Swabคอ หาเชื้อ"โรคฝีดาษลิง" เหมือนตรวจ "โควิด19" ได้จริงหรือ?

หลังจากพบชาวไนจีเรียเดินทางเข้ามาในประเทศไทยและตรวจพบเชื้อไวรัสฝีดาษลิงในเวลาต่อมา ซึ่งขณะนี้พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในพื้นที่จ.ภูเก็ตจำนวน 19 ราย จาก 6 สถานที่ที่ผู้ป่วยใช้บริการ สร้างความกังวลว่าจะเกิดการแพร่ระบาด 
 

ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา  นักวิจัยด้านไวรัสวิทยาไบโอเทค-สวทช. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Anan Jongkaewwattana ระบุว่า

ข้อมูลนี้บอกว่าการตรวจหาไวรัสฝีดาษลิงอาจใช้ตัวอย่างจากการ swab คอ เหมือนที่เก็บตัวอย่างตรวจโควิดได้ ไม่จำเป็นต้องรอให้ผื่น หรือ ตุ่มขึ้นที่ผิวหนังแล้วค่อยเก็บตัวอย่างไปทำ PCR ตรวจ ตัวอย่างจากคอ(หรือจากน้ำลาย?) สามารถให้ผลบวกก่อนที่จะมีอาการทางผิวหนัง ซึ่งจะเป็นการลดโอกาสการแพร่เชื้อในสภาวะที่ไวรัสมีอยู่เป็นจำนวนมากได้อย่างดี  

นอกจากนี้ดร.อนันต์ยังได้ ชี้แจงถึงการแพร่เชื้อ ยืนยันไม่ได้แพร่ผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์

ไวรัสฝีดาษลิง ไม่ได้แพร่ผ่านทางเพศสัมพันธ์ แต่การติดเชื้อสามารถเกิดได้หลายช่องทาง หลักๆคือ
1. การสัมผัสโดยตรงกับตุ่มแผล หรือ สารคัดหลั่งที่มีไวรัสอยู่
2. การรับเชื้อจากละอองฝอย จากการคุยกันกับผู้ป่วยที่ไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย หรือ จากกิจกรรมที่อยู่ใกล้ชิดกันมากๆ เช่น การกอดกัน จูบกัน หรือ ระหว่างการมีเพศสัมพันธ์
3. ผ่านการสัมผัสสิ่งของ หรือ วัตถุ ที่มีการเจือปนของไวรัสที่ผู้ป่วยไปสัมผัสมา เช่น ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า หรือ โทรศัพท์มือถือ
4. รับเชื้อผ่านจากแม่สู่ลูกในครรภ์ผ่านทางรก
5. รับจากสัตว์ที่ติดเชื้อ 
ความเสี่ยงจากการติดเชื้อเกิดขึ้นมากกว่ากิจกรรมทางเพศตามที่หลายคนอาจเข้าใจผิดกันไปนะครับ

ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่
Line: https://lin.ee/qw9UHd2
YouTube: https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w