หลายประเด็นยังคาใจ ฝ่ายค้านคาดสรุป "อภิปรายไม่ไว้วางใจ" เร็วกว่ากำหนด

ประธานวิปฝ่ายค้าน พอใจภาพรวมการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ข้อมูลชัดเจน เข้มข้นในหลายประเด็น เช่น ความไม่ชอบมาพากลแต่งตั้งคนใกล้ชิดเข้ารับราชการตำรวจ ซึ่งจะไม่เป็นธรรมต่อคนทั่วไป การใช้งบกลางที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์  เหมืองทองอัครา  เครื่องบินรบเมียนมา เป็นต้น ขณะที่การชี้แจงของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรัฐมนตรี ไม่ชัดเจน หลีกเลี่ยงการตอบบางประเด็น จนทำให้ค้างคาใจ

สุทินคาดว่า หากไม่มีอุบัติเหตุจะสามารถอภิปรายสรุปได้ในเวลาประมาณ 17.00 น. ซึ่งจะเร็วกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา และไม่กังวลหากจะมีงูเห่าเพิ่ม เพราะคิดว่าน่าจะมีเท่าเดิม และไม่อยากให้ความสนใจงูเห่าในสภามากกว่าความรู้สึกของประชาชน

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าพรรคพลังประชารัฐ จะกลับไปใช้สูตรคำนวนบัญชีรายชื่อหารด้วย 100 นั้น นายสุทิน มองว่าเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงการไม่มีจุดยืน ไม่มีรากเหง้าทางความคิดในหลักการที่เป็นแก่นสาร คิดแต่ตัวเองจะได้เปรียบหรือเสียเปรียบ ไม่ได้หวังวางรากฐานที่ดีให้กับประเทศ ส่วนใครจะเปลี่ยนไปอย่างไร พรรคเพื่อไทยก็ยืนหลักการเดิม ซึ่งสังคมจะได้เห็นว่าใครคิดถึงแค่เรื่องการเลือกตั้งเท่านั้นประเด็นสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อว่า จะหาร 100 หรือ หาร 500 พรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้เปรียบหรือเสียเปรียบ เดิมคิดว่าจะได้เปรียบ แต่พอไปคิดละเอียดจริงๆ หาร 500 อาจจะได้เปรียบไม่ต่างกันมาก

พร้อมย้ำว่าพรรคเพื่อไทยเคยชนะมาทุกกติกา แต่เราเป็นห่วงความยุ่งเหยิงในอนาคต เราไม่อยากเจอแบบนั้นอีก เพราะหากมีการฟ้องร้องเกิดขึ้น เลือกตั้งแล้วประกาศผลไม่ได้ เป็นสิ่งที่ห่วง เพราะอาจลากยาวไปอีก 1-2 ปี แล้วชี้เป็นโมฆะ ซึ่งประเทศไทยเคยมีเหตุการณ์แบบนี้ พรรคเพื่อไทยหวังว่าหลังเลือกตั้งจะไม่มีปัญหาในการใช้กติกาหาร 500 แต่ถ้าใช้หาร 100 จะมีปัญหาแต่ก็น้อย

ส่วนกรณีนายกฯ ครบวาระ 8 ปีนั้น  นายสุทิน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะหารืออีกครั้งหลังจบการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ในความเห็นส่วนตัวของตนมองว่าไม่ควรไปยื่นคิด แต่ให้นายกฯ มีสปิริทคิดเอง เพราะการไปยื่นจะเข้าทาง เนื่องจากเขามาท้า มาเชิญชวนให้ไปยื่น และเขาก็รู้คำตอบอยู่แล้ว แค่ต้องการให้เราไปช่วยประทับตราให้ ดังนั้นหลังอภิปรายจะพูดคุยกันอย่างเข้มข้นอีกครั้ง ว่าจะยื่นเองหรือให้นายกฯแสดงสปิริต

แต่หากจะยื่นต้องเป็นความผิด ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะยื่นก่อนหรือหลัง 24 สิงหาคม ซึ่งอาจจะเป็นช่วงหลังก็ได้ แต่ห่วงว่าถ้าเลยเวลาไปแล้วแล้วมายื่น ตอนนั้นรัฐบาลไม่เชื่อมั่นในเสถียรภาพตัวเอง เกิดเกียร์ว่าง ระหว่างนั้นทำอะไรแล้วมีผลวินิจฉัยออกมาว่าเป็นเรื่องไม่ชอบ

ดังนั้นการทำอะไรระหว่างนั้นก็จะมีผลตามมาอีก ซึ่งความยุ่งเหยิงนายกฯ ตัดได้คนเดียวเลยด้วยการแสดงสปิริท นายกฯ นับเลขถูกอยู่แล้ว 1-8  อีกทั้งการนับวาระครบ 8 ปีจะนับตรงไหนก็ได้ นับที่ปี 2557 หรือ 2560 ก็จะแถๆกันอยู่แถวนี้

ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่

Line: https://lin.ee/qw9UHd2

YouTube:https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w