ข่าว

เปิดไทม์ไลน์ ผู้ป่วย"ฝีดาษลิง" คนแรกในไทย มีผู้เสี่ยงสัมผัสติดเชื้อ 17 ราย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ทีมข่าวคมชัดลึกออนไลน์" เปิดไทม์ไลน์ ผู้ป่วย "ฝีดาษลิง" คนแรกในไทย ก่อนหลบหนีหายตัวปริศนา เบื้องต้นพบมีผู้เสี่ยงสัมผัสติดเชื้อ 17 ราย

จากกรณี จังหวัดภูเก็ต ออกแถลงข่าวด่วน "ผู้ป่วยฝีดาษลิง" รายแรกในประเทศไทย หลบหนีหายตัวปริศนา เมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุด"ทีมข่าวคมชัดลึกออนไลน์"ตรวจสอบประวัติ "ผู้ป่วยฝีดาษลิง"รายนี้ พบว่า

 

***ผู้ป่วยรายนี้ เป็นเพศชาย ชาวไนจีเรีย อายุ 27 ปี ปฏิเสธการให้ประวัติอาชีพ และปฏิเสธการให้ประวัติเดินทางออกนอกประเทศไทย เดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อ 21 ตุลาคม 2564 

 

***ข้าพักอาศัยที่คอนโดมิเนียมใน ต.ป่าตอง อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต ตั้งแต่ พฤศจิกายน 2564 ถึงปัจจุบัน


วันที่ 9 ก.ค.65
ผู้ป่วยรายนี้มีไข้สูง เจ็บคอ มีผื่นคัน มีตุ่มนูนแดง ตุ่มหนอง เริ่มจากอวัยวะเพศ ลามไปใบหน้า ลำตัว แขน ไม่ทราบประวัติเดินทาง

วันที่ 16 ก.ค.65
เข้ารับการรักษาที่ รพ.เอกชน ผลตรวจร่างกายพบตุ่มหนอง กระจายตามอวัยวะเพศ ใบหน้า ลำตัว แขน ต่อมน้ำเหลืองโตที่บริเวณขาหนีบทั้ง 2 ข้าง ซักประวัติเพิ่มเติม พบประวัติสัมผัสนักท่องเที่ยวในสถานบันเทิงป่าตอง ช่วง 2-3 สัปดาห์ก่อนป่วย พร้อมทั้งให้ประวัติมีเพศสัมพันธ์ไม่ปลอดภัย แพทย์สงสัยโรคฝีดาษลิง เจาะเลือดส่งตรวจ

 

วันที่ 17 ก.ค.65

เวลา 14.10-15.13 น. ผู้ป่วยออกไปทานข้าวโดยมีประวัติเข้า-ออก คอนโดที่พัก

 

วันที่ 18 ก.ค.65

18.33 น. กล้องวงจรปิดพบผู้ป่วยนั่งรถแท็กซี่ ออกจากคอนโดของที่พัก

19.00 น. กล้องวงจรปิดพบ ผู้ป่วยเช็กอินที่โรงแรม สัมผัสกับพนักงานต้อนรับ โดยเดินทางมาคนเดียว สวมเสื้อแขนยาวถึงข้อมือ สะพายกระเป๋าเป้สีดำ ไม่มีเล่มพาสปอร์ต แจ้งเข้าพัก 2 คืน โดยแสดงหลักฐานพาสปอร์ตจากรูปถ่ายทางโทรศัพท์ และชำระค่าที่พักด้วยเงินสด ทั้งผู้ป่วยและพนักงานไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย พนักงานพาไปส่งที่ลิฟต์ และเป็นคนกดลิฟต์ให้ จากกล้องวงจรปิด ไม่พบผู้ป่วยออกมานอกห้อง ไม่ได้สั่งอาหารให้มาส่ง
 

วันที่ 19 ก.ค.65

-ผลแล็บฯ จากห้องปฏิบัติการ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และทีมสอบสวนควบคุมโรค ยืนยันว่า เป็นผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงจริง สายพันธุ์ West African ซึ่งเป็นสายพันธุ์ไม่รุนแรง

-15.00 น. แม่บ้านไปเคาะประตูห้อง ผู้ป่วยแง้มประตูเปิดคุยช่วงสั้นๆ ไม่ได้ให้เข้าไปทำความสะอาด

-21.00 น. ผู้ป่วยออกจากห้องมาวางกุญแจที่เคาน์เตอร์ล็อบบี้ ไม่ได้พบพนักงาน/แขกคนอื่น หลังจากนั้นพนักงานต้อนรับนำกุญแจไปเก็บที่ชั้นวาง ไม่ได้ทำความสะอาดกุญแจ จากนั้นไม่พบผู้ป่วยอีก

 

***มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 17 คน
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ