
ครอบครัวเล่านาทีสยอง "สุนัข" ที่เลี้ยงไว้กัดบ้าคลั่ง จำใจให้ตร.การุณยฆาต
"สุนัข" ที่รับมาเลี้ยงจู่ ๆ ดุร้ายกัดคนในบ้าน ขย้ำคอพ่อ กัดแม่และลูกสาวทั้งที่ไม่มีการยั่วยุ สุดท้ายจำใจขอให้ตำรวจการุณยฆาต
สตีเฟน และมิเชลล์ เควล สามีภรรยา อยู่ที่บ้านในย่านบัลดิวิส ทางใต้ของนครเพิร์ธ รับสุนัขพันธ์บลู ฮีลเลอร์ ตัวหนึ่งมาเลี้ยงราว 1 เดือน ตั้งชื่อว่า เอส (Ace) โดยได้รับแจ้งตั้งแต่ตอนนั้นแล้วว่า เอซมีปูมหลังไม่ดีนักเคยผ่านเรื่องราวร้ายๆมา แต่ก็ไม่คิดว่าวันหนึ่งมันจะอาละวาดกัดพวกเขาโดยไม่มีการยั่วยุอะไรเลย
เหตุเกิดเมื่อเย็นวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สตีเฟนนั่งอยู่บนพื้นห้องทำงาน ภรรยาเดินเข้ามา เอสเดินตามหลังเธอ แล้วมันก็พุ่งตัวกัดเข้าที่คอแบบไม่ทันตั้งตัว ภรรยาเห็นดังนั้นถึงเข้าไปช่วยสามี พยายามผลักมันออก แต่เอสแข็งแรงมาก เธอต้องใช้แรงทั้งหมดจนดึงตัวมันหลุดออกมาได้ โยนออกไปนอกห้องทำงาน และปิดประตู ปรากฎว่า สุนัขอายุ 3 ปี หันไปกัดลูกสาววัย 18 ของพวกเขาที่แขน เธอต้องวิ่งไปขังตัวเองอยู่ในห้องนอน
สามีภรรยาตัดสินใจโทรขอความช่วยเหลือจากตำรวจ แต่ขณะที่มิเชลล์ต้องออกไปเปิดประตูให้ตำรวจเข้ามา เอสกระโจนเข้ามาฝังเขี้ยวที่ขาของเธออีก สตีเฟนต้องมาปลุกปล้ำกับสุนัขอีกรอบเพื่อช่วยภรรยา “ผมต้องออกมาง้างปากมันเพื่อให้มันปล่อยภรรยา ก่อนโยนไปทางตำรวจ แล้วตะโกนว่า ยิงเลย ยิง” ตำรวจลั่นกระสุน ออกไปก่อน 2 นัด เมื่อเห็นมันบาดเจ็บสาหัส จำต้องยิงซ้ำเป็นนัดที่สาม ให้เอสไม่ทรมาน
สามีภรรยาช็อกทั้งเหตุการณ์ที่เกิดกับตัวเอง และการสูญเสีย เอส ที่พวกเขารับมาเลี้ยงและคิดว่าจะเลี้ยงมันตลอดไป โดยเมื่อรับมาเลี้ยงก็ดูแลอย่างดี เอสยังสวมปลอกคอพลาสติกอยู่เพราะเพิ่งไปผ่าตัดตอน ทั้งคู่เชื่อว่า สตีเฟน อาจตายได้ หากสุนัขไม่มีปลอกคอพลาสติก ทำให้มันไม่สามารถฝังเขี้ยวลึกมากที่ใต้คางของเขา
ทั้งสามต้องเข้ารับการรักษาที่รพ. แม่และลูกสาวถูกกัดหลายแผล ส่วนสตีเฟน บาดเจ็บที่คอ คางและแขน
ด้าน ฮันนาห์ ดรีฟเวอร์ จากองค์กรสิทธิสัตว์ RSPCA แสดงความเห็นว่าพฤติกรรมดุร้ายรุนแรงของสุนัขเลี้ยงเช่นนี้ ไม่ได้พบเห็นบ่อย เราไม่อาจรู้ได้ถึงผลกระทบจากความเครียดที่สุนัขมีอยู่ หรืออะไรที่กระตุ้นให้มันแสดงพฤติกรรมดุร้ายขนาดนั้น แต่จากการทำงานที่สมาคมฯมานาน 8 ปีครึ่ง เธอไม่เคยได้ยินว่าสุนัขที่รับไปเลี้ยงมีพฤติกรรมดุร้ายแบบนี้มาก่อน