัมปทานขุดก๊าซในพื้นที่อ่าวไทยทำให้ปริมาณก๊าซถูกนำขึ้นมาน้อยลง ที่พลเอกประยุทธ์ปฏิเสธแต่นายสุพัฒนพงษ์กลับยอมรับ แสดงถึงการขาดความรู้ความเข้าใจของพลเอกประยุทธ์

ส่วนการลงทุน 148,000 ล้านบาทของบริษัท PTTGC ที่นำเงินไปซื้อบริษัทต่างประเทศในภาวะที่เศรษฐกิจไทยกำลังย่ำแย่ ต้องการการลงทุนในประเทศ และเงินทุนไหลออกนี้ น่าจะผลประโยชน์ทับซ้อนแน่ เพราะมีการตอบแบบไม่ตรงความจริง โดยอ้างว่าบริษัท PTTGC ที่เป็นบริษัทลูกของ บมจ. ปตท. เป็นบริษัทเอกชน ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล ซึ่งไม่เป็นความจริง

 

นายสุพัฒนพงษ์ ที่เคยเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารต้องเป็นผู้ที่รู้ดีที่สุด ทั้งที่PTTGC มี บมจ. ปตท. ถือหุ้นอยู่ถึง 45.18% และ คณะกรรมการบริหารก็แต่งตั้งไปจากรัฐบาล มีนายปิยะสวัสดิ์ อัมระนันท์ อดีตประธานบอร์ด บมจ. ปตท. ที่พลเอกประยุทธ์แต่งตั้งและโยกมาเพราะอายุเกินเป็นประธานบอร์ด มีพลโทนิธิ จึงเจริญ นายทหารคนสนิทของพลเอกประยุทธ์ และ ยังมีข้าราชการกระทรวงพลังงาน และ ผู้บริหาร ปตท. เป็นกรรมการ จะบอกว่าไม่เกี่ยวกับรัฐบาลและกระทรวงพลังงานนั้นคงเป็นไปไม่ได้

 

โดยปกติ การลงทุนของ PTTGC จะต้องมาขออนุมัติจาก รมว. พลังงานอยู่แล้ว ดังนั้นการแก้ตัวของพลเอกประยุทธ์และนายสุพัฒนพงษ์จึงตรงข้ามกับความเป็นจริงและเป็นที่สงสัยว่าจะต้องมีเรื่องผลประโยชน์แอบแฝงอยู่หรือไม่ถึงต้องบิดเบือนเพื่อปกปิดความจริง นอกจากนี้นายสุพัฒนพงษ์ยังไม่ได้ตอบคำถามในสภาเรื่องน้ำมันปาล์มมูลค่า 2,100 ล้านบาทของบริษัทย่อยของ PTTGC หายไป ในระหว่างที่นายสุพัฒนพงษ์ดำรงตำแหน่งเป็น CEO ของ PTTGC ด้วย 

 

นายพิชัย บังบอกด้วยว่า นายกรัฐมนตรี ยังไม่ตอบข้อสงสัยอีกหลายเรื่อง เช่น คดีเหมืองทองอัคราที่เป็นจุดตายของตนเอง จะเห็นได้ว่า พลเอกประยุทธ์ และ 10 รัฐมนตรีใช้พวกมากลากไปเพื่อให้รอดพ้นจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้พลเอกประยุทธ์บริหารประเทศต่อไปแล้ว ยิ่งอยู่นานประชาชนยิ่งลำบาก การที่พลเอกประยุทธ์พยายามแก้ตัวว่ามีเซลล์สมอง 840,000 ล้านเซลล์ ทั้งที่เคยพูดเองว่ามี 84,000 เซลล์ ซึ่งมากกว่าคนปกติถึง 10 เท่า ไม่ได้ทำให้ประชาชนเชื่อ เพราะที่ผ่านมาไม่ได้แสดงความฉลาดที่จะมีเซลล์สมองถึง 10 เท่าของคนปกติได้ ถ้าฉลาดจริงคงต้องไม่ยอมรับอย่างหน้าชื่นบานว่าทำปฏิวัติและจะต้องละอายใจและจะต้องดูออกแล้วว่า ประเทศย่ำแย่และเสื่อมถอยจากการบริหารของรัฐบาลนี้แค่ไหน

 


ติดตาม คมชัดลึก คลิก
Instagram: https://www.instagram.com/komchadluek_online/
Line: https://lin.ee/qw9UHd2

logoline