ผู้ก่อตั้งเพจ"สายไหมต้องรอด" ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ กรณี "ไรเดอร์หนุ่ม" ถูกรุมทำร้าย น้องชายเจ้าตัวยัน ยันไม่เคยหาเรื่องคู่กรณี โอดคดีผ่านมา 28 วัน แต่ไม่คืบหน้า วอนตำรวจช่วยลากคอดำเนินคดี
จากกรณีเพจ"สายไหมต้องรอด" โพสต์ภาพชายซึ่งนอนไม่ได้สติ เจาะสายยางที่หน้าอก ใส่เครื่องช่วยหายใจนอนอยู่บนเตียง พร้อมเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น "ไรเดอร์หนุ่ม" จอดรถรอรับออเดอร์หน้า ตลาดชัชวาล อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จู่ๆมีวัยรุ่นเจ้าถิ่นขับรถ จยย.ผ่านมา แล้วหันมาถามว่า "มึงมองหน้ามีปัญหาหรอ" แล้วก็ขับรถผ่านไป สักครู่ วัยรุ่นเจ้าถิ่นกลับมาพร้อมพวกอีก 3 คน เข้ารุมทำร้าย"ไรเดอร์หนุ่ม" ใช้เหล็กแหลมแทงทะลุปอด ได้รับบาดเจ็บสาหัส แจ้งความ สภ.ลำลูกกา ตั้งแต่ 27 มิ.ย.65 แต่เรื่องเงียบกริบ! #ฝากท่านผู้กำกับลำลูกกา #ฝากท่านผู้การปทุมธานี #ท่านผู้บัญชาการภาค1 หันมามองดูชาวบ้านบ้างนะคะ ตำรวจภูธรภาค 1 Smart Safety Zone
เมื่อช่วงเช้า วันที่ 17 ก.ค.65 นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจ"สายไหมต้องรอด" ได้พาผู้สื่อข่าวไปที่บ้านของหนุ่ม"ไรเดอร์" ซึ่งอยู่ในพื้นที่ ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกาคลอง 6 จ.ปทุมธานี ได้พบกับ นายณัฐวุฒิ น้อยดี น้องชายผู้บาดเจ็บ และนายสกุลชัย น้อยดี พี่ชายผู้บาดเจ็บ อายุ 31 ปี
นายณัฐวุฒิ เล่าว่า ในวันเกิดเหตุตนและเพื่อน"ไรเดอร์" 5-6 คน กำลังนั่งกดงานอยู่ที่หน้าตลาดชัชวาล มีวัยรุ่น 2 ผัวเมียขับมาที่ตนจอด ซึ่งรุ่นน้องจำได้ว่าขับผ่านตรงที่ตนเองจอดอยู่ไปแล้ว 1 รอบ ก่อนจะลงมาชี้หน้าด่าทักคนที่อยู่ตรงนั้น ซึ่งทุกคนก็ตกใจว่าอยู่ดีดีมาชี้หน้าด่าหาว่า "มองหน้าเขามีปัญหาหรอ" พร้อมบอกว่าตัวกูอยู่หมู่บ้านนี้ มึงอยากมีปัญหาใช่มั้ย ก่อนจะขับรถออกไป
จากนั้นไม่ประมาณ 10 นาที วัยรุ่นคนเดิมได้กลับมาพร้อมอาวุธ"เหล็กฟุตชาป" และเพื่อนอีก 3-4 คน ก่อนจะมาไล่แทงตนเองซึ่งตอนนั้นหนีไม่ทัน จากนั้นก็วิ่งไล่แทงคนอื่นด้วย ตอนนั้นต่างคนต่างไม่กล้าช่วย เพราะกลุ่มเพื่อนผู้ก่อเหตุได้ยืนคุมเชิงอยู่ หลังเกิดเหตุตนและเพื่อนๆได้ช่วยกันหาข้อมูล และกล้องวงจรปิดด้วยตนเอง จนทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร ซึ่งได้ส่งข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว เวลาล่วงเลยมานานกว่า 28 วัน คดียังไม่คืบหน้า บอกแต่แค่หลักฐานยังไม่เพียงพอต้องรอ"ใบรับรองแพทย์" แม้กระทั่งรู้ชื่อรู้ตัวคนก่อเหตุแต่ก็ยังเอาตัวมาดำเนินคดีไม่ได้ ตอนนี้อยากให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวมาให้ได้ เพราะไม่อยากให้ไปไล่แทงใครอีก อยากฝากบอกคู่กรณี "เราไม่รู้จักกันไม่น่ามาแทงกันแบบนี้ และอยากให้ปรับตัวใหม่"
ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ กระทำการอุกอาจต่อหน้าคนสัญจรไปมาเยอะแยะ ถ้าไม่รีบจับกุมหรือไม่รีบนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนจะอยู่ที่ไหน หลังจากนี้จะประสานยัง ผู้กำกับการ สภ.ลำลูกกา และกระทรวงยุติธรรม ในการนำตัวน้องและเพื่อน"ไรเดอร์" เข้าสู่กระบวนการคุ้มครองพยานด้วย
จากนั้นได้พาลงพื้นที่ดูจุดเกิดเหตุ พบว่าอยู่ห่างจากตลาดเพียงเล็กน้อย มีทั้งร้านค้าและอาคารพาณิชย์ รวมถึงมี"กล้องวงจรปิด"ติดตั้งจำนวนมาก ซึ่งถือว่า การก่อเหตุในครั้งนี้อุกอาจ และไม่เกรงกลัวกฎหมายแต่อย่างใด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง