แม่มือปืนยิงอาเบะ ขายสมบัติบริจาค "ลัทธิมูน" 100 ล้านเยน -กลุ่มทนายแฉเพิ่ม

หลังจากที่ "โบสถ์แห่งความสามัคคี" (Unification Church)  สาขาญี่ปุ่น  หรือที่เรียกโดยทั่วไป ลัทธิมูน แถลงยอมรับว่า มารดาของนายเท็ตสึยะ  ยามางามิ  มือปืนสังหารอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ เมื่อวันที่ 8 ก.ค.  เป็นสาวกของลัทธิ แต่ไม่ได้เปิดเผยยอดเงินที่เธอบริจาคให้แก่องค์กร  ซึ่งเป็นประเด็นใหญ่ เนื่องจากผู้ต้องสงสัยวัย 41 อ้างปมลงมือ เพราะมีความเชื่อว่านายอาเบะสนับสนุนองค์กรศาสนาที่แม่ของเขาขนเงินไปบริจาคจนหมดเนื้อหมดตัว และยังคงบริจาคแม้ล้มละลายแล้ว   

ล่าสุด อาซาฮี สื่อญี่ปุ่น  รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของญาติว่า มารดาของยามางามิ บริจาคเงินประมาณ  100 ล้านเยน (ราว 26 ล้านบาท) ให้กับโบสถ์แห่งความสามัคคี จำนวนนี้ รวมถึงเงิน 50 ล้านเยน (ราว 13 ล้านบาท) ที่ได้จากกรมธรรม์ประกันชีวิตสามี  และรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 3 รายการ

อาซาฮี ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับญาติ ที่ออกมาให้ข้อมูลเรื่องยอดบริจาคว่าเป็นใคร แต่รายงานอ้างแหล่งข่าวเพิ่มเติมว่า คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่ยึดจากบ้านของผู้ต้องสงสัยและแม่ของเขา มีข้อความที่นายยามางามิเขียนบ่นเรื่องแม่ และโบสถ์แห่งความสามัคคี  

ยอดบริจาคราว  100 ล้านเยน สอดคล้องที่ NHK รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวสอบสวน 

ประธานโบสถ์แห่งความสามัคคีสาขาโตเกียว แถลงเมื่อสองวันก่อนว่า แม่ของผู้ก่อเหตุยิงนายอาเบะ เข้าเป็นสาวกเมื่อประมาณปี 2531 และต่อมาระบุในแถลงการณ์เมื่อ 13 ก.ค. ว่า  ยังไม่รู้ยอดเงินบริจาคของมารดาของยามางามิอย่างชัดเจน  แต่ได้ส่งคืนเงินจำนวน 50 ล้านเยนแก่เธอในช่วง 10 ปีนับจากปี 2548  โดยไม่ได้ระบุว่า เหตุใดจึงคืน

ขณะญาติคนหนึ่งกล่าวว่า ครอบครัวได้ร้องเรียนไปยังองค์กรศาสนาแห่งนี้ อีกฝ่ายจึงคืนเงิน 50 ล้านเยน แต่ต่อมา แม่ของยามางามิก็บริจาคเงินอีก 

อีกด้านหนึ่ง  เวบไซต์ ไมนิจิ  สื่อญี่ปุ่น  รายงานว่า  เครือข่ายทนายความต่อต้านการขายทางจิตวิญญาณ (National Network of Lawyers Against Spiritual Sales)  แถลงข่าวโต้โบสถ์แห่งความสามัคคี กรณีชี้แจงว่า ไม่เคยบังคับขู่เข็ญให้สาวกบริจาคนั้น เป็นคำโกหก หลายปีมานี้ มีคำตัดสินคดีแพ่ง ที่ชี้ถึงความไม่ชอบด้วยกฎหมายของการบริจาคให้กลุ่มศาสนาแห่งนี้ และสั่งให้คืนเงินอดีตสาวกหลายราย  

ฮิโรชิ  ยางูจิ ตัวแทนเครือข่ายทนายความฯที่ให้คำปรึกษากับอดีตสาวก  ยกคดีที่อดีตสาวกคนหนึ่ง  เคยฟ้องเรียกเงินที่เธอเคยบริจาคให้โบสถ์แห่งความสามัคคี ช่วงปี 2555-2558  และศาลแขวงโตเกียว มีคำตัดสินเมื่อเดือนก.พ. 2563  ให้คืนเงินให้แก่เธอราว 4.7 ล้านเยน (ราว 1.24 ล้านบาท)  ด้วยเหตุผลว่า การเรียกร้องเงินบริจาคกระทำผ่านวิธีการไม่เหมาะสม ปลุกความวิตกและตื่นกลัว  

ในโอกาสเดียวกันนี้ เครือข่ายทนายความฯ  เรียกร้องนักการเมืองงดการกระทำใด ๆ ที่แสดงออกถึงการสนับสนุนองค์กรศาสนาแห่งนี้  ทั้งระบุว่าเมื่อเดือนกันยายน 2564  กลุ่มทนายฯ เคยส่งจดหมายประท้วงถึงนายอาเบะ หลังจากที่เขาส่งสารผ่านคลิปวิดีโอ เปิดในที่ประชุมออนไลน์จัดโดยกลุ่มพันธมิตรของโบสถ์แห่งความสามัคคี  ซึ่งทนายได้แย้งว่าอาจทำให้นายอาเบะถูกมองว่ารับรององค์กรศาสนาแห่งนี้