ข่าว

บุกทลาย"แก๊งคอลเซ็นเตอร์" 9 จุดทั่วกทม. อึ้ง!โทรป่วนได้ 20 ล้านครั้ง/เดือน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตำรวจ ร่วม กสทช.และเอไอเอส เข้าทลาย"แก๊งคอลเซ็นเตอร์" 9 จุดในพื้นที่กทม. จับกุมผู้ต้องหา 1 ราย ผู้ต้องสงสัย 4 ราย ตรวจยึดของกลางจำนวนมาก

จับกุม แก๊งคอลเซ็นเตอร์

เมื่อวันที่ 6 ก.ค.65 เวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี บช.สอท. ร่วมกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. และ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด  หรือ เอไอเอส เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเขตดินแดง ห้วยขวาง ลาดพร้าว และ บางนา 9 จุด ตรวจยึดของกลางได้ 8 จุด  โดยสามารถจับกุมตัวนายสุรชาติ แซ่โจ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343, 83 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และนําเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14(1) มีอัตราโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ” และพบผู้ต้องสงสัยอีก 4 ราย

โดยปฏิติการครั้งนี้ตรวจยึดของกลางเครื่องสัญญาณ IP PBX จำนวน 43 เครื่อง เครื่องส่งญาณไร้สาย wireless router จำนวน 30 เครื่อง และของกลางอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกหลายรายการ เช่น สมุดบัญชีธนาคาร โทรศัพท์มือถือ 

พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีการโทรมาจากต่างประเทศ ต้องขอบคุณระบบการแจ้งเตือน  AIS Spam Report Center 1185 และกสทช.ที่ให้ความร่วมมือ  โดยจุดดังกล่าว(เขตบางนา)สามารถตรวจยึดเครื่องสัญญาณ IP PBXได้จำนวน 32 เครื่อง ใน 1 เครื่องใส่ซิมการ์ดได้ 32 เบอร์ 1 เบอร์โทรได้ 500 ครั้งต่อวัน เท่ากับ 1 วันจุดนี้จะโทรได้วันละ 16,000ครั้ง ซึ่งวันนี้ 8 จุด ยึดเครื่องสัญญาณ IP PBX ได้ 48 เครื่อง เท่ากับว่า ใน 1 เดือนสามารถโทรได้มากถึง 20 ล้านครั้ง ขณะนี้ตรวจสอบผู้ลงทะเบียนซิมการ์ดได้ 12 เบอร์ ส่วนที่เหลือจะต้องตรวจสอบเพิ่มเติม 

 

ทั้งนี้นอกจากนายสุชาติ แล้วตำรวจยังสามารถคุมตัวผู้ต้องสงสัย 4 คน เบื้องต้นให้การปฏิเสธ แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เพราะจากการตรวจสอบข้อมูลทำให้เชื่อว่าเป็นผู้ร่วมขบวนการ มีชาวไต้หวันเข้ามาสอนเทคนิคต่างๆ ไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต ก็สามารถใช้ซิมธรรมดาส่งสัญญาณไปยังผู้ร่วมขบวนที่อยู่ตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้านได้เลย โดยไม่ต้องเสียเงิน  ขบวนการนี้หัวหน้าเป็นชาวต่างชาติ ก่อเหตุอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน เริ่มตั้งแต่เดือนก.พ.65  ส่วนจะทำมานานแค่ไหนจะต้องตรวจสอบอีกครั้งว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง 

ส่วนผู้ที่ปล่อยให้เช่าบ้านหรือห้อง จะมีความผิดฐานสนับสนุน ซึ่งต้องสังเกตุพฤติกรรมคนมาเช่าว่า มีการเข้าออกหรือไม่ ในห้องมีเตียง ตู้ เตียงนอน โทรทัศน์หรือไม่ โดยเชื่อว่ายังมีก่อเหตุในพื้นที่ต่างจังหวัดด้วย 
 

พล.ต.ต.กรไชย กล่าวว่า ขณะนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์พัฒนาจากเบอร์โทร +697 เป็นเบอร์ของเครือข่ายโทรศัพท์ในประเทศไทย ทำให้ประชาชนหลงกล รับสาย และถูกล้วงข้อมูลส่วนตัวหรือหลอกให้โอนเงิน ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมในแต่ละวันถึงโทรหาผู้เสียหายจำนวนมาก เนื่องจาก 1 คนสามารถลงทะเบียนได้เป็นหมื่นซิมการ์ด แต่หลังจากนี้จะตรวจสอบผู้ที่ลงทะเบียนมากว่า 5 ซิมการ์ด 


ส่วนการเปิดเว็บไซต์Thaipoliceonline.com เพื่อให้ประชาชนแจ้งความร้องทุกข์เกี่ยวกับคดีออนไลน์ขึ้นมาตั้งแต่ 1 มี.ค. มีผู้รับแจ้งเบาะแสคดีคอลเซ็นเตอร์เข้ามากว่า 40,000 ราย เฉลี่ยวันละ 400-500 ราย จากนั้นตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ พร้อมพิกัดส่งสัญญาณ จนนำมาสู่การจับกุมครั้งนี้ เนื่องจากเราไม่เชื่อว่าจะเป็นการก่อเหตุจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างเดียว

ด้านนางสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าฝ่ายงานประสัมพันธ์ เอไอเอส กล่าวว่า ที่ผ่านได้ตั้งศูนย์ผ่านบริการสายด่วน 1185 AIS Spam Report Center  1185 มีผู้แจ้งเบาะแสเข้ามาจำนวนมาก ทางเอไอเอสก็ทำงานร่วมกับตำรวจและกสทช. ตรวจสอบหมายเลข ส่งต่อข้อมูลเพื่อขยายผลจับกุม ซึ่งการตั้งศูนย์ดังกล่าวเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า เราไม่ปล่อยทิ้งไว้ เจอจับจริง ไม่ใช่การเปิดศูนย์ขึ้นมาลอยๆเท่านั้น 

บุกทลาย"แก๊งคอลเซ็นเตอร์" 9 จุดทั่วกทม. อึ้ง!โทรป่วนได้ 20 ล้านครั้ง/เดือน
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ