ข่าว

ศึก แดงเดือด "แมนยู-ลิเวอร์พูล" จบลง แต่มีอะไรมากกว่าแค่เตะปรีซีซั่น

13 ก.ค. 2565

จบการแข่งขันฟุตบอลใน THE MATCH Bangkok Century Cup 2022 หรือ " แดงเดือด" ที่ประเทศไทย ด้วยการที่ทั้งสองทีม "แมนยู-ลิเวอร์พูล " สู้กันได้แบบเต็มที่ โดยทั้งสองทีมถือเป็นคู่ปรับตลอดการที่โคจรมาพบกันครั้งนี้ ซึ่งมากไปกว่านั้น ปีศาจแดง และ หงส์แดง ต่างมีการบ้านที่ต้องแก้ไข

หลังจาก ศึก "แดงเดือด" ฟุตบอลรายการ "THE MATCH Bangkok Century Cup 2022" หรือ THE MATCH  ระหว่าง  "แมนยู-ลิเวอร์พูล"  ที่ลงทำการแข่งขัน ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งทั้งสองทีมดังจากเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต่างไม่ยอมกัน เพราะเป็นแมตช์ที่บ่งบอกถึงศักดิ์ศรีของทีม ถึงแม้ว่าผลจะจบลงในครั้งนี้ เป็นฝ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะ ลิเวอร์พูล ไปได้ถึง 4-0 ก็ตาม แต่รายละเอียดของเกมมีมากกว่านั้น 

โดยเริ่มจาก การจัดตัวผู้เล่นของทั้งสองทีม  "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ภายใต้การคุมทีมของ เอริค เทน ฮาก  ในเกมนี้แบ่งผู้เล่นลงสนามเป็นสองชุด คือ 11 ผู้เล่นตัวจริง ดาบิด เด เคอา , ดีโอโก้ ดาโลต์ , ราฟาแอล วาราน , วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ , ลุค ชอว์ , สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ , เฟร็ด , เจดอน ซานโช่ , บรูโน่ แฟร์นันด์ส , มาร์คัส แรชฟอร์ด , อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล  ก่อนที่ครึ่งหลังจะมีการส่งผู้เล่นชุดที่ 2 หรือ สำรองลงมาสัมผัสเกมนี้ ประกอบไปด้วย  เอริค ไลยี่ ,  ไทเรลล์ มาลาเซีย , อาหมัด ดิยัลโล่ , อเล็กซ์ เตลลิส ,  ฟากุนโด เปยิสตรี , , แอรอน วาน-บิสซาก้า ,  ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค , แอนโธนี่ อีแลงก้า , ซีดาน อิคบาล  , ชาร์ลี ซาเวจ และ ทอม ฮีตัน 

 

ทางฝั่ง "ลิเวอร์พูล" ของ เจอร์เกน คลอปป์ ผจก.ทีม แบ่งเป็นผู้เล่นทั้งหมด 3 ชุด ประกอบไปด้วย 11 ผู้เล่นตัวจริง อาลีสซง เบ็คเกอร์ , ไอแซ็ก มาบาย่า , โจ โกเมซ , เนธาเนียล ฟิลลิปส์ , ลุค แชมเบอร์ส , ไทเลอร์ มอร์ตัน , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ , ฟาบิโอ คาร์วาลโญ่ , โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ , หลุยส์ ดีอาซ  ผุ้เล่นชุดที่ 2 ถูกเปลี่ยนลงในนาทีที่ 30 บ็อบบี้ คลาร์ก  , เจมส์ มิลเนอร์ ,  รีส วิลเลียม , โจเอล มาติป , เลห์ตัน คลาร์กสัน ,  อเล็กซ์ ออกซ์เลด-เชมเบอร์ลิน , คอสตาส ซิมิคาส , สเตฟาน บาเซติก ,  เคอร์ติส โจนส์ , เมลคามู เฟราเอนดอร์ฟ รวมถึงชุดที่ 3 ถูกส่งลงมาในนาที 60 อาเดรียน , เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค , ฟาบินโญ่ , เธียโก้ อัลคันทาร่า ,  อิบราฮิม โคนาเต้ , แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน , เทรนต์อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ , นาบี เกอิต้า ,  โทมัส ฮิลล์ , ดาร์วิน นูเญซ และ โฒฮาเหม็ด ซาลาห์ 

 

 

 

 

 

 

 

 

โดยการลงแข่งขันฟุตบอลระดับมืออาชีพถึงแม้จะเป็นแค่การทัวร์ปรีซีซั่น หรือ การแข่งขันแบบอุ่นเครื่องกระชับมิตร แต่ความเข้มข้น คือการทดสอบระบบการเล่นของทีม , ความพร้อมก่อนเริ่มแข่งขันฤดูกาลหน้า ซึ่งทั้ง แมนยู และ ลิเวอร์พูล ต่างมีโปรแกรมลงทำการแข่งขันแต่ละสโมสรไม่ต่ำกว่า 45 เกม ทั้ง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฟุตบอลถ้วยภายในประเทศ คาราบาว คัพ หรือ เอฟเอ คัพ  และฟุตบอลยุโรป เป็นต้น 

 

การได้ดูฟอร์มนักเตะจึงเป็เรื่องสำคัญมาก รวมไปถึงระบบของทีมที่ต้องเร่งปรับปรุงแก้ไข ก่อนฤดูกาลใหม่จะเริ่มต้นขึ้น ซึ่งหากทีมใดมีความพร้อม ในช่วงก่อนออกสตาร์ทย่อมเจอกับ อุปสรรค์ ในการแข่งขันน้อย รวมถึงบรรดาดาวรุ่งของทีม ที่จะใช้ช่วงการอุ่นเครื่องเป็นการโชว์ฟอร์มให้เห็นถึงความสามารถ กับการได้รับโอกาสลงเล่นมากยิ่งขึ้น 

 

อย่างไรก็ตาม โปรแกรมถัดไปของ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด  15 ก.ค.  พบ เมลเบิร์น วิคตอรี่  ทีมจากลีกสูงสุดประเทศออสเตรเลีย  แข่งขันที่ เมลบิร์น,ออสเตรเลีย , 19 ก.ค.  พบกับ  :  คริสตัล พาเลซ  ทีมร่วมพรีเมียร์ลีก  แข่งขันที่  เมลเบิร์น,ออสเตรเลีย ,  23 ก.ค.   พบกับ  แอสตัน วิลล่า ทีมร่วมพรีเมียร์ลีก แข่งขันที่   เพิร์ธ,ออสเตรเลีย ,  30 ก.ค.   พบ แอตเลติโก้  มาดริด ทีมจากลาลีกา สเปน   แข่งขันที่ ออสโล,นอร์เวย์  และ  31 ก.ค.  พบ ราโย บาเยกาโน่    ทีมจากลาลีกา สเปน  แข่งขันที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด อังกฤษ  ส่วนเปิดฤดูกาลพรีเมียร์ลีก  แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด มีโปรแกรมลงแข่งขันพบ ไบรท์ตัน  วันที่   7  ส.ค. โดย แมนยู เล่นเป็นเจ้าบ้าน 

 

ส่วน ลิเวอร์พูล 15  ก.ค.   พบกับ คริสตัล พาเลซ  ทีมร่วมพรีเมียร์ลีก  แข่งขันที่สิงคโปร์  ,  21 ก.ค. พบกับ  แอร์เบ ไลป์ซิก ทีมจากบุนเดสลีกา เยอรมัน  แข่งขันที่เยอรมัน    27 ก.ค.  พบกับ  เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ทีม จากออสเตรีย ที่ เร้ดบูลล์ อารีน่า ออสเตรีย ,   31  ก.ค.  พบ สตาร์สบูร์ก ทีมจากฝรั่งเศส  แข่งขันที่แอนฟิลด์  ลิเวอร์พูล ยังมีโปรแกรมพบกับ  แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในฟุตบอลคอมมิวนิตี้ ชิลด์ วันเสาร์ที่ 30 ก.ค. ที่สนาม คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ก่อนลงเล่นเกมแรก พรีเมียร์ลีก  6 ส.ค.  ด้วยการออกไปเยือน ฟูแล่ม