ข่าว

"ชัชชาติ"แวะให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์สู้ "โควิด - 19"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ แวะเยี่ยมรพ.ตากสิน - รพ.กลาง ยามเช้า ยายังเพียงพอ บุคลากรขวัญกำลังใจดี พร้อมรับสถานการณ์โควิด-19

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมกลุ่มนักวิ่ง เริ่มออกวิ่งจากลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร ไปตามเส้นทางถนนบำรุงเมือง มุ่งสู่ถนนอัษฎางค์ ผ่านสถานที่สำคัญต่างๆ อาทิ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร กระทรวงมหาดไทย ปากคลองตลาด พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มุ่งสู่สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา เข้าสู่วงเวียนใหญ่ ผ่านโรงพยาบาลตากสิน แล้วลงเรือแม่น้ำเจ้าพระยาที่ท่าน้ำท่าดินแดงไปขึ้นที่ท่าน้ำราชวงศ์ ผ่านสำเพ็งและจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้ มุ่งสู่โรงพยาบาลกลาง แล้วกลับสู่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(เสาชิงช้า) ซึ่งระหว่างการวิ่ง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ตรวจเยี่ยมบุคลากรทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลตากสิน เขตคลองสาน  และโรงพยาบาลกลาง เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย โดยได้ให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดในปัจจุบัน

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า โรงพยาบาลตากสินก็เป็นหนึ่งใน 11 โรงพยาบาลของกทม. ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่เทียบเท่า โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ โรงพยาบาลสิรินธร เป็นต้น โดยโรงพยาบาลตากสินสามารถรองรับผู้ป่วยได้ 400 กว่าเตียง ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 มากขึ้น ผู้ที่ตรวจด้วย ATK แล้วพบว่าติดเชื้อก็จะเข้าสู่ระบบ “เจอ จ่าย จบ” ที่โรงพยาบาลตากสินประมาณ 200 คนต่อวัน สถานการณ์ถือว่ามีผู้ป่วยเยอะขึ้นจากแต่ก่อน แต่ยาที่ใช้รักษาโรค เช่น ฟ้าทะลายโจร ฟาวิพิราเวียร์ โมลนูพิราเวียร์ ยังอยู่ในระดับที่เพียงพอ

 

 

ขณะที่ผู้ป่วยระดับสีเหลืองและแดงที่ต้องแอดมิดรักษาที่โรงพยาบาลก็เพิ่มสูงขึ้นทำให้เตียงของโรงพยาบาลต้องรองรับผู้ป่วยมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุแต่สถานการณ์ก็ยังไม่รุนแรงเท่าการแพร่ระบาดครั้งก่อน โดยบุคลากรทางการแพทย์ของกทม.มีการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์แล้ว 

และในส่วนของบุคลากรทางการแพทย์ที่ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นก็มีการบริหารจัดการบุคคลอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อรองรับผู้ป่วย ซึ่งวันนี้ได้ให้ขวัญและกำลังใจในการทำงานกับบุคลากรให้ต่อสู้เพื่อผู้ป่วยต่อไป และได้สอบถามถึงความต้องการอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ขาดแคลนเพื่อรับการช่วยเหลือ พบว่าขณะนี้ขาดอุปกรณ์ท่อจ่ายน้ำสำหรับเครื่องฟอกไตผู้ป่วยโควิดซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องแยกเฉพาะเป็นพิเศษ ก็จะเร่งดำเนินการประสานให้การช่วยเหลือต่อไป โดยวันนี้ส่วนใหญ่บุคลากรทางการแพทย์ยังมีขวัญและกำลังใจดี ยิ้มแย้มแจ่มใส เพราะยังสามารถรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ถึงแม้มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19เพิ่มขึ้นจริงแต่อาการไม่รุนแรง จึงอยากขอเตือนให้กลุ่มผู้สูงอายุให้ระวังตัวเป็นพิเศษ สวมใส่หน้ากากตลอดเวลา พร้อมกับไปฉีดวัคซีนให้ครบถ้วน  รวมถึงผู้ป่วยที่ติดเชื้อต้องแยกตัว เว้นระยะห่าง และอย่าเข้าใกล้กลุ่มผู้สูงอายุ 

 

 

ในส่วนของโรงพยาบาลกลาง เป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่รองรับผู้ป่วยได้ 455 เตียง สถานการณ์ปัจจุบันผู้ป่วยโควิดที่เข้ามารับการรักษาเริ่มเยอะขึ้น ประมาณวันละ 200-300 คน  โดยมีจุดให้บริการอยู่ที่บริเวณเต็นท์สีขาวลานนอกอาคาร ซึ่งในอนาคตจะดำเนินการจัดตั้งคลินิกโรคระบบทางเดินหายใจ (ARI Clinic) โดยมีผู้บริหารโรงพยาบาลกลางและบุคลากรทางการแพทย์ ได้ให้ข้อมูลว่า ยาฟาวิพิราเวียร์ไม่ได้แจกทุกคน เนื่องจากคนไข้มีหลายกลุ่ม แบ่งเป็นสีเขียว สีเหลือง และสีแดง ในคนไข้ที่ไม่มีอาการก็จะให้ยาตามอาการ แต่หากมีอาการมากขึ้นก็สามารถติดต่อโรงพยาบาลได้ ในวันนึงจะมีผู้ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ประมาณ 80 ราย โดยได้สำรองไว้ให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีด้วย สำหรับโมลนูพิราเวียร์ จะให้ในกลุ่ม 608 เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยง สำหรับคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นก็สามารถ Walk-in มาฉีดวัคซีนได้ทุกวัน

 

 

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เชิญชวนประชาชนให้มาฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น สำหรับผู้ที่ฉีดเข็มสุดท้ายมาแล้ว 4 เดือน เพราะหากติดโควิดวัคซีนช่วยลดอาการป่วยรุนแรงและการเสียชีวิตได้ ลดผู้ป่วยสีเหลือง สีแดง และช่วยบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องดูแลรักษาผู้ป่วยอาการหนักด้วย ที่สำคัญคือต้องฉีดวัคซีน ยังต้องคงมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคล คือ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือบ่อย ๆ ตรวจวัดอุณหภูมิ ตรวจ ATK เมื่อมีความเสี่ยง สำหรับคนที่ติดเชื้ออย่าไปตกใจเพราะไม่ได้รุนแรงเหมือนรอบที่แล้ว ที่สำคัญอย่าไปแพร่เชื้อให้กลุ่มเปราะบาง และพยายามไปรักษาตามสิทธิ์ของตนเอง เพื่อไม่ให้เกิดการกระจุกตัวของผู้ป่วยและแออัดในการรักษา โอกาสนี้ ผู้ว่าฯ กทม. ได้กล่าวขอบคุณพร้อมส่งมอบกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ทุกคน หากมีอะไรขาดเหลือให้แจ้งรองผู้ว่าฯ ทวิดา ซึ่งดูแลด้านการแพทย์และสาธารณสุข ของกทม.ได้ทันที

 

 

สำหรับโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดให้บริการ Walk-in ฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป (ทุกสัญชาติ) ดังนี้
1. โรงพยาบาลกลาง ให้บริการวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00 - 12.00 น. ชั้น 3 ห้องตรวจส่งเสริมสุขภาพ      

2. โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ให้บริการวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 08.00 - 14.00 น. คลินิกวัคซีนโควิด ห้องหัตถการชั้น 2 อาคาร 72 พรรษา มหาราชินี และวันศุกร์ (Walk-in / QueQ) เวลา 08.00 - 14.00 น. คลินิกวัคซีนโควิด เรือนวัคซีน อาคารเวชศาสตร์ฟื้นฟู ชั้น 1


3. โรงพยาบาลลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ให้บริการวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00 - 14.00 น. ที่ห้องทำแผลฉีดยา


4. โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ ให้บริการวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00 - 15.00 น. ที่คลินิกวัคซีนผู้ใหญ่ อาคารอายุบวร


5. โรงพยาบาลสิรินธร (Walk-in / QueQ) ให้บริการวันศุกร์ เวลา 13.00 - 15.00 น. ที่ ห้องประชุมคุณหญิงหรั่ง กันตารัติ ชั้น 2


6. โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน ให้บริการวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00 - 15.00 น. ที่ คลินิกวัคซีนโควิด ห้องตรวจ 1 แผนกผู้ป่วยอายุรกรรม อาคาร OPD ชั้น 2


7. โรงพยาบาลคลองสามวา (Walk-in / QueQ) ให้บริการวันพุธ-ศุกร์ เวลา 13.00 - 14.00 น. ที่อาคารผู้ป่วยนอก


8. โรงพยาบาลเวชการุณรัศมิ์ ให้บริการวันจันทร์ เวลา 13.00 - 16.00 น. ที่ห้องประกันสังคมชั้น 2 


9. โรงพยาบาลบางนากรุงเทพมหานคร ให้บริการวันจันทร์-พุธ เวลา 08.00 - 11.00 น. ที่อาคารผู้ป่วยนอกชั้น 1 


10. โรงพยาบาลตากสิน ให้บริการวันจันทร์และวันศุกร์ เวลา 8:00 น - 15:00 น. ที่ห้างแพลทฟอร์ม วงเวียนใหญ่


11. โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินฺธโร อุทิศ ให้บริการวันจันทร์ เวลา 13:00 น - 16:00 น. ที่ชั้น 2 อาคารอเนกประสงค์ และวันอังคาร เวลา 8:00 น - 12:00 น. ที่ชั้น 1 อาคารอเนกประสงค์ 
นอกจากนี้ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร เปิด Walk-in ฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยไม่ต้องจองคิว ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนฯ อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกทม. (ไทย-ญี่ปุ่น) ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. ไปจนถึง 31 ก.ค.65 อีกด้วย

 

 

 

เพื่อไม่พลาด ข่าวสารต่างๆ คมชัดลึก ไปที่
Website -  www.komchadluek.net
Facebook - https://www.facebook.com/komchadluek

 

 

"ชัชชาติ"แวะให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์สู้ "โควิด - 19"

 

"ชัชชาติ"แวะให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์สู้ "โควิด - 19"

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ