ข่าว

แม่เลี้ยงเดี่ยว สุดดีใจ "พีระพันธุ์" ทำแทนลุงตู่ รุกช่วยเหลือ แบบนี้?

แม่เลี้ยงเดี่ยว สุดดีใจ "พีระพันธุ์" ทำแทนลุงตู่ รุกช่วยเหลือ แบบนี้?

14 ก.ค. 2565

แม่เลี้ยงเดียว เปิดใจ ในรอบ 22 ปีเพิ่งได้รับการช่วยเหลือ สุดดีใจ "พีระพันธุ์" ทำแทนลุงตู่ ลงพื้นที่ร้อยเอ็ดรุกช่วยเหลือด้วยวิธีการแบบนี้

เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2565 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยความเป็นธรรมและเร่งรัดการปฏิบัติราชการ ตามคำสั่งของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯพร้อมทีมงานเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 125 หมู่ 13 ต.โนนสวรรค์ อ.ปทุมรัตต์ จ.ร้อยเอ็ด เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาตามข้อร้องเรียนของประชาชนกรณี นางศศิกานต์ จ่อยลา อายุ 57 ปี ร้องขอความช่วยเหลือผ่านเทศบาล ต.โนนสวรรค์ เพื่อขอนำตัวลูกสาวพิการ 2 คนเข้าสถานสงเคราะห์ชั่วคราว และกรณีของนายเคน โยธาจันทร์ อายุ 66 ปีที่ต้องเลี้ยงครอบครัว 6 ชีวิตจากเงินผู้สูงอายุเท่านั้น ซึ่งทั้งสองกรณีต้องการความช่วยเหลือเพราะมีความลำบากในการทำมาหากินจากความยากจน

 

นายพีระพันธุ์ ได้สอบถามรายละเอียดความเป็นมาของข้อร้องเรียน ทราบว่า กรณีของนางศศิกานต์ แม่เลี้ยงเดี่ยว ได้รับความเดือดร้อน เพราะต้องเลี้ยงดูบุตรสาวพิการ 2 คน และหลานชายวัย 5 ขวบอีกหนึ่งคนเพียงลำพังเนื่องจากสามีเสียชีวิต โดยลูกสาวคนโตอายุ 37 ปี พิการทางการได้ยิน,สื่อความหมายและพิการทางสติปัญญา ช่วยเหลือตัวเองได้เล็กน้อย ส่วนลูกสาวคนสุดท้องอายุ 22 ปี พิการออทิสติก ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ขณะที่หลานชายเรียนอยู่ชั้นอนุบาล โดยพ่อของเด็กซึ่งเป็นบุตรชายคนที่สองไม่ได้ส่งเสีย ทำให้นางศศิกานต์ต้องดูแลลูกและหลานด้วยตัวเองจากเงินคนพิการของลูกสาวเท่านั้น และยังมีหนี้นอกระบบอีกจำนวนกว่าสองแสนบาท

ขณะที่กรณีของนายเคน โยธาจันทร์ อายุ 66 ปี ชาว อ.ปทุมรัตน์ จ.ร้อยเอ็ด ที่ส่งหนังสือร้องขอความช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายประจำวันเพื่อเลี้ยงครอบครัวซึ่งประกอบด้วยภรรยา หลาน และเหลน รวม 6 คนแต่มีเพียงเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และการประกอบอาชีพเลี้ยงเป็ดไก่ เท่านั้น ทำให้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ

 

ทั้งนี้หลังรับการร้องเรียนหน่วยงานของรัฐ ประกอบด้วย สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดขอนแก่น(พมจ.ขอนแก่น) สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด(พมจ.ร้อยเอ็ด) และโรงพยาบาลร้อยเอ็ด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความช่วยเหลือกับผู้ร้องเรียนทั้งสองแล้ว

 

โดยในส่วนของนางศศิกานต์ ได้รับการช่วยเหลือโดยการมอบเงินช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและช่วยเหลือในการดูแลสุขภาพบุตรสาวพิการทั้งสองผ่านกลไก อสม. พยาบาล และ อพม. รวมทั้งติดตามดูแลความเป็นอยู่เป็นระยะ เพื่อให้นางศศิกานต์สามารถดำรงชีวิตเลี้ยงดูครอบครัวต่อไปได้

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี พร้อมคณะลงพื้นที่ภาคอีสานช่วยประชาชน

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯช่วยเหลือลุงเคน โยธาจันทร์ ผู้สูงวัยที่ลำบาก

ขณะที่ส่วนของนายเคน ได้รับเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยช่วยเหลือ 3,000 บาท ปีละ 3 ครั้ง ซึ่งในส่วนนี้ ได้รับการช่วยเหลือไปแล้วในเดือนกรกฎาคม และอีกครั้งในเดือนกันยายนและหาครอบครัวอุปถัมภ์หลานทั้ง 4 คน อีกทั้งทางครอบครัวจะได้รับเงินสงเคราะห์เด็กอีกเดือนละ 5,000 บาท

 

นายพีระพันธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาท่านนายกฯ รับทราบมาตลอดว่ามีปัญหาร้องเรียนเข้ามาจำนวนมาก แต่เนื่องจากแต่ละหน่วยงานมีการทำงานที่อาจจะยังบูรณาการร่วมกันไม่ได้ราบรื่นเท่าที่ควร หลังจากการหารือร่วมกันนายกฯ จึงได้สั่งการให้ตนมาดูแลในเรื่องนี้ ซึ่งจริงๆ แล้วมีการช่วยประชาชนตามข้อร้องเรียนมานานแล้ว ไม่ได้เพิ่งเริ่มทำเพียงแต่เป็นการทำคนละรูปแบบกับปัจจุบันซึ่งตอนนี้ตนเข้ามาประสานให้รวดเร็วมากขึ้น

 

นายพีระพันธุ์ กล่าวด้วยว่า จะจากการที่ลงพื้นที่ในวันนี้ผลเป็นที่น่าพอใจ เพราะได้รับทราบปัญหาอุปสรรคต่างๆ จากเจ้าหน้าที่ที่ทำงานโดยตรงจะได้กลับไปหาแนวทางแก้ไข โดยเห็นว่าหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาบูรณาการทำงานด้วยกันปัญหาของประชาชนก็จะได้รับการแก้ไขได้รวดเร็วขึ้น วันนี้จึงถือเป็นผลสำเร็จหลังจากที่ได้มีการปรับปรุงการทำงานใหม่

 

“หลังจากนี้ก็จะต้องไปทั่วทุกพื้นที่ไม่ใช่เพียงแค่ จ.ร้อยเอ็ด และต้องอาศัยผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยทำงานเพิ่มเติมด้วยเพราะ มีเรื่องร้องเรียนมาที่ 1111 จำนวนมาก อย่างเคสวันนี้เขายื่นเรื่องตั้งแต่ปี 61 มาถึง 65 เขาก็ทนมา 4 ปี พอท่านนายกฯ มอบหมาย ผมก็เรียกมาดูเลยว่ามีกรณีไหนเร่งด่วน และลงพื้นที่มาเลย พอมาดูพบว่าหน่วยราชการเขาทำกันอยู่แล้วเพียงแต่ทุกหน่วยมีอุปสรรค แต่ว่าเขาไม่รู้ว่าจะรายงานไปที่ไหน อันนี้เราจะได้กลับไปหาแนวทางแก้ไขเรื่องขั้นตอนต่างๆ เพื่อให้รวดเร็วขึ้น ก็ต้องให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ด้วย” นายพีระพันธุ์กล่าว

 

ด้าน นางศศิกานต์ แม่เลี้ยงเดี่ยว กล่าวว่า หลังได้รับความช่วยเหลือรู้สึกดีใจมาก เมื่อก่อนเหมือนตนลอยคออยู่กลางทะเลคนเดียวมองไม่เห็นฝั่ง แต่วันนี้มีที่พึ่งมากขึ้น และยิ่งเห็นว่านายพีระพันธุ์ลงพื้นที่มาด้วยตัวเอง ตนรู้สึกดีใจมาก ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้รับโอกาสนี้ เพราะตนเป็นเพียงคนยากจน รากหญ้าที่อยู่ห่างไกล ตอนนี้ในส่วนของการช่วยเหลืออื่นๆ ต้องแล้วแต่ทางราชการจะพิจารณา ส่วนตัวอยากให้ลูกได้มีโอกาสได้รับการดูแลเรื่องของประกันสังคม หรือสวัสดิการของคนพิการอย่างเหมาะสม และตนก็อยากจะได้อาชีพที่มีรายได้ประจำเพื่อจะได้เลี้ยงลูกกับหลาน

แม่เลี้ยงเดี่ยวสุดดีใจได้รับการช่วยเหลือในรอย 22ปีจากรัฐ

 

“ตอนนี้มีกำลังใจสู้ต่อไป เพราะท่านพีระพันธุ์ ท่านนายกฯ และทีมงานของท่านดีกับครอบครัวเรามาก วันนี้ไม่คิดไม่ฝันว่าท่านพีระพันธุ์จะลงมาเยี่ยมด้วยตัวเอง อยากฝากขอบคุณที่ท่านยังไม่ลืมราษฎร์รากหญ้าอย่างเรา จะไม่ลืมพระคุณท่าน ซาบซึ้งในน้ำใจของท่านที่มาช่วยเหลือ อยู่มา 22 ปี เพิ่งจะได้รับการช่วยเหลือในครั้งนี้” นางศศิกานต์ กล่าว

 

ขณะที่นายเคน กล่าวว่า ตนและครอบครัวดีใจมากที่นายพีระพันธุ์ และผู้หลักผู้ใหญ่ ลงพื้นที่มาดูแลด้วยตัวเอง อยากฝากขอบคุณไปถึงนายกรัฐมนตรี ที่ทำถูกแล้วเพราะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังและอยากให้นายกฯ ได้ปกครองบ้านเมืองต่อไป

 

ติดตามข่าวสาร คมชัดลึก อื่นๆ ได้ที่

Website - www.komchadluek.net

Facebook - https://www.facebook.com/komchadluek