รมว.ยุติธรรม เปิดกระทรวงรับ"ทูตอังกฤษ" โชว์ผลงานออก"กฎหมาย"สำเร็จมากกว่า 10 ฉบับ ทุกอย่างทำตามหลักสากล ยัน ยุคนี้สิทธิมนุษยชนเบ่งบานที่สุด
เมื่อวันที่ 25 ก.ค.เวลา 10.00 น.ที่กระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ให้การต้อนรับ นายมาร์ก กุดดิง ( H.E.Mr. Mark Gooding) เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะ และหารือข้อราชการ
นายมาร์ก กล่าวว่า เข้ารับตำแหน่ง เอกอัครราชทูตฯ มาประมาณ 1 ปีแล้ว ได้เห็นความคืบหน้าและความร่วมมือที่ดีของ"กระทรวงยุติธรรม" ซึ่งเห็นว่าเป็นหน่วยงานหลักที่ดีในการขับเคลื่อน"สิทธิมนุษยชน" โดยวันนี้มีข้อสอบถามหลายประเด็น ได้แก่ "สิทธิมนุษยชน"ในประเทศไทย โดยเฉพาะ"สิทธิมนุษยชน"ของผู้ต้องขังในเรือนจำ สวัสดิการ ความเป็นอยู่ การรักษาพยาบาล และสิทธิทางการแพทย์ของผู้ต้องขัง รวมทั้งพัฒนาการของกฎหมายฉบับต่างๆ เช่น ร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองพยาน ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย และสิทธิของเด็กและผู้หญิง
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ประเด็นที่เอกอัครราชทูตฯ สอบถามข้างต้น "กระทรวงยุติธรรม"ได้เร่งดำเนินการไปเกือบครบถ้วนแล้ว โดยเฉพาะการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังที่มุ่นเน้นให้เป็นไปตามหลัก"สิทธิมนุษยชน"และมาตรฐานสากล อีกทั้งยังสนับสนุนให้ผู้ต้องขังได้เรียนรู้การประกอบอาชีพเพื่อรองรับหลังการพ้นโทษ ให้มีรายได้ไม่กลับมากระทำผิดซ้ำอีก รวมถึงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีการลดความแออัดในเรือนจำจากเมื่อครั้งที่ตนเข้ารับตำแหน่งใหม่ มีผู้ต้องขังประมาณ 390,000 คน แต่ปัจจุบันลดลงเหลือประมาณ 290,000 คน ทำให้เรือนจำไม่แออัด และสภาพความเป็นอยู่ของผู้ต้องขังดีขึ้น ตลอดจนมีมาตรการป้องกันโรคต่างๆ เช่น โควิด-19 ได้ดีอีกด้วย
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับความก้าวหน้าของกฎหมายฉบับต่างๆ "กระทรวงยุติธรรม" ภายใต้การบริหารของรัฐบาลปัจจุบัน ได้มีการพัฒนากฎหมายไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 10 ฉบับ เช่น ประมวลกฎหมายยาเสพติด ที่เน้นการยึดทรัพย์ตัดวงจรผู้ค้า และยึดทรัพย์ย้อนหลังได้ 10 ปีตามมูลค่ายาเสพติดที่ขายไป ซึ่งการยึดทรัพย์หลังบังคับใช้กฎหมายได้ยังไม่ถึง 1 ปี กระทรวงยุติธรรมสามารถยึดทรัพย์ได้มากกว่าอดีตที่ผ่านมาถึง 20 เท่าและเชื่อว่ายาเสพติดจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดใน 1-2 ปีนี้ ในส่วนของ ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองพยาน ขณะนี้ ผ่านการพิจารณาของรัฐสภาไปแล้ว ส่วน ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ คาดว่าจะผ่านวุฒิสภาในเดือนนี้ นอกจากนี้ ยังได้จัดทำ ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันการกระทำผิดซ้ำในความผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรงและเกี่ยวกับเพศ หรือ JSOC ที่กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของวุฒิสภา ซึ่งกฎหมายนี้จะทำให้สังคมปลอดภัยมากขึ้น
ท้ายสุด นายมาร์ก ได้กล่าวขอบคุณ นายสมศักดิ์ และกระทรวงยุติธรรม ที่ได้ดำเนินงานต่างๆอย่างรวดเร็ว ยึดหลักสิทธิมนุษยชนและสากลเป็นหลัก โดยทางสหราชอาณาจักรพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือและร่วมมือกับไทยในทุกๆด้าน และต้องขอบคุณที่ช่วยดูแลผู้ต้องขังชาวอังกฤษเป็นอย่างดี และให้สิทธิต่างๆ ที่ควรจะได้รับตามหลักสากล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง