ข่าว

"ครม." เคาะยกเว้นภาษีจัดงานอีเว้นท์ - ลดค่าโอนและจำนองที่ดินเกษตร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"นายกรัฐมนตรี" เผย ที่ประชุม "ครม." เห็นชอบยกเว้นภาษีองค์กรจัดสัมมนาและแสดงสินค้าในประเทศ สูงสุด 2 เท่า ส่วนเกษตรกรที่มีที่ดินทำกินของตัวเอง ลดค่าธรรมเนียม โอน-จำนอง

เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสร็จสิ้น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงมาตรการช่วยเหลือประชาชน ว่า วันนี้ครม.มีมติเห็นชอบ ยกเว้นภาษี สำหรับองค์กร หน่วยงาน บริษัท ที่จัดอบรมสัมมนาและจัดงานแสดงสินค้าภายในประเทศ ซึ่งหากจัดในจังหวัดรองจะยกเว้นภาษี 2 เท่า ส่วนจังหวัดอื่นๆ 1.5 เท่า เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด19 และเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและกระตุ้นการท่องเที่ยว โดย 2 มาตราการนี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. - สิ้นปี 65  คาดว่าจะมีเงินหมุนเวียน 2,200 ล้านบาท 

นอกจากนี้ยังมีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่มีที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง รวมถึงการป้องกันการสูญเสียสิทธิ จึงมีมติเห็นชอบลดหย่อนค่าธรรมเนียม การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม สำหรับโอนและจำนองอสังหาริมทรัพย์จากเดิมร้อยละ 2 เหลือเพียง ร้อยละ 1.01 ตามราคาประเมินทุนทรัพย์

 

สำหรับการอนุมติงบประมาณมีหลายโครงการ 
- อนุมติงบประมาณกว่า 1,943 ล้านบาท ในการพัฒนาและส่งเสริมความเข้มแข็งของฐานรากและเศรษฐกิจของฐานรากรวมมากกว่า 1,000 โครงการ ใน 29 จังหวัด เพื่อให้นำงบประมาณพัฒนาโครงการในท้องที่ ปรับปรุงถนน การใช้เทคโนโลยีเพื่อเศรษฐกิจชุมนุม โครงการสร้างคุณค่าด้านการเกษตร เช่น การประมง การบริหารจัดการน้ำ โครงการสร้างประโยชน์ให้ชุมนุม เช่น การพัฒนาฝีมือแรงงาน การพัฒนาการท่องเที่ยว ซึ่งจะมีประชาชนได้รับประโยชน์มากกว่า 1 ล้านคน และเกษตรกรอีกมากกว่า 5 แสนคน
-อนุมติงบประมาณกลาง 1,000 ล้านบาท ช่วยเกษตรกร 3 กรณี 
1. ชดเชยค่าสุกรและอาหารสัตว์ที่ถูกทำลาย เป็นไปตามมาตรการป้องการโรคอหิวาต์แอฟริกาและโรคระบาดร้ายแรงในสุกร เนื่องจากยังไม่มีวัคซีนในการรักษา 
2. จัดซื้อวัคซีนเพื่อป้องกันโรคลัมปีสกินในโคกระบือ
3. ช่วยเหลือเกษตรการกรณีโคกระบือตาย จากโรคลัมปีสกิน
โดยทั้ง 2 โรคนี้(โรคอหิวาต์แอฟริกาและโรคลัมปีสกิน)ไม่แพร่เชื้อหรือระบาดสู่คน จึงยังไม่น่ากังวล 
-อนุมติงบประมาณ 395 ล้านบาท ซ่อมแซมโรงเรียนในสังกัด สพฐ. ที่ประสบภัยธรรมชาติ จำนวน 1,078แห่ง 

ทั้งหมดนี้เป็นบางส่วนที่รัฐบาลเดินหน้าขับเคลื่อนช่วยเหลือประชาชน เชื่อว่าจะสามารถเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงจากสถานการณ์การคลังที่มีเสถียรภาพและโอกาสใหม่ๆในการเจรจากับต่างประเทศ และรายได้จากการท่องเที่ยวในครึ่งปีหลังตามนโยบายเปิดประเทศ 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ