"ผู้ค้าหาบเร่แผงลอย"มีลุ้น กทม.อาจทบทวนยกเลิก ห้ามขายทุกวันจันทร์

เมื่อวันที่ 19 ก.ค. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา เพื่อหารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย และเชิงบริหารจัดการหาบเร่แผงลอย ว่า ได้มีการหารือเรื่องหาบเร่แผงลอย การดูแลคนจนเมือง และเรื่องการศึกษาที่จะใช้พื้นที่โรงเรียนมาสอนให้เด็กรู้จักวิธีคิดสร้างรายได้ นำผู้สูงอายุในชุมชนมาร่วมเป็นส่วนหนึ่ง เช่น ปลูกผักนำมาขายให้โรงเรียนช่วยเพิ่มรายได้ให้ผู้สูงอายุ  เป็นการมองปัญหาในองค์รวม ทั้งสร้างความรู้ให้เด็กและสร้างรายได้ให้ผู้ใหญ่ช่วยให้เกิดความภาคภูมิใจด้วย โดยในที่ประชุมคณะกรรมาธิการ มีข้อเสนอที่ต้องดำเนินพิจารณาและเห็นพ้องตรงกันหลายเรื่อง 

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงประเด็นการหาบเร่แผงลอยว่า กทม. จะเดินหน้าเต็มที่ โดยมี 2 ส่วนที่เป็นข้อบังคับ

-ปัจจุบัน กรุงเทพมหานคร มีพื้นที่ทบทวนจุดผ่อนผันอนุโลมให้ขายได้ 171 จุด อยู่ระหว่างรอการพิจารณาให้ค้าขายได้ 31จุด โดยมอบหมายให้นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯกทม.ลงพื้นที่ดูต้นแบบพัฒนา บางจุดเหมาะสม บางจุดไม่เหมาะ น่าจะสรุปได้ลอตแรกใน 2 สัปดาห์นี้
-เรื่องกฎเกณฑ์ระเบียบต่างๆ ที่ต้องไปดู หากดูแล้ว เรามีตลาดอยู่ 3 ประเภท คือ ตลาดชุมชน ตลาดออฟฟิศ และตลาดสำหรับนักท่องเที่ยว แต่ละตลาดอาจมีกฎเกณฑ์ระเบียบแตกต่างกันไป และต้องมองหาความร่วมมือกับเอกชน ทำ Hawker Center ซึ่งกำลังศึกษารูปแบบของสิงคโปร์และกำลังหาพื้นที่อยู่
 

ส่วนประเด็นที่ขณะนี้พ่อค้าแม่ค้าหาบเร่แผงลอยต้องหยุดค้าขายทุกวันจันทร์ ด้านนายสังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานคณะกรรมาธิการฯมีความเห็นว่า ต้องมีการทบทวนระเบียบคำสั่งต่างๆ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ให้แม่ค้าได้กลับมาค้าขาย โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างผู้ใช้ทางสาธารณะกับผู้ที่จะทำมาค้าขาย รวมถึงการหยุดวันจันทร์ให้ทบทวนยกเลิก ให้ขายได้ทุกวันเพราะต้องกินต้องใช้ทุกวัน อยากให้ กทม.มองหาบเร่แผงลอยเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจขนาดย่อม เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญไม่เฉพาะของ กทม. แต่เป็นเรื่องสำคัญของประเทศ  

ขณะที่นายชัชชาติ มีความเห็นต่าง อาจต้องมีหยุดบ้าง เพราะสุดท้ายอาจมีการจับจองพื้นที่ยาว และไม่ได้มีการทำความสะอาด อาจให้หยุด 1วัน ต่อสัปดาห์ หรือ 1 วันต่อ2สัปดาห์ จะเป็นวันไหนก็แล้วแต่ลักษณะของพื้นที่ ทั้งนี้หัวใจหลักคือการลดความเหลื่อมล้ำของเมือง กทม.ไม่ได้มีหน้าที่แค่เก็บขยะ ลอกท่อ ต้องมีหน้าที่ทำเศรษฐกิจของเมืองด้วย เพราะเมืองคือตลาดแรงงาน ถ้าเศรษฐกิจไม่ดีเมืองไปรอดไม่ได้ เราต้องให้โอกาสโดยเฉพาะคนตัวเล็กตัวน้อยให้ได้พัฒนาความมั่นคงทางเศรษฐกิจมากขึ้น แต่คงไม่สามารถเอาเงินไปทำสวัสดิการให้ได้ คงช่วยเรื่องการศึกษาที่ดี สาธารณสุขที่ดี ให้โอกาสทำมาหากินเท่าเทียมกัน

ข่าวสารต่างๆ คมชัดลึก ไปที่
Website -  www.komchadluek.net
Facebook - https://www.facebook.com/komchadluek
LineToday - https://today.line.me/th/v2/publisher/100057